ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 525

รีบก็รีบไปเสียสิ เหตุใดต้องสั่งผู้อื่นด้วยเล่า?

ขณะนี้ เซียวเฉวียนและเหลียงไหวโหรว แสดงสีหน้าเหยียดหยามอย่างรู้กันที่หาได้ยาก

เห็นได้ชัดว่าเขาสองคน มีมุมมองและทัศนคติที่คล้ายคลึงกันต่อแม่ฉิน

“เหลียงไหวโหรว!” แม่ฉินที่สั่นสะท้านไปทั้งตัวตะคอกใส่เหลียงไหวโหรว “เจ้านิ่งเฉยไม่แยแสข้า หมายความว่าอย่างไร?”

“เจ้าไม่เห็นหรือว่าแม่ยายของเจ้าเจ็บปวดเพียงใด? ห๋า?”

“เจ้าคนเนรคุณกลับนิ่งดูดายงั้นหรือ?”

แม้ว่าแม่ฉินจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่นางก็ถูกเลี้ยงตามใจจนเสียนิสัยมาโดยตลอด นางมีอารมณ์รุนแรง และเมื่อมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจเพียงเล็กน้อย ปากของนางก็จะด่าฉอด ๆ เช่นเดียวกับผู้หญิงปากร้าย

แม้ว่านางจะตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ แต่ท่าทางเจ้ากี้เจ้าการของนางก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

แม่ฉินประเมิณค่าตัวเองสูงเกินไป ต่อให้คนทั่วโลกใต้หล้าต่างตามใจนางจนเสียนิสัย แต่มีอยู่สองคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมตามใจนางอย่างแน่นอน

แน่นอน ตอนนี้เขาทั้งสองอยู่ข้าง ๆ นาง

แน่นอน เขาทั้งสองล้วนเป็นนายท่านของนาง

และแน่นอน เขาทั้งสองต่างไม่ได้สนใจนางเลยจริง ๆ

ไม่ต้องพูดถึงเซียวเฉวียน แม่ฉินก็รู้ดีว่าเรื่องจะเป็นเช่นไร

แต่นางไม่เข้าใจเหลียงไหวโหรว หากเทียบกับเซียวเฉวียน นางดีต่อเหลียงไหวโหรวมาก และยอมให้เขามากเกินไป!

เหลียงไหวโหรวมีเว่ยเชียนชิวให้ท้าย อยากได้สิ่งใดในจวนฉินก็ย่อมได้สมใจปรารถนา แม้แต่เขาลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายฉินซูโหรว ใช้กำลังกับฉินซูโหรว พวกเขาก็ทำได้เพียงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

อย่างไรเสีย ก็เป็นเพราะฉินซูโหรวกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกับผู้พเนจรในยุทธภพคนนั้นแล้วจริง ๆถือเป็นการทำลายช่ือเสียงของตัวเอง และทำลายชื่อเสียงของตระกูลฉิน!

แม่ฉินปล่อยให้เหลียงไหวโหรวสามารถครอบงำทุกสิ่งได้ตามต้องการ และให้เกียรติแก่นายท่านอย่างที่เขาสมควรได้รับ และตอนนี้เขากำลังเพิกเฉยต่อนางเช่นนั้นหรือ?

“เจ้ามันก็แค่คนเนรคุณ! แค่ก ๆ ๆ!” แม่ฉินตะคอกด้วยความโกรธและไอคอแหบแห้ง จนในคอมีกลิ่นเลือดจาง ๆ เนื่องจากใช้แรงด่ามากเกินไป ทำให้ไอจนคอได้รับบาดเจ็บ

ทางด้านแม่ฉินที่ท่าทางโกรธเกรี้ยวราวสายฟ้าฟาด ทางด้านเซียวเฉวียนและเหลียงไหวโหรวที่นิ่งเฉยราวกับสายลมที่แผ่วเบา เซียวเฉวียนถึงขนาดเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า วันนี้อากาศไม่เลวเลยทีเดียว

“เหอะ…” ครานี้แม่ฉินรู้ดีว่านางคือหัวเดียวกระเทียมลีบ และนางแทบไม่อยากจะเชื่อ “เหลียงไหวโหรว เจ้าลูกหลานตระกูลยาจก ในตอนแรกที่เจ้าสอบคัดเลือกขุนนาง ก็ได้เพียงอันดับสองเท่านั้น!”

“เจ้าเริ่มจากการหลอกลวงร่างกายลูกสาวของข้า จากนั้นจึงขอแต่งงาน!”

“หลังจากแต่งงานแล้ว ในที่สุดเจ้าก็เผยธาตุแท้ของตัวเอง ไม่เพียงแต่อยู่ฝ่ายเดียวกับเว่ยเชียนชิว แต่ยังตบตีลูกสาวของข้า!”

“ไอ้คนจิตใจโฉดชั่ว! ข้าจะฆ่าเจ้า!”

พูดจบ แม่ฉินจะกระโจนเข้าหาเหลียงไหวโหรว เหลียงไหวโหรวกลับไม่สะทกสะท้าน และรอการจู่โจมจากนาง แม่ฉินพูดสิ่งใดก็ไม่สำคัญ เพียงแค่คำว่าลูกหลานตระกูลยาจกนี้ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ช้าก่อน”

เซียวเฉวียนคว้าดาบจิงหุน ขวางแม่ฉินไว้ “เรื่องในบ้านของจวนฉิน ข้าไม่ยุ่ง”

“ข้าขอถามท่านว่า ท่านยอมรับการท้าทายจากข้า ท่านเป็นถึงนายพลชั้นหนึ่งที่มีเกียรติ ยินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่?”

กล่าวคือ ตามระบบราชองครักษ์ ข้าควรสังหารเจ้าแล้ว

“...”

แม่ฉินกลับไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี นางเพียงคิดอยากจะเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ถูกเซียวเฉวียนจับไต๋ได้ก่อน

เหตุใดเมื่อก่อนเซียวเฉวียนจึงไม่เฉลียวฉลาดเช่นนี้?

“ข้า...” แม่ฉินคิดว่า หากประชันกลอนกับเซียวเฉวียน อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง

แต่ความสามารถของเซียวเฉวียนแกร่งเกินไป แม่ฉินไม่มีความสามารถมากเท่าเซียวเฉวียน จักเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับเซียวเฉวียนไม่ได้

ในตอนนี้เอง แม่ฉินกลับรู้จักการหวาดกลัวต่อความสามารถของเซียวเฉวียนเสียแล้ว เมื่อก่อนนางมักหาทางจัดการเซียวเฉวียนให้ถึงแก่ความตาย และไม่ยอมอ่อนข้อให้เพียงน้อย

นางส่ายหัวสุดชีวิต “ความคิดที่ไม่เข้าท่านี้ เหลียงไหวโหรวเป็นคนเสนอมา! ข้าเป็นเพียงผู้สมรู้ร่วมคิด ข้าแค่ไม่มีสติยั้งคิดไปชั่วครู่ โทษไม่ถึงตายหรอกนะ!”

“เซียวเฉวียน ข้าไม่เคยทำให้เซียวจิงต้องเจ็บปวดมากนัก เจ้ายอมปล่อยข้าไปเพราะเห็นแก่เรื่องนี้เสียเถอะนะ! เจ้าว่าอย่างไรเล่า?”

น่าขันสิ้นดี! การไม่ทำให้เซียวจิงต้องเจ็บปวดมากนักถือเป็นไมตรีจิตด้วยหรือ!

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”

เซียวเฉวียนหัวเราะร่าออกมา แม่ฉินที่เดิมทีเจ็บปวดเสียจนขนลุก เมื่อเห็นเขาไร้มารยาทเช่นนี้ “เจ้าหัวเราะอะไรกัน! ข้าเป็นผู้ใหญ่กว่าเจ้าเสียอีกนะ! เจ้าไม่แยกแยะเด็กและผู้ใหญ่ และยังจะฆ่าข้าอีก เจ้ามันเป็นเด็กนรก!”

“ผู้ใหญ่งั้นหรือ?” เซียวเฉวียนเกลียดสิ่งที่เรียกว่าผู้ใหญ่เหล่านี้มากที่สุดในชีวิต!

“พวกท่านไร้ศีลธรรม! คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่เพียงเพราะอายุที่มากกว่า และผู้อื่นควรให้ความเคารพงั้นหรือ?” เซียวเฉวียนชูดาบดาบจิงหุนขึ้น “ท่านสำเนียกดูบ้าง ว่าท่านเหมาะสมหรือไม่!”

หนึ่งในมารยาทที่สำคัญที่สุดในยุคโบราณ ก็คือการเคารพผู้อาวุโสกว่า

เซียวเฉวียนพูดออกมาเช่นนี้ ไม่เพียงเป็นแค่เด็กนรก แต่เรียกได้ว่าเป็นคนเนรคุณอย่างที่สุด!

แม่ฉินหันหน้ามา และปล่อยไม้ตายออกมาข่มเหลียงไหวโหรว “เหลียงไหวโหรว! หากเจ้านิ่งดูดายเช่นนี้ และปล่อยให้เซียวเฉวียนฆ่าข้า! นับแต่วันนี้ไป ผู้คนต่างจะพากันเหยียดหยามเจ้า!”

“เหยียดหยามเจ้าที่ดูแลภรรยาและแม่ยายไม่ได้! ทุกคนบนโลกจะประนามเจ้าว่าเป็นผู้ไร้ความกรุณาและความเมตตา! เจ้ามีฐานะเป็นถึงนายท่านของจวนฉิน แท้ที่จริงเจ้าก็เป็นพวกที่ชอบหลบหลังผู้อื่น จึงได้เป็นเพียงที่สองในการสอบ!”

“ไม่ว่าเมื่อก่อนเจ้ามีสิ่งใดที่ไม่พอใจในตัวข้า สิ่งสำคัญตอนนี้คือการจัดการกับคนนอก!”

แม่ฉินกลัวว่าเหลียงไหวโหรวจะไม่ช่วยนาง “หรือว่าเจ้าต้องการให้ผู้คนทั้งโลกพูดว่า เจ้าเป็นพวกคนไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถปกป้องผู้หญิงได้ ให้พวกเขาพูดว่าเจ้าเทียบไม่ได้กับนายท่านคนก่อนอย่างเซียวเฉวียนงั้นหรือ!”

ผู้ชายเกลียดการเปรียบเทียบอย่างที่สุด และคำติดปากของผู้หญิงก็คือ : คนรักเก่าของข้า สามีเก่าของข้า ผู้ชายคนเก่า ๆ ๆ ของข้า...

คำว่านายท่ายคนเก่าของแม่ฉิน ไม่ต่างจากคำว่าลูกลานตระกูลยาจกเลย ทุกคำล้วนเสียดแทงใจของเหลียงไหวโหรว

เขารักฉินซูโหรวมากจริง ๆ แต่เมื่อคิดว่าฉินซูโหรวเคยเป็นของเซียวเฉวียน ในทุกคืนเขาต้องรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ และทรมานอย่างที่สุด!

ตอนนี้! แม่ฉินยังคงจี้ไปที่ก้นบึ้งหัวใจของเขาอีกครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย