มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์ เมื่อต้องเผชิญกับอันตรายที่ร้ายแรง อะดรีนาลีนจะพุ่งพล่าน ความว่องไวจะเร็วกว่าปกติ และการเคลื่อนไหวก็จะคล่องตัวมากขึ้น
นี่คือสัญชาตญาณของการเป็นมนุษย์
ดังนั้น แม้ว่าดวงตาข้างหนึ่งของแม่ฉินจะได้รับบาดเจ็บ แต่ยังอดทนวิ่งไปได้ไกลหลายเมตร ความเร็วของนาง ทำให้เหลียงไหวโหรวแทบตามไม่ทัน!
“โอ้ย ๆ ๆ ๆ!”
แม่ฉินวิ่งไปด้วย พลางหันหลังกลับมามอง ขนของนางลุกซู่ไปทั้งตัว
นางได้รับบาดเจ็บ ทันทีที่วิ่ง ดวงตาก็ยิ่งทวีความเจ็บปวก นางจึงร้องตะโกนออกมา
ตอนที่นางหันไปมองเหลียงไหวโหรว เหลียงไหวโหรวราวกับผีร้าย ทำให้นางตกใจสั่นเทิ้มไปทั้งตัว “เจ้าอย่าเข้ามานะ! ไอ้สวะสารเลว! เจ้าไม่อยากมีอนาคตแล้วใช่หรือไม่!”
“ฉึบ!”
“ปิ้ว!”
ทันทีที่สินเสียงของแม่ฉิน ดาบในมือของเหลียงไหวโหรวก็แทงทะลุหน้าอกของนาง!
ในพริบตาเดียว นางก็ไม่สามารถพูดเสียงดังได้อีกต่อไป และโลกก็ดูเหมือนจะเงียบสงบลง
ดี!
ดี!
ดี!
ภายใต้สายตาของเหลียงไหวโหรว เผยความบ้าคลั่งและความสุขหลังจากได้สงหารมนุษย์
นี่คือคนแรกที่เขาฆ่า
ในอดีตที่เขาฆ่าคน ล้วนเป็นฝีมือของลูกน้องและตราประทับเหวินอิ้น มือของเขาไม่เคยต้องเปื้อนเลือด เพราะเขาคือปัญญาชน มือของเขาควรจะใสสะอาด ไร้ซึ่งมลทิน
ทว่า เขาได้ฆ่าคนแล้ว
เขากลับมีความสุขเล็กน้อย
ดาบสีขาววิบวับเล่มนั้น แทงทะลุอกของแม่ฉิน เลือดสีแดงสดหยดลงพื้นทีละหยดตามตัวดาบ
ทว่าดาบเล่มนี้ล้มเหลวในการโจมตีจุดสำคัญ
หากแม่ฉินรู้จักสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร นางอาจยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง
เพียงแต่ว่าในโลกของนาง ไม่เคยมีคำว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรอยู่ในสมองเลย
“เอื้อก!”
“เอื้อก!”
ร่างกายของแม่ฉินกระตุกเล็กน้อย นางไม่ได้สลบไป นางเจ็บ นางเจ็บเหลือเกิน!
“เจ้า… ไอ้ชาติชั่ว... ไอ้สวะ” แม่ฉินกัดฟัน ดางตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความโหดร้าย “บังอาจทำเช่นนี้กับข้า...”
“ฉึบ!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของนาง ดาบก็แทงเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ ดาบขยับไปทางซ้ายไม่กี่นิ้วและโจมตีปอดซึ่งส่วนสำคัญของร่างกาย
เหลียงไหวโหรวกัดฟัน “เจ้าพูดอีกรอบสิ?”
“เอื้อก!” แม่ฉินหายใจเฮือกใหญ่ ปอดของนางเสียหายอย่างสาหัส และหายใจได้อย่างลำบาก “ไม่ ไม่ ข้า... ข้า... ข้าไม่อยากตาย”
“สาบไปแล้ว”
เหลียงไหวโหรวพูดเสียงเย็นชา นางรู้มากไปเสียแล้ว
ผู้ที่รู้ความลับนี้ของเขา ล้วนต้องตาย!
บนชายคาของถนนจูเชวี่ย เว่ยอวี๋และอี้กุยต่างมองดูอยู่เงียบ ๆ เว่ยเป่าที่อายุน้อยที่สุดนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และเลียปลไม้เคลือบน้ำตาลด้วยความเอร็ดอร่อย
ดังนั้น เหลียงไหวโหรวจึงคิดว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นเป็นเพียงความคิดที่ผิดเพี้ยนของเขา
ในตอนนั้น ไม่ใช่ว่าเว่ยอวี๋และอี้กุยไม่ยอมช่วยแม่ฉิน
ข้อแรก พวกเขาต่างไม่ชอบแม่ฉินจึงไม่อยากช่วย
ข้อสอง สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ตราประทับเหวินอิ้นทรงพลังมากกว่าเกินไป หากพวกเขาเข้าใกล้ก็อาจถูกบีบอัดได้
เพียงแต่ไม่นึกว่า แม่ฉินจะไม่ตายในสนามรบหรือในมือของศัตรู แต่เป็นเพราะความหยิ่งทระนงและและปากที่ไม่ควรได้รับการอภัยของนาง
“สวะ…” แม่ฉินขมวดคิ้วแน่น ในขณะที่กำลังโกรธ นางก็เฝ้ารออย่างทุกข์ทรมาน เพราะอะไร เหตุใดจึงไม่มีคนจวนฉินมาช่วยนาง?
“ฉึบ!”
ในขณะนั้นเอง เหลียงไหวโหรวที่ยังไม่หายโกรธ ใช้ดาบที่อยู่ในมือแทงทะลุร่างกายของแม่ฉินอย่างโหดเหี้ยม!
สวะงั้นหรือ? เช่นนั้นก็ให้สวะผู้นี้ฆ่าเจ้าเสียเถอะ!
หลังจากที่ดาบแทงทะลุร่างของแม่ฉิน ดาบถูกตอกลงบนพื้น แสดงให้เห็นว่าใช้พลังที่แข็งแกร่งเพียงใด
เหลียงไหวโหรวผู้เป็นปัญญาชน มีกำลังภายในที่มากขนาดนี้เชียวหรือ?
เว่ยอวี๋และอี้กุยมองหน้ากัน ลูกน้องของเว่ยเชียนชิวไม่ธรรมดาเสียจริง
“โอ้ย!”
หลังเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนา แม่ฉินล้มลงกับพื้นอย่างกระทันหัน เข่าทั้งสองข้างล้มลงพรวดลงที่พื้น
นี่เป็นครั้งแรกที่นางคุกเข่าต่อหน้าคนนอก
มันเป็นเพียงพู่กันด้ามหนึ่ง แม้จะหักครึ่งก็เป็นก็ถือว่าเป็นอาวุธ เหตุใดจึงไร้เสียงไปเหมือนคนเช่นนี้เล่า?
“เจ้าได้ยินหรือไม่?”
เมื่อเห็นว่าเซียวเฉวียนเหม่อลอย เหลียงไหวโหรวจึงไม่พอใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตายเช่นนี้ เซียวเฉวียนกลับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว?
“เจ้าคิดว่า เจ้าเหลียงไหวโหรวเป็นผู้ใดกัน?” เซียวเฉวียนไม่ขัดจังหวะความคิดเขา ใบหน้าที่ไม่พอใจของเขาชัดยิ่งกว่าเหลียงไหวโหรวเสียอีก “สมองเจ้ามีปัญหาหรืออย่างไร? หากข้าปลิดชีวิตตัวเอง และยอมรับว่าฆ่าแม่ฉิน ชีวิตคนในครอบครัวข้าก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายบ้านเมือง เจ้าจะคุ้มกันอะไรได้?”
“อีกอย่าง คนอย่างเซียวเฉวียนจะปลิดชีวิตตัวเองงั้นรึ?”
เซียวเฉวียนไม่เข้าใจคนโบราณเหล่านี้เสียจริง สมองพิลึกชอบกล อย่าว่าแต่เซียวเฉวียนเสีย แม้แต่คนขี้ขลาดตาขาว ก็ยังไม่กล้าปลิดชีวิตตัวเองมั่วซั่ว
หากเซียวเฉวียนปลิดชีพตัวเอง เพียงเพราะคำพูดของเหลียงไหวโหรว เช่นนั้นต้าเว่ยคงมีเพียงคนเสเพลแล้วกระมัง?
“เช่นนั้นก็ต้องให้ข้าช่วยสินะ”
“วันนี้ ทุกอย่างต้องสิ้นสุดลง”
เหลียงไหวโหรวแย่งมีดที่อยู่ในมือของเซียวเฉวียน และจ่อไปที่คอของเขา “เซียวเฉวียน เมื่อเจ้าตายไปแล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดเปรียบเทียบข้ากับเจ้าได้อีก”
พูดจบ เขาก็แทงลงไป!
ขุนนางหลางจงลิ่ง เป็นหนึ่งในขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง
ตำแหน่งหน้าที่ของขุนนางหลางจงลิ่งค่อนข้างซับซ้อน หน้าที่หลักมีอยู่สองอย่างคือความรับผิดชอบหลักและความรับผิดชอบอื่น ๆ
ความรับผิดชอบหลัก ได้แก่การเฝ้ายาม ตักเตือนข้อดีข้อเสีย การถวายบูชาสามครั้งในเขตชานเมือง และคารวะเจ้าชายเพื่ออ่านเอกสารนโยบาย
ความรับผิดชอบอื่น ๆ ได้แก่การทำหน้าที่เป็นทูตในการถอดถอนหรือแต่งตั้งขุนนาง เข้าร่วมกิจกรรมงานศพของจักรพรรดิ รวบรวมหนังสือ และแนะนำผู้มีคุณธรรมและเที่ยงธรรม
ขุนนางที่ปรึกษา ก็อยู่ในการดูแลของขุนนางหลางจงลิ่ง
“พวกเจ้าได้ยินข่าวหรือไม่! ไม่รู้ว่าตราประทับเหวินอิ้นของรัฐใด มาก่อเรื่องบนถนนจูเชวี่ยเสียแล้ว!”
ขณะนี้ เหล่าขุนนางที่ปรึกษาในจวนหลางจงเริ่มซุบซิบขึ้นมา
พวกเขาต่างรู้ว่า เซียวเฉวียนและเหลียงไหวโหรวกำลังก่อความวุ่นวายอยู่!
แม่ทัพฉินเซิงได้ส่งคนรุดหน้าไปแล้ว!
ได้ยินว่า เซียวเฉวียนใกล้จะถูกเหลียงไหวโหรวจัดการจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ดวงตาก็เปล่งประกาย ว้าว ช่างดีเสียจริง!
หากเป็นเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็ไม่ต้องมาเข้ามาในทำงานในราชสำนักกับพวกเขาแล้ว!
เซียวเฉวียนที่เหล่าขุนนางที่ปรึกษาพูดถึง ราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งโรคห่า ตอนนี้เทพเจ้าแห่งโรคห่าได้หายไปแล้ว เหล่าขุนนางที่ปรึกษาต่างพากันดีใจราวกับฉลองปีใหม่
“โอ้โห เช่นนั้นต้องฉลองเสียหน่อยแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...