ณ ชายแดนต้าเว่ย
ชายแข่งแกร็งทั้งสองกำลังจะทำการหลบหนีออกจากต้าเว่ยและมุ่งหน้าไปยังซินเจียงเพื่อมองหาหญ้าอสุรา
ชายคนแรกคือตงจั่วและชายอีกคนคือเถ๋าจี๋
เซียวเฉวียนพูดถูกจริงด้วยๆเถ๋าจี๋อยู่ที่นั่นจริงๆ ในแถวป่าไผ่ชานเมือง
เดิมทีต่งจัวนั้นเป็นองครักษ์ของอัครเสนบดีจู จึงทำให้เขารู้จักเหล่าขุนนางในศาลเกาหลีเหนือ
ส่วนเถ๋าจี๋เดิมทีแรกเริ่มต้นจากการเป็นขุนนางระดับสามและอยู่ในพวกกลุ่มเว่ยชิง และต่อมาเขาถูกอัครเสนาบดีจูนั้นใส่ร้าย จนเถ๋าจี๋ได้ทำการสังหารหมู่ซ่งจือ แม้กระทั่งฝั่งเซียวเฉวียนเองก็ไม่มีเวลาเตรียมตัวโต้ตอบเลย เจียงหนานตระกูลเถ๋าเองก็ถูกเว่ยเชียนชิวทอดทิ้งและถูกกำจัดอย่างโหดเหี้ยมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เขาก็ไปคลุกคลีกับความชั่วร้ายและในที่สุดเขาก็โดนความชั่วร้ายนั้นเล่นงานเอง
ต่อมาเถ๋าจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากคุกโดยปีศาจกวี
ปีศาจกวีนั้นรู้สึกสงสารเขาและความจริงแล้วนั้นเถ๋าจี๋ก็ไม่ได้เป็นคนสังหารหมู่ตระกูลซ่งจือ เขาแค่ร่วมมือกับพวกชั่วและจ่ายราคาแพงเพื่ออนาคตของครอบครัวของเขา ปีศาจกวีนั้นยังไม่อยากให้เขาตาย
หลังจจากออกจากคุกมานั้นก็ไม่มีใครเห็นเถ๋าจี๋อีกเลย
จนกระทั่งต่งจั่วมาตามคำสั่งของเซียวเฉวียนเพื่อตามหาหญ้าอสุรากับเขา เถ๋าจี๋เองก็เดินมาเจอ
เถ๋าจี๋เปลี่ยนไปเยอะจากเมื่อก่อน
ในอดีตนั้นเถ๋าจี๋เป็นปัญญาชนที่มีดวงตาที่สงบและเฉียบแหลมมาก หลังจากกลายเป็นชาวยุทธ์แท้ เขากลับกลายเป็นเป็นอีกคนกลายเป็นคนเงียบขรึมและดวงตาของเขานั้นดูเหมือนว่างเปล่าไปหมด
ในตอนแรกนั้นเถ๋าจี๋ไม่ค่อยเต็มใจที่จะไปกับเขา แต่พอเถ๋าจี๋นำรูปหนึ่งรูปขึ้นมาเป็นรูปที่มีพู่กันเฉียนคุนและบอกว่าเป็นคำสั่งของนายท่านของเขาและเขาจำเป็นต้องออกไปตามหา
ปีศาจกวีเคยพูดกับเถ๋าจี๋ว่าคนที่มีพู่กันอันนี้นั้นคือนายท่านของเขา
ดังนั้นหลังจากที่เถ๋าจี๋อดกลั้นมาตั้งนาน เมื่อมองไปที่ภาพวาดนี้เขาจึงตัดสินใจเดินตามต่งจัวทันทีโดยไม่คิดอะไรเลย เป็นระยะทางแปดร้อยไมล์และมุ่งหน้าไปยังซินเจียงและได้พบเจอกับปัญหาใหญ่คือไม่สามารถออกไปได้
ณ เวลานี้ ชายแดนได้รับการปกป้องอย่างหนาแน่นมากกว่าเดิม และมีองครักษ์เพิ่มขึ้นเท่าตัว พวกเขาไม่มีใบผ่านแดนจึงไม่สามารถออกจากเขตแดนของต้าเว่ยเพื่อไปซินเจียงได้
หากพวกเขาแอบออกไปมีโอกาสที่จะถูกจับค่อนข้างสูง คิดว่าหากเขาตายด้วยเหตุผลว่าพวกเขาหนีออกนั้นคงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรจะเกิดอย่างมาก เรื่องข้อทรยศเซียวเฉวียนนั้นไม่สามารถหนีได้และเซียวเฉวียนอาจต้องถูกโยงเกี่ยวอย่างแน่นอน
เมื่อต่งจัวอยู่ในจุดที่ไม่มีทางไปแล้ว จู่ๆก็มีร่างหนึ่งที่กำลังโกรธและส่งเสียงคร่ำครวญก็ปรากฏขึ้นข้างหลังพวกเขา
ต่งจัวก็เกิดความระแวงขึ้นทันที นี่ "ใครกันรึ?"
นั่นคือชิงหลง
สุดท้ายแล้วเขาก็ถูกผู้อาวุโสหยุนเหอจับกุมเพราะระหว่างทางกลับนั้นเขาได้พบเจอกับต่งจัวและเถ๋าจี๋
ตอนนี้ชิงหลงและผู้อาวุโสกำลังพักผ่อนอยู่ในใกล้ๆ ขณะที่ผู้อาวุโสเผลอ ชิงหลงจึงใช้โอกาสนี้แอบออกมา
“ใต้เท้าชิงหลง”
ต่งจัวแสดงทำความเคารพ ส่วนเถ๋าจี๋แสดงอาการน่าเบื่อแต่ก็โค้งคำนับทำความเคารพเช่นกัน
ชิงหลงพยักหน้า "ข้ามาที่นี่เพื่อส่งท่านทั้งคู่ไปยังซินเจียง"
“นายท่านส่งท่านมาที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
“ไม่” ชิงหลงมีท่าทีกังวล เขานั่งและมองไปทางขวา “ข้าถูกผู้อาวุโสจับตัวอยู่ ท่านรีบกลับไปบอกนายของท่านว่าข้าจะกลับมาอีกแน่นอนหากมีโอกาส”
“ตอนนี้ที่ข้ากำลังส่งท่านไปหาหญ้าอสุรา ข้าจะถือว่ามันเป็นของขวัญให้กับท่านเซียว โปรดจำไว้ว่าเพื่อเห็นแก่ความเต็มใจของข้าที่จะช่วยเขานั้น ท่านต้องคำนึงถึงแต่เรื่องผนึกจูเสินไว้ในใจ ”
ชิงหลงนั้นเป็นผู้ไร้เดียงสาจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้พูดฟ้องอะไร แต่เซียวเฉวียนก็วางแผนที่จะจัดการผนึกจูเสินแล้ว
“อ้องั้นรึ” ต่งจัวเป็นชาวยุทธ์แท้ที่มีการศึกษาน้อย และพูดตรงๆ “สิ่งที่ท่านหมายถึงคือท่านกำลังพยายามทำให้นายท่านของข้าพอใจ และขอให้นายข้าไม่ลืมท่าน”
"..."จู่ๆ ชิงหลงก็โกรธขึ้นมาทันที เขาเป็นเจ้าชายผู้สง่างามแห่งคุนหลุน เขาต้องการเซียวเฉวียนมากงั้นเชียวหรือ นั่นมันดูไม่มีศักดิ์ศรีเอาส้ะเลย แต่ต่งจัวก็ยังคงพูดอยู่!
อ๊ะ!
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรืออ?” ต่งจัวกระพริบตา “ข้าเข้าใจผิดไปงั้นหรือ?”
“อย่าทรงกริ้วเลย…อย่าทรงกริ้วเลย…”
ชิงหลงสูดหายใจเข้าลึกๆ หากว่าต่งจัวเป็นไม่ใช่ชาวยุทธุ์แท้ เขาคงอยากจะปิดปากนั่นส้ะ
“หยุดพูดไปเรื่อยเสียที ข้าจะนำทางพาเจ้าไปหาหญ้าอสุรา”
ชิงหลงเพียงดีดนิ้วของเขาก็ส่งทั้งคู่ออกไปพร้อมกับม้าอย่างรวดเร็ว
ผู้เฒ่าคนหนึ่งมองดูอยู่ไม่ไกล อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและถึงกับส่ายหัว "ข้าหยุดไม่ได้แล้ว... ข้าหยุดมันไม่ได้จริงๆ นี่คงเป็นโชคชะตาสินะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...