ผู้ชายกลัวการเปรียบเทียบมากที่สุด โดยเฉพาะการเปรียบเทียบกับชายผู้อื่น เหลียงไหวโหรวถูกจี้ปมเช่นนี้ เลือดในใจแทบสาดกระเซ็นออกมา
แม่ฉินก็มีบุคลิกที่โหดเหี้ยมเช่นกัน คำพูดเพียงไม่กี่คำของนางทำให้เกิดคลื่นโหมซัดหัวใจของเหลียงไหวโหรวได้
นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าเซียวเฉวียนเป็นอดีตนายท่าน สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เหลียงไหวโหรว ต้องการพู่กันจินหลุนเฉียนคุนของเซียวเฉวียน
เพียงแต่เขาไม่ได้แสดงออกเช่นนั้นบนใบหน้า เขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าเขาอยากได้ของของเซียวเฉวียน?
เซียวเฉวียนเป็นเพียงเศษสวะ มีค่าอะไรที่จะพิเศษกว่าผู้อื่น?
เหลียงไหวโหรวเดินลงมาจากรถม้า หลังตั้งตรงตระหง่านด้วยท่าทางมั่นใจ เขาขวางอยู่ด้านหน้าของแม่ฉิน จากนั้นก็หันไปพูดกับแม่ฉิน “ข้าเห็นแก่ฉินซูโหรวที่กำลังตั้งครรภ์ลูกของข้า ไม่อยากให้ลูกของข้าเกิดมาโดยไม่มีท่านยาย ท่านอย่าคิดไปไกลว่าข้ากำลังช่วยท่านอยู่”
น้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความรังเกียจ
ราวกับว่าแม่ฉินไร้ค่าเกินกว่าจะพูดถึงเสียอย่างนั้น
นับตั้งแต่ผ่านเรื่องราวเรื่องนั้นของว่านโหลว เซียวเฉวียนตระหนักได้ว่า แม้แต่ลูกกระจ๊อกข้างตัวเว่ยเชียนชิวยังยุแยงตะแคงรั่วได้ นับประสาอะไรกับเหลียงไหวโหรวที่เป็นคนโปรดของเว่ยเชียนชิว
เหลียงไหวโหรวได้รับความชื่นชอบจากเว่ยเชียนชิวตั้งแต่อายุยังน้อย เขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
การประลองของชายหนุ่มมักจะตรงไปตรงมามากกว่า ไม่เหมือนแม่ฉินที่ด่าฉอด ๆ แต่ก็แพ้อย่างราบคาบ
ทันทีที่เหลียงไหวโหรวเดินเข้ามา ก็ถอนหายใจเบา ๆ “เซียวเฉวียน เจ้าทะนงตัวมากไปเสียแล้ว เจ้ามักคิดว่าเจ้าต่อต้านผู้คนได้ทั้งหมด และคิดว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามใจปรารถนาของเจ้า”
“วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า สิ่งใดที่เรียกว่าคำสั่ง”
เหลียงไหวโหรวพูดด้วยสายตาเคร่งขรึม “และเป็นคำสั่งที่ไม่อาจฝืนชะตากรรมได้!”
พูดจบ เขาก็ควักพู่ห้อยข้างกายที่แกร่งที่สุดในต้าเว่ยออกมา ตราประทับเหวินอิ้น
นี่คือตราประทับเหวินอิ้นของรัฐมู่อวิ๋น
ซึ่งก็คือตราประทับเหวินอิ้นของเว่ยไป๋
เดิมที่ที่เว่ยไป๋และท่านแม่ของไป๋ฉี่พบรักกัน เมื่อถูกเนรเทศไปยังเกาะจูเสิน ทำให้รัฐมู่อวิ๋นเปรียบเสมือนมังกรที่ไร้หัว และเกิดกบฏขึ้น
เว่ยเชียนชิวฉวยโอกาสนี้ในการแอบซ่อนตราประทับเหวินอิ้นของรัฐมู่อวิ๋นไว้ ในตอนนั้นฮ่องเต้ยังทรงพระเยาว์ จึงไม่เข้าใจเรื่องนี้ ตราประทับเหวินอิ้นชิ้นนี้ได้สูญหายไป ทุกคนจึงคิดว่าหายไปในระหว่างการเกิดกบฏ
ไม่มีผู้ใดคาดคิดเลยว่า เว่ยเชียนชิวคือผู้ที่ขโมยไปซ่อนไว้งั้นหรือ?
การที่เหลียงไหวโหรวกล้าหยิบออกมาในวันนี้ นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะเห็นมันเข้า อีกทั้งผู้ที่เห็นตราประทับเหวินอิ้นชิ้นนี้ ล้วนเป็นภัยถึงแก่ชีวิต
เซียวเฉวียนจะเป็นข้อยกเว้นได้อย่างไร?
เจ็ดรัฐในต้าเว่ย ทุกที่ล้วนมีตราประทับเหวินอิ้น มีเพียงตราประทับเหวินอิ้นในมือของฮ่องเต้เท่านั้น ที่จะสามารถเรียกว่าตราประทับเหวินอิ้นตรง ๆ ได้
ตราประทับเหวินอิ้นอื่น ๆ ของแต่ละรัฐจะต้องเพิ่มชื่ออาณาเขตเข้าไปด้วย
เช่น ตราประทับเหวินอิ้นรัฐไป๋ลู่ ต้องเรียกว่าตราประทับไป๋ลู่
และชิ้นนี้ที่อยู่ในมือของเหลียงไหวโหรว แน่นอนว่ามีชื่อว่าตราประทับมู่อวิ๋น
ให้ตายเถอะ!
ช่างหน้าด้านเสียจริง!
ยังไม่ทันได้เริ่มประลอง ก็ควักพู่ที่แกร่งที่สุดออกมาเสียแล้ว!
เซียวเฉวียนยอมแพ้จริง ๆ ผู้รู้หนังสือที่เหม็นเน่าฉาวโฉ่เหล่านี้ มักชอบทำสิ่งที่ผู้ชายไม่พึงกระทำ! เรียนหนังสืออย่างไรให้สมองไหลเช่นนี้!
พู่กันเฉียนคุนได้กลิ่นของความอันตราย แต่อาวุธไม่เหมือนกับมนุษย์ สำหรับพวกมันไม่เคยมีคำว่ากลัว เมื่ออีกฝ่ายยิ่งแข็งแกร่ง พลังจิตของอาวุธก็จะยิ่งฮึกเหิม
พู่กันเฉียนคุน อาวุธที่มีพลังจิตล้นเหลือ ย่อมมีความสุขมากขึ้นแน่นอน เมื่อได้เผชิญหน้ากับศัตรูตามธรรมชาติเช่นนี้
“เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ ว่าต้องการใช้สิ่งนี้ประลองกับข้า?”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว และหมดคำจะพูดเล็กน้อย
“ใช่” เหลียงไหวโหรวพยักหน้า
“ได้” เซียวเฉวียนสายตาเย็นชา “ถึงเวลาก็อย่าหาว่าข้ารังแกก็แล้วกัน”
ห๋า?
เหลียงไหวโหรวเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขาไม่น่าจะฟังสิ่งใดผิดเพี้ยนไป “เซียวเฉวียน เจ้าไม่รู้หรือว่านี่คือสิ่งใด?”
“นี่คือตราประทับเหวินอิ้น ที่สามารถเอาชนะปัญญาชนได้!” สีหน้าของเหลียงไหวโหรวเผยความอำมหิตออกมา “เจ้าเคยลิ้มรสตราประทับไป๋ลู่ของเว่ยชิงแล้วมิใช่หรือ? ทำไมเล่า ลืมแล้วงั้นหรือ?”
อ๋อ ครั้งนั้นนั่นเอง
เซียวเฉวียนนึกด้วยความยากลำบาก เว่ยชิงเคยใช้ตราประทับไป๋ลู่ในการประลองกับเขาจริง ๆ เพียงแต่ตอนนั้นผู้ที่กระดูกแทบหักก็คือฉินเฟิง เขากลับไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก “ดังนั้น ข้ามีสิ่งใดที่ต้องจดจำด้วยหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...