ตอน บทที่ 504 เคยสาบานเอาไว้ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 504 เคยสาบานเอาไว้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ไป๋ฉี่?”
เซียวเฉวียนมองเขาอย่างตกใจ เขามองไป๋ฉี่ที่อยู่เบื้องหน้าตนคนนี้ แต่กลับไม่ใช่ไป๋ฉี่ที่ตัวเขาคุ้นเคย
ตอนที่ไป๋ฉี่หยุดตัวเขาเอาไว้ตอนนั้นไม่ได้ใช้แขน แต่กลับเป็นจิตสังหารอันหนักแน่น
เมื่อเป็นเช่นนี้ไป๋ฉี่ก็ไม่จำต้องสัมผัสกับร่างของเซียวเฉวียนโดยตรง เซียวเฉวียนก็จะไม่เจ็บแล้ว
เซียวเฉวียนมองตราประทับสีแดงเลือดหมูที่อยู่กลางหว่างคิ้วไป๋ฉี่ สิ่งนั้นเหมือนตราประทับกลางหว่างคิ้วเซียวเฉวียนทุกประการ เพียงแต่ว่าของเซียวเฉวียนนั้นอ่อนจางมาก ทว่าของไป๋ฉี่เปลี่ยนเป็นสีแดงหมดแล้ว
“นายท่าน ข้าอยู่นี่”
ไป๋ฉี่ที่ร่างกายสูงใหญ่หลุบตาลงเล็กน้อย เขาใช้จิตสังหารปกป้องเซียวเฉวียนเอาไว้ข้างใน เพื่อให้เซียวเฉวียนเหลือพลังที่จะประคองท่าทางอยู่ได้ เพื่อให้เจ้านายได้รักษาท่วงท่าอันทรงเกียรตินี้เอาไว้ ไม่ได้ให้เขาตัวพับตัวอ่อนล้มอยู่ที่พื้น จากนั้นก็ถูกคนเหล่านี้ที่อยู่ที่นี่ก้มหน้ามอง
ในลำดับขั้นทั้งสามร้อยยี่สิบแปดนี้ ไป๋ฉี่กับเซียวเฉวียนอยู่ลำดับต่ำสุด
ไทเฮากับฮูหยินฉินอยู่ตำแหน่งสูงสุด แถมด้วยขุนนางบุ๋นและผู้อารักขาของเขาที่ทำหน้าดุดัน พวกเขามองสองนายบ่าวข้างล่างด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
“เซียวเฉวียน! เซียวเฉวียน!”
ชิงหลงอดทนต่อความเจ็บปวดรุนแรงที่ถูกโจมตีเมื่อครู่ พยายามแหวกฝูงคนพุ่งเข้ามาด้วยอารมณ์ร้อนใจหนัก
เมื่อได้เห็นเซียวเฉวียนยืนอยู่ตรงนั้น และคนก็ยังไม่ได้แหลกสลาย เขาก็ถอนหายใจยาวออกมาหนึ่งครั้ง
แต่ว่า นั่นเป็นใครกัน?
สายตาของชิงหลงมองตกลงบนร่างของไป๋ฉี่ นี่ไป๋ฉี่หรือ?
“เย่าเหล่า ทำไมหว่างคิ้วเขาเป็นเช่นนั้นกัน?” ภายในใจชิงหลงตกตะลึง ชิงหลงคุ้นเคยกับภาพของหว่างคิ้วไป๋ฉี่นี้มาก
นั่นคือตราประทับของจูเสิน!
สายตาชราของเย่าเหล่าพร่าพราย เขามองอีกหลายครั้งด้วยอารามสั่นเทา อดจะตกตะลึงหนักไม่ได้!
ตามบันทึกของสมุดโบราณ บุคคลใดที่หนีพ้นจากการควบคุมของตราประทับจูเสิน ตรงหว่างคิ้วจะปรากฎรอยตราเช่นนี้!
ตราประทับจูเสินนั้นแต่ไรมาอยู่เหนือกว่าคุนหลุนหลายรุ่น ไป๋ฉี่เป็นคนคุนหลุนคนแรกที่หนีพ้นจากตราประทับจูเสิน!
แต่เพราะอะไร!
เพราะอะไรจึงเป็นไป๋ฉี่!
แต่ไม่ใช่รัชทายาทสูงศักดิ์อย่างชิงหลงผู้นี้?
และกลับมิใช่คชราที่มีอาวุโสอย่างเย่าเหล่ารายนี้กั?
จะเป็นไป๋ฉี่ไปได้อย่างไร?
สายตาของชิงหลงกับเย่าเหล่านั้นเต็มไปด้วยคำถามนับหมื่น แต่ว่าพวกเขาก็คิดเข้าใจขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่ง
สายตาของพวกเขากรอกกลับไปยังเซียวเฉวียนที่ต้องอาศัยพลังของไป๋ฉี่จึงจะยืนขึ้นมาได้!
เซียวเฉวียนเป็นผู้มีจิตอักษรแถมแตะระดับกวีสมุทร ไป๋ฉี่เป็นผู้อารักขาคนแรกของเขาและเป็นคนแรกที่เซียวเฉวียนต่อเทพสื่อสารด้วย
ในวันนี้ผนึกจูเสินพังทลาย ไม่เพียงทำให้ร่างกายของชาวคุนหลุนเร็วขึ้นเล็กน้อย ไป๋ฉี่ยิ่งเป็นคนที่ได้รับผลดีไวที่สุด เขากลายเป็นคนคุนหลุนคนแรกที่หลุดพ้นจากตราประทับจูเสิน
ตอนนี้เหล่าคนต้าเว่ยที่อยู่ในวังหลวงทางนี้พากันวางตัวสูงส่งได้อกได้ใจ แต่ละคนต่างรู้สึกว่าเซียวเฉวียนนั้นเป็นดังเนื้อปลาบนเขียงหิน ร่างกายอ่อนยวยเช่นนี้ เพียงเห็นก็รู้ว่าไม่ไหวแล้ว มีอะไรน่ากลัวกัน!
ทว่าสายตาของชิงหลงเต็มไปด้วยความยอมสยบและอาการตกตะลึง!
กระทั่งเข่าที่สั่นเทาทั้งสองข้างยังอยากจะคุกเข่าให้ด้วยความรวดเร็วไม่ได้!
แต่เขาจำเป็นต้องอดทนเอาไว้!
หากว่าคนต้าเว่ยรู้ว่า เซียวเฉวียนสามารถปลดผนึกกักกันของชาวคุนหลุนได้ เช่นนั้นต้าเว่ยย่อมไม่ให้เซียวเฉวียนมีชีวิตอยู่แน่!
นี่คือความลับระดับสะเทือนฟ้า!
ชิงหลงต้องอดทนเอาไว้!
ทนเอาไว้!
สายตาที่เขาใช้มองไป๋ฉี่นั้เต็มไปด้วยอาการตกตะลึงและชื่นชม
ในเวลานี้ยามนี้ ด้านบนศีรษะของไป๋ฉี่นั้นมีดาบจิงหุนลอยอยู่ยี่สิบกว่าเล่ม ไอสังหารสะท้านสะเทือน บารมีบีบคั้นค!
ร่างกายอันสูงใหญ่ของเขานั้นไม่ได้แตกต่างไปกว่ายามปรกติ แต่ว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวนั้น ให้ความรู้สึกแตกต่างเป็นคนละเรื่องกับผู้อารักขาที่เอาแต่เชื่อฟังคนนั้นโดยสิ้นเชิง
นัยน์ตาแดงทั้งคู่ของไป๋ฉี่นั้น นัยน์ตาประกายแสงเรืองรอง มีพลังคมปลาบ
สภาวะกล้ามเนื้อและจิตใจของเขานั้น อยู่ในระดับสภาวะการทำศึก!
นี่คือพลังปราณเทพบริสุทธิ์แบบที่เทพสงครามเท่านั้นที่จะมีได้!
เป็นสภาวะที่เทพสงครามเท่านั้นถึงจะมีอยู่ได้!
ไป๋ฉี่ ณ เวลานี้ ก็คล้ายกับยมบาลที่กำลังจะเปิดฉากฆ่าฟัน!
“ใครกัน เห็นองค์ไทเฮาแล้วไม่คารวะ! ยังจะยืนโง่อยู่ที่นั่นทำอะไร! คุกเข่าลง!” ขันทีรายหนึ่งบีบเสียงแหบพลางร้องเรียก
ขั้นบันไดทั้งสามร้อยนี่สิบขั้นนั้นทั้งยาวและสูงชัน เพื่อให้ไป๋ฉี่ได้ยินชัด ขันทีจึงตะโกนจนกล่องเสียงแทบพังแล้ว
เสียงเสียงหนึ่งดังทุ้มขึ้น ริมฝีปากของไป๋ฉี่ทั้งอ้าทั้งหุบ คล้ายกับเสียงสวรรค์ที่โผล่มา มันสะท้อนไปทั่วทั้งตำหนักฉางหมิง ยังคงเป็นคำถามนั้น “พวกท่า เหตุใดละทิ้งนายของข้า?”
ไป๋ฉี่สามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์สุขทุกข์เศร้าโกรธของเซียวเฉวียน สิ่งที่เซียวเฉวียนรู้สึกนั้น ไป๋ฉี่ยิ่งรู้สึกทั้งหมด
ความโมโหของเซียวเฉวียน ยิ่งเป็นโทสะของไป๋ฉี่!
ตอนแรกสายตาของเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้ผิดจริงๆ!
เซียวเฉวียนยินดีแทบคลั่ง!
เขาไม่ได้มองคนผิดไป!
แม่เจ้า วันนี้ใครกล้าแตะเส้นผมสักเส้นของเขากัน?
มีไป๋ฉี่อยู่ เช่นนั้นก็ฝันไปเถอะ!
เมื่อครู่เซียวเฉวียนที่เจ็บจนคิดจะตาย เมื่อได้เห็นไป๋ฉี่ก็คล้ายเขาจะไม่เจ็บศีรษะอีกแล้ว ทรวงอกของเขาเองก็เหมือนจะไม่รวดร้าวแล้ว เขามองไป๋ฉี่พลางยิ้มออกมาอย่งโง่ๆ มึนงง คล้ายกับว่าตัวเขาได้เห็นหมูที่ตัวเองเลี้ยงมาในที่สุดก็โตเสียที
ไม่สิ เซียวเฉวียนรีบโต้กลับตัวเอง นี่ควรจะเป็นลูกชายในบ้านของเขาที่โตมาอย่างภาคภูมิสิ
เหอๆ เซียวเฉวียนยิ้มอย่างยินดี เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย พลางสลบไปอย่างยินดีปรีดา
ไป๋ฉี่ยกมือขึ้น จิตสังหารนั้นเคลื่อนตัวเซียวเฉวียนออกไประยะห่างหนึ่งร้อยเมตร เมื่อทำเช่นนี้ ก็กันไม่ให้เจ้านายได้รับบาดเจ็บในเวลาที่สู้กันขึ้นมา
ชิงหลงทนไม่ไหวแล้ว “เย่าเหล่า รีบเข้าไปรักษาเซียวเฉวียนเร็ว!”
“ขอรับ!”
ไป๋ฉี่กับคนต้าเว่ยจะสู้กันแล้ว ชิงหลงจำเป็นต้องช่วยเซียวเฉวียน
“กับอีแค่ผู้อารักขารายหนึ่ง เจ้าคิดอยากจะเปิดศึกใหญ่กับองครักษ์ของพวกเราต้าเว่ยงั้นหรือ?”
ฮูหยินฉินตะคอกเสียงเย็นครั้งหนึ่ง ที่แท้สุนัขนั้นก็เหมือนกับเจ้านาย เซียวเฉวียนเป็นนายที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ดังนั้นแล้วไป๋ฉี่เองก็เป็นแค่สุนัขที่ไม่รู้ชั่วดีตัวหนึ่งเหมือนกัน!
“เพราะเหตุใด จึงทิ้งเจ้านายข้า?”
ไป๋ฉี่ยังคงเอ่ยประโยคนั้น
ครอบครัวของไป๋ฉี่ติดหนี้บุญคุณตระกูลเซียวมหาศาล วันนี้ไป๋ฉี่ต้องการถามให้ชัดเจน เพื่อมอบความชัดเจนให้เซ๊ยวเฉวียนและตระกูลเซียว!
“ช่างเป็นสุนัขที่ดีตัวหนึ่งจริงๆ! เจ้าลืมแล้วหรือ น้องสาวของเจ้ายังอยู่ในวังหลวง เป็นพระสนมคนโปรดของฝ่าบาท!”
ฮูหยินฉินแค่นเสียงเย็น “เจ้าไม่เพียงไม่ควรตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเรา ยังควรจะสังหารเซียวเฉวียนด้วย!”
“เมื่อเป็นแบบนี้ น้องสาวของเจ้าก็จะไม่มีปัญหาแล้ว”
นางแย้มยิ้มเล็กน้อย คำพูดนี้พูดได้ชัดเจนนัก ไป๋ฉี่เลือกได้เพียงแค่อย่างเดียว เซียวเฉวียนกับน้องสาวนั้น เขาเลือกได้เพียงแค่คนเดียว
ทุกคนคิดว่า ไป๋ฉี่จะต้องลังเล
ทว่าเพียงฮูหยินฉินพูดจบ ไป๋ฉี่ก็ตาแดง เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความมุ่งมั่นไม่สั่นคลอน บารมีของเขาแผ่ซ่าน “ข้าเคยสาบานไว้แล้วว่าจะตายเพื่อนายท่านเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...