เหลียงไหวโหรวออกคำสั่ง ตราประทับมู่อวิ๋นลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว !
“ตกลงมา!”
เหลียงไหวโหรวแค่กระดิกนิ้วเพียงเล็กน้อย ก็สามารถบีบอัดกระดูกที่แข็งแกร่งของเซียวเฉวียนจนแหลกละเอียดได้!
จะได้ไม่ต้องมีคนมาแย่งชิงฉินซูโหรวจากเขาได้อีก!
ณ.เวลาตอนนั้น!
เซียวเฉวียนรับรู้ได้ว่าโอกาศมาถึงแล้ว!
ทันใดนั้นตราประทับมู่อวิ๋นลอยขึ้น ทำให้เซียวเฉวียนมีโอกาศได้ตอบโต้กลับ!
“เผชิญหน้ากับความตาย อย่างกล้าหาญสง่างามดั่งเทือกเขาคุนหลุน !พู่กันเฉียนคุน!เข้ามาเลย!”
ห่างออกไป ฉินเซิงนำกองกำลังหยู่หลินขี่ม้านำมาด้านหน้า
เสียงดังสั่นสะเทือนอย่างมาก ทำให้เหล่ากองทัพม้าตื่นตระหนกตกใจหยุดลง ครึ่งหนึ่งร่างกายยืดยกขึ้น ตะโกนออกไป!
“หยุด!”
“หยุด!”
การเคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน ทำให้ฉินเซิงและคนอื่นๆรีบจับเชือกไว้แน่น กองกำลังจึงต้องหยุดลง
“ท่านแม่ทัพ นั่นมันอะไร?” จงกุ้ยแม่ทัพของกองกำลังหยู่หลินพูดขึ้น และชี้ไปบนท้องฟ้าที่มีสิ่งผิดปกติ ตกใจอย่างมาก:“นี่มันตราประทับใช่ไหม?”
เพียงแค่เห็นท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เหมือนกับสามารถขยับได้ เมฆเหล่านั้นมีสีออกเทาๆ ไปจนถึงดำสนิท ปกคลุมเต็มท้องฟ้า และสิ่งที่ตามมาด้วย ยังมีรอยประทับสีแดงขนาดใหญ่มากหนึ่งรอย
รอยประทับสีแดงและเมฆสีดำ เป็นเอกลักษณ์ของตราประทับ
ทั่วท้องฟ้าทั้งมืดทั้งแดง เหมือนอย่างกับนรกขุมที่สิบแปด
สถานการณ์นี้ เหมือนกับพันอสุรากำลังจะลงมาที่พื้นดินนี้ เหมือนกำลังจะฆ่าล้างทุกคน
“ใช่.....ใช่ตราประทับมู่อวิ๋น เป็นตราประทับมู่อวิ๋นที่สูญหายไปนานแล้ว!
ใครกันที่มีครอบครองไว้?และยังกล้าบังอาจ นำมาใช้ที่เมืองหลวง?
คนที่ใช้ตราประทับมู่อวิ๋น ทำให้ตราประทับมู่อวิ๋นมีกำลังแข็งแกร่งมากมหาศาล !แรงกดดันที่มากมายอย่างนี้ มีกำลังเหลือล้นพอที่จะสามารถฆ่าปัญญาชนคนหนึ่งได้
ไม่เพียงเท่านั้น ตราประทับมู่อวิ๋นยังสามารถฆ่าปัญญาชนคนอื่นๆบนถนนจูเชวี่ยอีกด้วย!
“ไม่ทันการแล้ว!เจ้ารีบกลับไปเอาตราประทับของฮ่องเต้มาเร็ว!”
ฉินเซิงรีบร้อนอย่างมาก เขารีบหันหน้ากลับไปพูดกับจงกุ้ยว่า: “ข้าจะอพยพปัญญาชนไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก่อน!”
“แล้วปัญญาชนคนนั้นที่อยู่ที่บนถนนจูเชวี่ย ไม่ช่วยแล้วใช่ไหม?”
จงกุ้ยตกตะลึง ในตอนนี้เขาและฉินเซิงไม่รู้ว่าคนๆนั้นก็คือเซียวเฉวียน ฉินเซิงขมวดคิ้ว :“จะช่วยยังไง!ไม่ทันการแล้ว!เสียสละส่วนน้อยเพื่อแลกกับส่วนมาก!เร็วเข้ารีบอพยพปัญญาชนไป!”
“ขอรับ!”
จงกุ้ยรีบพาคนขี่ม้าหันหลังกลับไปทันที แยกย้ายกันไปดำเนินการ
ฉินเซิงถือดาบ ขมวดคิ้วแน่น กังวลร้อนใจอย่างมาก!
ถนนจูเชวี่ย บ้านของประชาชนที่สะอาดเรียบง่าย ภายในลานบ้านเล็กๆและเก่าๆนั้น เต็มไปด้วยดอกไม้ต้นหญ้าเขียวชอุ่ม
แต่ภายในบ้าน ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งส่งเสียงร้องไห้อย่างหมดหนทาง
ตรงหน้าของเธอมีคนๆหนึ่งกระอักเลือดออกมา พุ่งล้มลงบนพื้น
"ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงร้องไห้ ต้องการจะพยุงเขาขึ้น แต่เมื่อโดนตัวเขา เขาก็ส่งเสียงร้องคร่ำครวญ:“คุณชาย!ท่านเป็นอะไร?ไม่สบายตรงไหน?”
คนที่ล้มลงบนพื้น ใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายธรรมดา อายุก็ยังน้อย ดวงตาทั้งสองข้างดูใสสะอาดบริสุทธิ์
ผู้หญิงคนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้อย่างหนัก แต่ยังดูสวยงามจนทำให้คนสงสาร:“คุณชาย !ทำไมอยู่ดีๆท่านถึงเป็นอย่างนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...