ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 526

ผู้ชายกลัวการเปรียบเทียบมากที่สุด โดยเฉพาะการเปรียบเทียบกับชายผู้อื่น เหลียงไหวโหรวถูกจี้ปมเช่นนี้ เลือดในใจแทบสาดกระเซ็นออกมา

แม่ฉินก็มีบุคลิกที่โหดเหี้ยมเช่นกัน คำพูดเพียงไม่กี่คำของนางทำให้เกิดคลื่นโหมซัดหัวใจของเหลียงไหวโหรวได้

นอกจากข้อเท็จจริงที่ว่าเซียวเฉวียนเป็นอดีตนายท่าน สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เหลียงไหวโหรว ต้องการพู่กันจินหลุนเฉียนคุนของเซียวเฉวียน

เพียงแต่เขาไม่ได้แสดงออกเช่นนั้นบนใบหน้า เขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าเขาอยากได้ของของเซียวเฉวียน?

เซียวเฉวียนเป็นเพียงเศษสวะ มีค่าอะไรที่จะพิเศษกว่าผู้อื่น?

เหลียงไหวโหรวเดินลงมาจากรถม้า หลังตั้งตรงตระหง่านด้วยท่าทางมั่นใจ เขาขวางอยู่ด้านหน้าของแม่ฉิน จากนั้นก็หันไปพูดกับแม่ฉิน “ข้าเห็นแก่ฉินซูโหรวที่กำลังตั้งครรภ์ลูกของข้า ไม่อยากให้ลูกของข้าเกิดมาโดยไม่มีท่านยาย ท่านอย่าคิดไปไกลว่าข้ากำลังช่วยท่านอยู่”

น้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความรังเกียจ

ราวกับว่าแม่ฉินไร้ค่าเกินกว่าจะพูดถึงเสียอย่างนั้น

นับตั้งแต่ผ่านเรื่องราวเรื่องนั้นของว่านโหลว เซียวเฉวียนตระหนักได้ว่า แม้แต่ลูกกระจ๊อกข้างตัวเว่ยเชียนชิวยังยุแยงตะแคงรั่วได้ นับประสาอะไรกับเหลียงไหวโหรวที่เป็นคนโปรดของเว่ยเชียนชิว

เหลียงไหวโหรวได้รับความชื่นชอบจากเว่ยเชียนชิวตั้งแต่อายุยังน้อย เขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

การประลองของชายหนุ่มมักจะตรงไปตรงมามากกว่า ไม่เหมือนแม่ฉินที่ด่าฉอด ๆ แต่ก็แพ้อย่างราบคาบ

ทันทีที่เหลียงไหวโหรวเดินเข้ามา ก็ถอนหายใจเบา ๆ “เซียวเฉวียน เจ้าทะนงตัวมากไปเสียแล้ว เจ้ามักคิดว่าเจ้าต่อต้านผู้คนได้ทั้งหมด และคิดว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามใจปรารถนาของเจ้า”

“วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า สิ่งใดที่เรียกว่าคำสั่ง”

เหลียงไหวโหรวพูดด้วยสายตาเคร่งขรึม “และเป็นคำสั่งที่ไม่อาจฝืนชะตากรรมได้!”

พูดจบ เขาก็ควักพู่ห้อยข้างกายที่แกร่งที่สุดในต้าเว่ยออกมา ตราประทับเหวินอิ้น

นี่คือตราประทับเหวินอิ้นของรัฐมู่อวิ๋น

ซึ่งก็คือตราประทับเหวินอิ้นของเว่ยไป๋

เดิมที่ที่เว่ยไป๋และท่านแม่ของไป๋ฉี่พบรักกัน เมื่อถูกเนรเทศไปยังเกาะจูเสิน ทำให้รัฐมู่อวิ๋นเปรียบเสมือนมังกรที่ไร้หัว และเกิดกบฏขึ้น

เว่ยเชียนชิวฉวยโอกาสนี้ในการแอบซ่อนตราประทับเหวินอิ้นของรัฐมู่อวิ๋นไว้ ในตอนนั้นฮ่องเต้ยังทรงพระเยาว์ จึงไม่เข้าใจเรื่องนี้ ตราประทับเหวินอิ้นชิ้นนี้ได้สูญหายไป ทุกคนจึงคิดว่าหายไปในระหว่างการเกิดกบฏ

ไม่มีผู้ใดคาดคิดเลยว่า เว่ยเชียนชิวคือผู้ที่ขโมยไปซ่อนไว้งั้นหรือ?

การที่เหลียงไหวโหรวกล้าหยิบออกมาในวันนี้ นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะเห็นมันเข้า อีกทั้งผู้ที่เห็นตราประทับเหวินอิ้นชิ้นนี้ ล้วนเป็นภัยถึงแก่ชีวิต

เซียวเฉวียนจะเป็นข้อยกเว้นได้อย่างไร?

เจ็ดรัฐในต้าเว่ย ทุกที่ล้วนมีตราประทับเหวินอิ้น มีเพียงตราประทับเหวินอิ้นในมือของฮ่องเต้เท่านั้น ที่จะสามารถเรียกว่าตราประทับเหวินอิ้นตรง ๆ ได้

ตราประทับเหวินอิ้นอื่น ๆ ของแต่ละรัฐจะต้องเพิ่มชื่ออาณาเขตเข้าไปด้วย

เช่น ตราประทับเหวินอิ้นรัฐไป๋ลู่ ต้องเรียกว่าตราประทับไป๋ลู่

และชิ้นนี้ที่อยู่ในมือของเหลียงไหวโหรว แน่นอนว่ามีชื่อว่าตราประทับมู่อวิ๋น

ให้ตายเถอะ!

ช่างหน้าด้านเสียจริง!

ยังไม่ทันได้เริ่มประลอง ก็ควักพู่ที่แกร่งที่สุดออกมาเสียแล้ว!

เซียวเฉวียนยอมแพ้จริง ๆ ผู้รู้หนังสือที่เหม็นเน่าฉาวโฉ่เหล่านี้ มักชอบทำสิ่งที่ผู้ชายไม่พึงกระทำ! เรียนหนังสืออย่างไรให้สมองไหลเช่นนี้!

พู่กันเฉียนคุนได้กลิ่นของความอันตราย แต่อาวุธไม่เหมือนกับมนุษย์ สำหรับพวกมันไม่เคยมีคำว่ากลัว เมื่ออีกฝ่ายยิ่งแข็งแกร่ง พลังจิตของอาวุธก็จะยิ่งฮึกเหิม

พู่กันเฉียนคุน อาวุธที่มีพลังจิตล้นเหลือ ย่อมมีความสุขมากขึ้นแน่นอน เมื่อได้เผชิญหน้ากับศัตรูตามธรรมชาติเช่นนี้

“เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ ว่าต้องการใช้สิ่งนี้ประลองกับข้า?”

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว และหมดคำจะพูดเล็กน้อย

“ใช่” เหลียงไหวโหรวพยักหน้า

“ได้” เซียวเฉวียนสายตาเย็นชา “ถึงเวลาก็อย่าหาว่าข้ารังแกก็แล้วกัน”

ห๋า?

เหลียงไหวโหรวเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขาไม่น่าจะฟังสิ่งใดผิดเพี้ยนไป “เซียวเฉวียน เจ้าไม่รู้หรือว่านี่คือสิ่งใด?”

“นี่คือตราประทับเหวินอิ้น ที่สามารถเอาชนะปัญญาชนได้!” สีหน้าของเหลียงไหวโหรวเผยความอำมหิตออกมา “เจ้าเคยลิ้มรสตราประทับไป๋ลู่ของเว่ยชิงแล้วมิใช่หรือ? ทำไมเล่า ลืมแล้วงั้นหรือ?”

อ๋อ ครั้งนั้นนั่นเอง

เซียวเฉวียนนึกด้วยความยากลำบาก เว่ยชิงเคยใช้ตราประทับไป๋ลู่ในการประลองกับเขาจริง ๆ เพียงแต่ตอนนั้นผู้ที่กระดูกแทบหักก็คือฉินเฟิง เขากลับไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก “ดังนั้น ข้ามีสิ่งใดที่ต้องจดจำด้วยหรือ?”

วันนี้ เหลียงไหวโหรวกล้าส่งตัวของน้องสาวเซียวเฉวียนสู่สถานที่อบายมุข

พรุ่งนี้ เหลียงไหวโหรวก็จะสามารถลงไม้ลงมือกับคนตระกูลเซียวได้อีก!

กำจัดวัชพืชก็ต้องถอนรากถอนโคน เซียวเฉวียนจ้องไปที่ตราประทับมู่อวิ๋น ให้ตายสิ หากสิ่งนี้กำจัดปัญญาชน เช่นนั้นเขาก็ต้องเก็บมันเสียแล้ว!

ช่างหัวบัญชาสวรรค์ปะไร!

แม้จะเป็นบัญชาสวรรค์ แต่เขาเชื่อว่าลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน!

“เซียวเฉวียน! ตายเสียเถอะ!”

เหลียงไหวโหรวจ้องไปที่พู่กันเฉียนคุน วันนี้เขาจักต้องได้พู่กันเฉียนคุนมาเป็นของตัวเอง!

ทันทีที่เขายื่นมือออกมา ตราประทับมู่อวิ๋นก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ช่างหัวเจ้าสิ! ใครกันแน่ที่ต้องตาย! พู่กันจินหลุนเฉียนคุน! จัดการ!”

สิ้นเสียงสั่งของเซียวเฉวียน พู่กันเฉียนคุนแผดเสียงก้องพร้อมเผยตัวออกมา กระโจนสู่ท้องฟ้า!

พู่กันเฉียนคุนและตราประทับเหวินอิ้นลอยอยู่กลางอากาศ ทั้งสองสิ่งเต็มไปด้วยความอาฆาตที่แรงกล้า ท้องฟ้าเปลี่ยนสีในฉับพลัน เกิดฟ้าร้องและฟ้าผ่า

เนื่องจากเหลียงไหวโหรวโกรธมากเกินไป จึงไม่ได้ควบคุมอารมณ์ให้ดี ทำให้การปรากฏตัวของตราประทับมู่อวิ๋นในครั้งนี้ ก่อความรบกวนให้แก่ฮ่องเต้

ขณะนี้ ฮ่องเต้กำลังหารือเรื่องการทหารกับฉินเซิงอยู่ ทันทีที่เกิดเสียงฟ้าผ่า ทำให้ขันทีหม่าที่อยู่ข้าง ๆ ตื่นตกใจหวาดกลัว

ฮ่องเต้ทรงเลิกคิ้วขึ้น และสบตากับฉินเซิงอย่างรู้กัน

พวกเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยพร้อมเพรียงกัน นั่นคือแรงอาฆาตของตราประทับเหวินอิ้น

เชื้อสายราชวงศ์ของรัฐใดกัน ที่กล้าใช้ตราประทับเหวินอิ้นในเมืองหลวง?

ฮ่องเต้คือโอรสแห่งสวรรค์ ในเมืองหลวงจึงมีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถใช้ตราประทับเหวินอิ้นได้

ครั้งก่อนที่เว่ยชิงใช้ตราประทับเหวินอิ้นในการประลองกับเซียวเฉวียน หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ทรงมีสัมพันธ์ที่ดีต่อเว่ยชิง และรักษาชีวิตเว่ยชิงไว้อย่างดีที่สุด เว่ยชิงจะถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ

ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว “ฉินเซิง ไปจับตัวผู้ที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงมา! จับเป็นด้วย!”

“พะยะค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย