ใช่ ฮ่องเต้ไม่มีคุณสมบัติ
ฮ่องเต้ฉลาดเฉลียว อำมหิต เจ้าแผนการ ทว่าเขาอ่อนเยาว์เกินไป
ฮ่องเต้มรใจคิดอยากคัดหาผู้มากความสามารถผ่านการสอบเค่อจวี่เพื่อคานอำนาจกับเว่ยเชียนชิว
เซียวเฉวียนผ่านการกล่อมเกลาทางวัฒนธรรมจากจีนมากว่าห้าพันปี เมื่อมาเป็นจอหงวนที่ต้าเว่ยนี้ ความสามารถของเขาย่อมเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ความสามารถของเขากับเว่ยเชียนชิวนั้นก็นับว่าห่างกันมากโขเลยทีเดียว
บนโลกใบนี้ไม่ยุติธรรม ระดับชั้นของเซียวเฉวียนนี้ ยังต้องทนรับการรังแกของเชื้อพระวงศ์และผนึกนานาชนิดอยู่
ต่อให้ฮ่องเต้คัดเลือกจอหวนออกมาอีกกี่คนต่อกี่คน หรือจะมีจอหงวนสักสิบคนก็ตาม ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งตระกูลของเว่ยเชียนชิวครอบงำอำนาจฝ่ายเดียวได้
ต่อให้มอบจอหงวนให้ฮ่องเต้อีกนับหมื่นคน แล้วจะอย่างไรหรือ?
เย่าเหล่ากล่าวว่า ผนึกจูเสินนั้นหากใช้สะกดทับขึ้นมาจริงๆ ผู้อารักขาที่กำเนิดจากทางคุนหลุนล้วนต้องตายอย่างแน่นอนทุกคน
ส่วนผู้อารักขาที่เกิดจากชาวยุทธ์แท้นั้นย่อมไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยสักนิด
แล้วยังจะสู้อะไรอีกหรือ?
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฮ่องเต้ยังมีสิทธิมาคานอำนาจอะไรกับเว่ยเชียนชิวกันหรือ?
แม่เมิงยังไม่ทันได้สู้ก็แพ้เสียแล้ว
ผนึกจูเสินสะกดทับเหล่าผู้อารักขายังเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือมันยังมีพลังในการสะท้อนกลับเหล่าบัณฑิตที่พวกเขาติดตามด้วย
จริงๆ แล้ว เซียวเฉวียนคิดมามากแล้ว
ฮ่องเต้สูดลมหายใจยาวเหยียดสายหนึ่ง เขาไม่สนใจเมื่อครู่ที่เซียวเฉวียนพูดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติ “ผนึกจูเสินไม่ได้มีผลสะท้อนกลับบัณฑิต”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “ฝ่าบาท ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
ในบันทึกโบราณนั้น ผนึกจูเสินเพียงแค่มีผลเล่นงานเหล่าผู้คนที่เกิดมาจากชาวเทือกเขาคุนหลุนเท่านั้น ดังนั้น ผนึกจูเสินจึงไม่ได้มีผลสะท้อนกลับบัณฑิต
แต่ดันสะท้อนกลับเซียวเฉวียน
เพราะเซียวเฉวียนคือนายของพู่กันเฉียนคุน
พู่กันจินหลุนเฉียนคุนนั้น เป็นอาวุธเก่าแก่ที่มาจากเทือกเขาคุนหลุน และเป็นอาวุธของขุนพลใหญ่ชาวคุนหลุน ความเก่าแก่นานปีของมันนั้นไม่อาจเทียบสูงต่อกับผนึกจูเสินได้ การที่ผนึกจูเสินสะกดทับเหล่าคนเทือกเขาคุนหลุน พู่กันเฉียนคุนย่อมเป็นศัตรูตามธรรมชาติของผนึกจูเสิน
“เจ้าแตะระดับขั้นกวีสมุทรคุนหลุนแล้วสินะ”
การที่ฮ่องเต้เปิดโปงความลับที่เซียวเฉวียนซ่อนเก็บไว้อย่างกะทันหัน ทำเอาเซียวเฉวียนแตกตื่นตกใจไม่ตั้งตัว ฮ่องเต้ยังคงเอ่ยปากต่อ คล้ายกับเขาไม่ต้องการการยืนยันจากเซียวเฉวียน “เจ้าลุถึงขั้นกวีสมุทรคุนหลุน พละกำลังเพิ่มขึ้นมากมาย รวมพลังกับพู่กันเฉียนคุนสั่นสะเทือนผนึกจูเสิน ทำให้ไป๋ฉี่หลุดพ้นจากการควบคุมของผนึกจูเสิน”
“นี่ไม่ได้หมายความว่า เจ้าจะสามารถทำลายมันได้หรอกนะ”
ฮ่องเต้ไม่ได้โทษที่เซียวเฉวียนไม่รู้จักประมาณกำลัง
เขาแค่กลัวว่าเซียวเฉวียนจะตาย
ในเวลานี้ยามนี้ น้ำเสียงนี้ของฮ่องเต้พลันเผยความห่วงใยแบบที่เพื่อนมีให้แก่กันออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เซียวเฉวียนเหม่อมองฮ่องเต้
ที่แท้ ฮ่องเต้ล้วนทราบทุกสิ่ง
ฮ่องเต้เข้าใจทุกอย่าง
อีกทั้ง เขายังช่วยเซียวเฉวียนปิดบังด้วย
“ฝ่าบาท ท่านทราบตั้งแต่เมื่อใด...”
“เรื่องที่เจ้าลุขั้นกวีสมุทรคุนหลุนน่ะหรือ?” สายตาของฮ่องเต้กลอกไปมาเล็กน้อย “เจ้าปิดบังผู้อื่นได้ แต่เจ้าปิดบังข้าไม่ได้หรอก”
“ฉินเฟิงกับฉินซูโหรวสังหารขุนนางผู้มีผลงาน แล้วอรหันต์สิบหกนั่นเป็นพี่น้องของเจ้า อาศัยนิสัยของเจ้า เจ้าจะต้องอยากสังหารพวกเขาอย่างรวดเร็วจนทนไม่ไหวแน่”
“แต่ว่าเจ้าไม่ได้สังหารฉินเฟิงกับฉินซูโหรว”
ฮ่องเต้สาวพระบาท ก่อนจะก้าวไปมองราตรีอันมืดทึบด้านนอก “ทุกคนต่างพูดว่าเจ้าไม่กล้าฆ่า เจ้าหวั่นเกรงสถานะและตำแหน่งของจวนฉิน”
“บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องอะไรที่คนอย่างเจ้าไม่กล้าทำอีกหรือ?” ฮ่องเต้ทรวงสรวลพลางส่ายพระพักตร์ สายพระเนตรทอดกลับจากฟากฟ้าราตรี “เจ้าไม่อาจจะสังหารฉินซูโหรวได้เพราะสัญญาเลือดอย่างแน่นอน”
“บนโลกใบนี้ไม่มีใครสนใจสัญญาเลือด นอกจากว่า...” ฮ่องเต้จับจ้องเซียวเฉวียนนิ่ง ท่วงท่าของพระองค์ไม่ได้ด้อยหรือสูงไปกว่าเซียวเฉวียน “นอกจากเจ้าจะแตะระดับกวีสมุทรคุนหลุน”
ฮ่องเต้ยังเยาว์รายนี้พระทัยละเอียดรอบคอบเหนือกว่าที่เซียวเฉวียนคาดการณ์ไว้นัก
“เซียวเฉวียน ข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน หากว่าเจ้าศึกษาศาสตร์แห่งถ้อยคำได้ ข้าจะช่วยเจ้าทำลายผนึกจูเสิน”
“แต่หากเจ้าศึกษาวิชาแห่งถ้อยคำไม่ได้...”
ฮ่องเต้เหมือนจะเชื่ออย่างหลังมากกว่า “ถ้าอย่างนั้นนับแต่วันนี้ไป เจ้าก็จงเป็นขุนนางบุ๋นที่ดีรายหนึ่งอย่างที่ควรจะเป็น ทำตามที่ข้าสั่งการ ไม่อนุญาตให้กระทำการตามอำเภอใจ”
“ฝ่าบาทจะทรงช่วยกระหม่อมอย่างนั้นหรือ?”
เซียวเฉวียนตื่นตะลึง ผนึกจูเสินมิใช่ว่าแข็งแกร่งมั่นคงหรือ?นอกจากพู่กันเฉียนคุนแล้วยังจะมีอะไรทำลายผนึกจูเสินได้อีกหรือ?
ฮ่องเต้จะช่วยเขาได้อย่างไร?
“ใช่” ฮ่องเต้พยักพระพักตร์อย่างมั่นคง “แต่ว่า ก็ต้องดูด้วยว่าเจ้ามีคุณสมบัติจะช่วยข้าด้วยหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...