ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 534

“ข้า...ข้าเป็นใคร?”

ครั้งแรกที่เซียวเฉวียนได้เห็นนาง เขาก็พลันเกิดอาการสติหลุดเล็กน้อย

สตรีผู้นี้คิ้วดังกิ่งหลิว นัยน์ตาดุจดอกท้อ งดงามทว่าไม่เย้ายวน รูปทรงใบหน้าไม่ใช่ทรงดังผลแตงแหลมทื่อ แต่กลับเป็นใบหน้าทรงไข่ห่านที่อ่อนช้อย ท่ามกลางราศีอันดูงามสง่านั้นยังหลงเหลือให้เห็นถึงประกายความอ่อนโยนเฉลียวฉลาดที่พาให้คนหลงใหลในทันทีได้

นางมองมายังเซียวเฉวียนอย่างน่าสงสาร ยามที่ถามว่าเซียวเฉวียนเป็นผู้ใดนั้น ใบหน้าของนางยังเผยประกายดื้อดึงขณะที่โอบกอดคนผู้นั้นเอาไว้

ความงดงามที่ทั้งเปราะบางและแข็งกร้าว และในเวลาเดียวกันก็เผยโฉมอยู่บนพักตร์ที่เรียกได้ว่าเลอโฉมจนน่าตกตะลึง ต่อให้เป็นเซียวเฉวียนที่เคยพบสาวงามทั่วหล้ามาแล้วยังต้องสติหลุดไปในพริบตา

สตรีแบบนี้สมควรมีอยู่แต่บนสวรรค์เท่านั้น ถามหาใต้หล้านี้มีอยู่หรือไม่

“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่?”

หยางอวี้ฮวนครั้นเห็นจู่ๆ เซียวเฉวียนก็โผล่มาอย่างกะทันหันปนแปลกประหลาด แถมยังเอาแต่เหม่อมองนาง ความตกตะลึงของนางก็เปลี่ยนเป็นความระแวง

หากข้าพูดว่าข้าถูกพู่กันด้ามหนึ่งพามา เจ้าเชื่อหรือไม่?

เซียวเฉวียนย่อมไม่ได้ถามเช่นนี้ ด้วยเกรงว่าคนงามเช่นนางจะพูดว่าเขาเป็นอันธพาลพูดจาเพ้อเจ้อ ทว่าพู่กันเฉียนคุนพาเขามาที่นี่เพื่ออะไรกัน?

ให้เขามาพบสาวสวยอย่างนั้นหรือ?

หรือให้เขามาจีบสาว?

แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเป็นผู้ชายคนหนึ่ง แต่ก็เป็นชายที่แต่งงานแล้ว เขากับองค์หญิงต้าถงกลายเป็นสามีภรรยากันแล้ว พู่กันบ้านี่เกิดคิดอ่านอะไรขึ้นมา อยากสนับสนุนให้เขาเล่นชู้งั้นหรือ?

พู่กันเฉียนคุนไร้คุณธรรมมากขึ้นทุกที นี่ยิ่งเหมือนกับนายท่านเช่นเขามากกลเรื่อยๆ แล้วจริง

“ท่านสามารถช่วยคุณชายหยางได้หรือไม่?”

หยางอวี้ฮวนไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด นางเชื่อใจเซียวเฉวียน

แม้ว่าผู้ชายเบื้องหน้านางคนนี้จะเหมือนกับชายหนุ่มคนอื่น ชื่นชอบมองนางอย่างจาบจ้วง แต่ในสายตาของเขากลับไม่มีท่าทีละลาบละล้วงหยาบคาย เป็นเพียงประกายความชื่นชมตรงไปตรงมาเท่านั้น

เขาเหยียดร่างยินตรง นัยน์ตาทอประกายเฉียบคม มุมปากของเขายังมีรอยเลือดติดอยู่ ส่วนมือซ้ายนั้นคล้ายกระดูกหักไปแล้ว แต่ก็ดูไม่คล้ายเป็นพวกโจรที่ปีนบ้านชาวบ้านขโมยข้าวของ

“ท่านช่วยคุณชายหยางได้หรือไม่?”

หยางอวี้ฮวนรวบรวมความกล้าถามอีกครั้งหนึ่ง ยามนี้เซียวเฉวียนถึงค่อยได้สติกลับมา เขาเช็ดน้ำลายที่เกือบจะหก “แค่กๆ! แล้วคุณชายหยางล่ะ?”

“คนผู้นี้”

หยางอวี้ฮวนชี้ไปยังคนผู้หนึ่งในอ้อมอกของนาง เซียวเฉวียนในยามนี้ถึงได้ตั้งสติดูให้ชัดๆ อ้อ ตรงนี้ยังมีคนอีกรายหนึ่ง

“เขาใช่เสียชีวิตแล้วหรือไม่?”

หยางอวี้ฮวนร่ำไห้ ดังสาลี่ต้องสายฝน เซียวเฉวียนรีบยกมือขวาข้างที่กระดูกไม่ได้หักขึ้นก่อนจะลองตรวจสอบลำคอของชายผู้นั้น

ความเคลื่อนไหวอ่อนแรงเป็นที่ยิ่ง น่าจะใกล้ตายแล้วแน่นอน

หรือว่าที่พู่กันเฉียนคุนพาเขามา มิใช่เพื่อให้ดูสาวงามแต่เพื่อให้ช่วยคนงั้นหรือ?

ช่วยคนก็ไปหาหมอสิ ให้เซียวเฉวียนมามีประโยชน์อะไรกัน?

พู่กันเฉียนคุนนั้นคล้ายจะเข้าใจความคิดของเจ้านาย มันรีบเคาะไปยังผนึกมู่อวิ๋นที่ลอยสูงอยู่กลางอากาศ

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว

ไม่เข้าใจ

บนโลกใบนี้สิ่งที่เข้าใจยากที่สุดนั้นคือจิตใจของสตรี

และสิ่งที่เข้าใจยากกว่าจิตใจของสตรีนั้นคือจิตใจของพู่กันด้ามหนึ่ง

ในเมื่อเซียวเฉวียนยังไม่อาจจะคาดเดาได้ถึงจิตใตของสตรีเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะไปตรึกตรองเข้าใจภาษาใบ้ของพู่กันได้อย่างไร?

“ท่านมีกระดาษหรือไม่?”

พอเซียวเฉวียนถามเช่นนี้ หยางอวี้ฮวนก็เหม่อลอยไป “ไม่ช่วยคนก่อนหรือ?”

“เอากระดาษมาก่อน”

“ลิ้นชักที่สองในโต๊ะนั้นมีเจ้าค่ะ”

หยางอวี้ฮวนยื่นมือชี้ เซียวเฉวียนยามนี้ถึงได้เห็นว่ามือของสตรีผู้นี้ยังคงเป็นของอันงดงามไม่อาจจะหาใดเปรียบ

นิ้วมืออันเรียวยาว อ่อนช้อยดังต้นหอม ทว่าสมบูรณ์แบบเป็นที่สุด

เจ้าหนุ่มที่สลบเป็นตายไปนั่น ช่างเป็นผู้ที่โชคดีใหญ่หลวงแล้ว

เซียวเฉวียนเดินไปยังหน้าโต๊ะตัวนั้น เขามาที่โต๊ะแล้วหยิบกระดาษออกมา

กระดาษนั้นเป็นกระดาษขาวธรรมดา ไม่แพง และไม่ค่อยซึมซับหมึกแต่ก็พอใช้งานได้

บัณฑิตที่มีสภาพความเป็นอยู่ธรรมดาเช่นนี้ เหตุใดถึงได้เลี้ยงแม่นางผู้ผุดผ่องเช่นนี้ออกมาได้กัน?

หรือว่าความงามของแม่นางผู้นี้นั้นเป็นแต่กำเนิด?

ไม่ใช่ว่าเซียวเฉวียนเอาแต่พะวงคิดเรื่องของหยางอวี้ฮวน แต่เพราะรูปร่างหน้าตาของนางนั้นโดดเด่นผิดคนธรรมดาจริง แม่นางของครัวเรือนทั่วไปนั้นต่อให้ผุดผ่องมีน้ำมีนวลแต่ก็ไม่เหมือนกับสตรีผู้นี้ งดงามกระทั่งรอยแยกปลายนิ้วยังสวยเลย

“มา เขียน”

เซียวเฉวียนหยิบกระดาษ เพื่อให้พู่กันเฉียนคุนไม่ทำตัวอมพะนำต่อ ให้มันเขียนออกมาเลยไม่อย่างนั้นเขาไม่เข้าใจมันจริงๆ

เรื่องนี้ทำให้เซียวเฉวียนปวดหัวเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเขาต้องพกพากล่องเครื่องเขียนไปตลอดทุกที่ทุกเวลาหรือ กระดาษในสมัยโบราณนั้นแข็งไปหน่อย ไม่ได้อ่อนนุ่มเหมือนกับกระดาษในยุคสมัยปัจจุบัน ดังนั้นแล้วคนโบราณพกกระดาษไปไหนก็จะใส่กล่องเครื่องเขียนไว้ ไม่อาจจะพกไว้ในเสื้อผ้าจะทิ่มก้นเอา

เนื่องด้วยสาเหตุที่มันทิ่มแทงก้นนี้ เซียวเฉวียนยินยอมคาดเดาจิตใจของพู่กันดีกว่าว่าจะพูดอะไร

“คุณชายหยาง...ท่านฟื้นสิ”

ความสนใจของหยางอวี้ฮวนยังอยู่บนร่างหยางชู หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นที่ได้เห็นพู่กันเฉียนคุนกับผนึกมู่อวิ๋นลอยอยู่บนฟ้าเช่นนี้ จะต้องตกตะลึงจนหน้าถอดสี ตกใจจนแข้งขาสั่นเป็นอันแน่

ส่วนนางกลับไม่ได้มองเลยสักนิด ทั้งจิตใจของนางเอาแต่คิดถึงหยางชู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย