สรุปเนื้อหา บทที่ 506 เตรียมการไว้แต่แรก – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 506 เตรียมการไว้แต่แรก ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ปรักปรำงั้นหรือ?
ศีรษะของไป๋ฉี่เอนเล็กน้อย น่าตลก
“วันนี้ท่านจำต้องสังหารนายข้าให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ให้ลูกชายเจ้ากลับมา?”
ไป๋ฉี่พูดอย่างเย็นชา ดาบจิงหุนนั้นทอประกายสาดผ่านหน้าฮูหยินฉิน ฮูหยินฉินแข้งขาอ่อน ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนไม่เคยเอ่ยปากกับคนนอกในเรื่องนี้ นางคิดว่าเซียวเฉวียนเกรงกลัวสถานะของคนตระกูลฉิน
จะอย่างไรนางก็ไม่ทันคาดคิด วันนี้ไป๋ฉี่ถึงกับกล้าเอ่ยปากเรื่องผิดพลาดที่ฉินเฟิงกับฉินซูโหรวทำต่อหน้าพระพักตร์ไทเฮาและคนในวังหลวงจำนวนมากมายปานนี้!
สีพระพักตร์ไทเฮา เห็นชัดว่าผิดปรกติแล้ว
ต่อให้ไทเฮาจะกล้าแทรกแซงราชสำนักแต่ก็ยังมีขอบเขตอยู่บ้าง ต่อให้เป็นนางที่เชี่ยวชาญทางการเมืองก็ไม่กล้าแตะและจะไม่เรื่องนี้
สังหารผู้มีผลงาน ยิ่งในช่วงระหว่างเวลาสงครามคือข้อห้ามร้ายแรง!
ยิ่งตระกูลฉินนั้นเป็นตระกูลแม่ทัพอันดับหนึ่งของต้าเว่ย แถมยังเป็นผู้ที่รักปกป้องเหล่าทหาร ก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา อีกหน่อยราชสำนักจะเอาความน่าเชื่อถือไปไว้ที่ใด?
“มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?” หัวคิ้วของไทเฮาขมวด ฮูหยินฉินส่ายหน้า จะไปกล้ายอมรับได้อย่างไร
ฮูหยินฉินหันศีรษะมาตะคอก “เจ้า...เจ้ามีหลักฐานอะไร!”
ไป๋ฉี่เงียบงัน
เขาไม่มีหลักฐาน
ได้ยินเจ้านายว่า ตอนที่ฉินซูโหรวสังหารพวกเขานั้นกระทำการอย่างกะทันหันยิ่ง ในตอนนี้เซียวเฉวียนยังอยู่ปากภูเขา และอยู่ในสภาพพร้อมรบกับเหล่าชาวยุทธ์ รอจนกระทั่งกลับมาแล้ว ซากร่างของพวกเว่ยไป๋ทั้งหลายกลับถูกฉินซูโหรวกับฉินเฟิงจัดการไปหมดแล้ว
แม้ไม่มีหลักฐานก็ไม่จำต้องกังวล มีคนผู้หนึ่งไม่โกหกแน่
นี่คือป้ายพิทักษ์ชีวิตที่เซียวเฉวียนบอกกับไป๋ฉี่ ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนเคยกำชับไป๋ฉี่เอาไว้ หากว่าในอนาคตมีวันใดที่เขาถูกฮูหยินฉินบีบจนไร้ทางถอยในวังหลวงแล้ว ก็ให้เอาเรื่องที่สองพี่น้องฉินเฟิงกระทำมาเล่าให้คนฟังเสีย
หลังจากนั้นก็ให้ไปเชิญคนผู้หนึ่งมา ฉินเซิง
ฮูหยินฉินดื้อรั้นปกป้องลูกเป็นที่สุด แต่ว่าฉินเซิงกับฉินปาฟางนั้นเหมือนกัน แบ่งแยกถูกผิดชัดเจน ไม่มีลำเอียง
ฉินเซิง คือจุดอ่อนร้ายกาจของฮูหยินฉิน
“ไปถามแม่ทัพฉินสักหน่อย ก็ทราบแล้ว”
ไป๋ฉี่โยนประโยคนี้มาอย่างไร้ที่ทางพุ่งตรงสู่จุดตายของฮูหยินฉิน
ไม้นี้นับว่าใช้เป็นครั้งแรก
ผลลัพธ์นั้นนับว่าประเสริฐอย่างยิ่ง
ฮูหยินฉินเข้าใจสามีของตัวเองดียิ่ง เขาจะต้องบอกตามความจริงแน่
ถึงเวลานั้นไม่เพียงแค่ฉินเฟิงจะกลับมาไม่ได้ นางยังปกป้องไม่ได้แม้แต่ฉินซูโหรวด้วย!
ฮูหยินฉินกำหมัดแน่น นางจ้องมองเซียวเฉวียนที่เป็นลมไปแล้วอย่างชิงชัง โมโหจนไม่อาจมีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ย!
ต่อให้เซียวเฉวียนเป็นลมไปแล้ว แต่กลับขุดหลุมดักนางเอาไว้!
ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่!
เซียวเฉวียนนั้นสั่งสอนไป๋ฉี่เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าควรต้องรับมือเช่นไร!
เซียวเฉวียนไม่เสียดายเลย แม้จะสลบไปแล้วแต่เขาก็ยังเป็นคนแรกที่หาเรื่องได้
ครั้นพูดว่าจะเชิญฉินเฟิงมา ไทเฮาเห็นสภาพบุตรีบุญธรรมลุกลี้ลุกลนเช่นนี้ ก็ทราบได้ทันทีว่าไป๋ฉี่นั้นพูดความจริง!
หากว่าความจริงเป็นเช่นนี้ วันนี้ที่ฮูหยินฉินเชิญนางมาก็เพียงแค่ยืมมือไทเฮาอย่างนางกำจัดเซียวเฉวียนก็เท่านั้น!
หากว่าไทเฮาทรงกระทำเช่นนี้จริง เช่นนั้นอีกหน่อยจะมีใครรับใช้นางกัน?
ตอนนี้บุตรชายบุตรสาวตระกูลฉินสังหารขุนนางผู้สร้างผลงานไป เรื่องนี้สำคัญกว่าคนหนุ่มอย่างเซียวเฉวียนมากนัก!
แล้วยิ่งตรงนี้มีคนมากมายเพียงนี้ กระทั่งเย่าเหล่ากับชิงหลงยังได้ยิน เรื่องนี้ไม่อาจจะปิดบังได้อีก ไทเฮาทรงต้องยื่นมือเข้ามาจัดการแล้ว!
“เรียกฉินเซิงมา! ข้าอยากจะชดใช้ให้กับคนที่ตายไปแล้ว!”
ไทเฮาถูกบีบให้ต้องเอ่ยประโยคนี้ออกมา ฮูหยินฉินแข้งขาอ่อนทันที เมื่อครู่ตัวนางยังทำตัวเหมือนแม่ไก่กระโดดได้อยู่เลย ในที่สุดนางก็เสียความควบคุม นางเข้าไปตะโกนใส่ไป๋ฉี่อย่างโมโห “ทำร้ายข้าเพื่ออะไร! เพราะอะไรจึงปล่อยลูกชายลูกสาวข้าไปไม่ได้!”
นางพุ่งเข้าไปทุบตีบริเวณหน้าอกของไป๋ฉี่ ไป๋ฉี่ยืนนิ่งเฉยปล่อยให้นางทุบเอาตามใจ
แต่ครั้นมือของนางตีเข้าไปที่กล้ามเนื้อแขนของไป๋ฉี่ นางก็พลันหดมือเข้าไปทันที
ไป๋ฉี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
กล้ามเนื้อแขนของเขานั้นกำยำเป็นที่สุด
มีเพียงแต่ผู้ที่สะบัดกระบี่รำดาบมานานปีเท่านั้น ถึงจะอยู่ในระดับนี้ได้
ชาวคุนหลุนนั้นผิดแผกจากฟ้าดินแถมยังถนัดการรบ ในเมื่อตราประทับจูเสินยังอยู่ ย่อมต้องมีผู้ที่ได้รับผลย้อนกลับไม่น้อย ดังนั้นแล้วบาดแผลนี้จึงพบเห็นได้เป็นประจำยิ่งบนร่างของชาวคุนหลุน
แม้จะพูดว่าพบเห็นบ่อย แต่บาดแผลเช่นนี้ก็หนักหนายิ่ง เย่าเหล่านั้นพบเห็นเป็นครั้งแรก แต่ว่าขอเพียงเวลานั้นมีมากพอ อาการของเซียวเฉวียนย่อมรักษาหายดีแน่
"กระดูกแตกแล้ว ยังรักษาได้หรือ?"
ชิงหลงยากจะเชื่อ เย่าเหล่าพยักหน้า เขาชี้ไปยังแผ่นหลังของเซียวเฉวียน “ดีนักที่รากอักษรของเขาแข็งกล้าเกินไป พลังฟื้นตัวของเขาเลยเหนือกว่าคนธรรมดา ตอนแรกที่รากอักษรก่อนกำเนิด เขาจะต้องเจ็บปวดสุดแสนแน่”
คนปรกตินั้นพอถูกปฏิกิริยาย้อนกลับของตราประทับจูเสิน ก็จะเละเป็นโคลนไปแต่แรกแล้ว
แต่เซียวเฉวียนดันทนได้ไหว
ช่างเป็นบุคคลเปรียบดังเทพ!
ตอนนี้เย่าเหล่านับถือเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก พลังในยามนี้ดังแม่น้ำหลากไม่ธรรมดาเลย แต่เสียดายที่เซียวเฉวียนสัมผัสไม่ได้
หลังจากเซียวเฉวียนสลบไป สติของเขาก็ย้อนกลับมาที่สมุทรกวีคุนหลุนอีกครั้ง
แต่ว่า ครั้งนี้เขามึนเบลออย่างมาก ปีศาจกวีกำลังตากแดดอยู่ ครั้นเห็นเขาเข้า ก็โมโหจนตะโกน “แม่งเจ้ากลับมาทำอะไรอีกวะ! ไสหัวกลับไป!”
ปีศาจกวีเตะครั้งหนึ่ง เซียวเฉวียนเพียงรู้สึกว่าเขาถูกใครสักคนถีบเข้าโดยแรงบริเวณบั้นเอว ก้นของเขาเจ็บนัก เขาถลึงตามองก่อนจะตื่นขึ้นมาในทันที!
ครั้นตื่นขึ้นมา สุดยอดไปเลย
ได้เห็นคนในห้องทั้งห้อง
พระพักตร์ฮ่องเต้นั้นโผล่เข้ามาคนแรก “ขุนนางรักเซียว เจ้าตื่นแล้วหรือ?”
ไม่เพียงแค่เขา
แล้วยังมีคนสองคนที่ไม่ควรปรากฏตัวอยู่มาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกเสียด้วย
“ใต้เท้าเซียว ท่านยกโทษให้ข้าด้วยเถอะ”
ผู้ที่เอ่ยวาจานี้คือฮูหยินฉิน ด้วยความมึนงงพอเซียวเฉวียนได้ยินเสียงของฮูหยินฉินนั้น เขาก็สะท้านจนได้สติขึ้นมา เขาเพ่งสายตามอง ฮูหยินฉินกำลังยิ้ม ยิ้มอย่างฝืนเฝื่อนแต่ก็พยายามสุดกำลัง
ฮูหยินฉินแต่ไรมาไม่เคยก้มหน้า ตอนแรกที่ฮูหยินฉินตบหน้ามารดาของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนสั่งให้เหมิงเอ้าตบกลับ นางก็ไม่ยอมก้มหน้า
เพราะเหตุใด วันนี้หงส์ผู้สูงศักดิ์ตัวนี้กลับยอมก้มศีรษะให้เขากันล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...