เซียวเฉวียนซึ่งในที่สุดก็คิดปัญหานี้ทะลุปรุโปร่งได้ ใต้แสงรุ่งอรุณแห่งอโณทัยอันบางเบา ตัวสั่นโดยมิอาจบังคับตัวเองได้
ในฐานะคนสมัยใหม่ เป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับพิพิธภัณฑ์มาหลายปีและคุ้นเคยกับเรื่องราวราชนิกุลของราชวงศ์ทุกสมัย เซียวเฉวียนรู้สึกยากที่จะยอมรับว่ามีบุคคลเช่นนี้อยู่บนโลก
เซียวเฉวียนรู้ว่าราชวงศ์เป็นชนชั้นสูง พวกเขาโหดเหี้ยม เลือดเย็น และหยิ่งผยอง พวกเขาเชื่อว่าเลือดที่ไหลผ่านตัวพวกเขาเป็นสิ่งที่มีค่าสูงส่งที่สุดในโลก
ในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ รวมถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ อาณาจักรของทุกคนถูกสร้างขึ้นด้วยกองศีรษะและเลือดหยาดเหงื่อของมนุษย์ เริ่มแรกในการก่อตั้งทุกประเทศล้วนผ่านมาด้วยฝนอาบเลือดและลมกลิ่นคาว
ดังนั้น ราชวงศ์กระหายเลือดและโหดเหี้ยม เป็นเรื่องปกติ
แต่ทั้งกะประวัติศาสตร์ของจีนโดยรวม เป็นเวลาราวห้าพันปี ไม่เคยปรากฏมีใครเหมือนเว่ยเชียนชิวนี้เลย!
ไม่มีแน่นอน!
ในประวัติศาสตร์จีน ถึงจะมีกษัตริย์หรือราชวงศ์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จุดเริ่มต้นทางจิตวิทยาและรูปแบบพฤติกรรมของพวกเขาก็ล้วนติดตามได้!
แม้แต่ราชาโจ้วหวังผู้โหดร้าย ก็ยังคิดมี เปาซื่อ ไว้ชื่นชมโปรดปราน!
แม้เป็นราชาที่เย่อหยิ่งและเลือดเย็นสักเพียงใด ก็มีขีดจำกัดของตัวเอง ซึ่งก็คือคนสนิทและพวกพ้องของเขาเอง คนอื่นๆ อย่ามาแตะต้องเด็ดขาด!
แต่สำหรับเว่ยเชียนชิว มันไม่สำคัญ
มันแค่เกมเท่านั้น
ทุกคนเป็นเพียงมดที่อยู่ใต้รองเท้าของเขา บางทีเขาไม่คิดที่จะเหยียบด้วยซ้ำ
น่ากลัวมาก!
น่าสยดสยองมาก!
พวกเขาจะคิดอย่างไรถ้า
ถ้าพวกข้าราชสำนักที่อยู่ฝ่ายเว่ยเชียนชิวรู้ว่าพวกเขาเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง เป็นตัวหมากรุกที่พร้อมจะถูกทิ้งได้ทุกเวลา พวกเขาจะคิดยังไง
พวกเขาจะยังคงทำงานเพื่อเงินและสถานะ ตรากตรำไม่คิดชีวิตเพื่อเว่ยเชียนชิวอีกไหม?
แต่ก่อนเซียวเฉวียนรู้สึกว่าเว่ยเชียนชิวเป็นคนใจกว้างเอามาก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รับเจ้าหน้าที่มากขนาดนั้นไว้รับใช้ตัวเอง
เงินและสถานะที่ติดสินบนและให้รางวัลแก่เจ้าหน้าที่ถือเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้พวกเขามีความเจริญมั่งคั่งในตลอดชีวิต
แต่สำหรับเว่ยเชียนชิว มันเป็นแค่ขนหน้าแข้ง
ในสายตาของเว่ยเชียนชิว หากสามารถใช้สิ่งเล็กน้อยแลกมาได้ซึ่งความยอมรับนับถือของคนมากมายขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ทำล่ะ?
นอกจากนี้ สิ่งเหล่านี้สำหรับพวกเจ้าหน้าที่ ถือเป็นของขวัญมีค่าจากเว่ยเชียนชิว
แต่เว่ยเชียนชิวรู้สึกว่านั่นเป็นการให้ทาน
เป็นการให้ทานเล็กๆ น้อยๆ กับพวกมดผู้ต่ำต้อยและอ่อนแอกลุ่มนี้
และมดเหล่านี้มีความสุขเพราะสิ่งทำทานพวกนี้ จึงทำงานให้อย่างถวายชีวิต
ตอนนี้พวกข้าราชฯ ฝ่ายเว่ยเชียนชิวเหล่านี้ ซึ่งไม่รู้สึกว่าเว่ยเชียนชิวไม่ใส่ใจคนของพวกเดียวกันเองก็เพราะว่าข้าราชฯ เหล่านี้จิตใจไม่บริสุทธิ์
ไม่ว่าจะเป็นการตายของซ่งจือและอัครเสนาบดีจู หรือการตายของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ พวกเขาต่างก็รู้ว่าคนเหล่านั้นมือไม่สะอาดทั้งภายในและภายนอก คนตายเหล่านั้นได้ทำผิดสร้างบาปมามากมาย คนตายเหล่านั้นมีจุดอ่อนให้จักรพรรดิจับได้ จักรพรรดิจะลงโทษพวกนั้นถึงตาย เว่ยเชียนชิวก็ไม่อาจพูดอะไรได้
ไม่ใช่ว่าเว่ยเชียนชิวไม่อาจพูดอะไร แต่เขาไม่คิดที่จะพูดต่างหาก
มดตัวหนึ่งตาย ก็จะมีมดตัวใหม่มา ใช้เงินเพียงเล็กน้อย เว่ยเชียนชิวไม่คิดติดใจอะไรเลย
ดังนั้นคนตายเหล่านี้ตัวเองก็ไม่บริสุทธิ์ ทุกคนล้วนตายเพราะมีเหตุ ทำให้ข้าราชฯ ฝ่ายเว่ยเชียนชิวไม่รู้สึกว่านายของเขาใจไม้ไส้ระกำอย่างยิ่ง
อยู่ร่วมกับเสือสิงห์ สักวันก็ต้องโดนเสือสิงห์กินไป
มันเป็นทางเลือกของแต่ละคน
ผู้ที่เลือกเว่ยเชียนชิว กำลังรอผลกรรมที่ตามมา
เซียวเฉวียนไม่ใช่เจ้าแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อาจมาสนใจทุกคนได้
แต่ครูและเพื่อนผู้บริสุทธิ์ของเขา กองทัพตระกูลเซียวผู้บริสุทธิ์ ลูกหลานผู้บริสุทธิ์จากตระกูลยากจน ข้าราชฯ ผู้บริสุทธิ์ ผู้คนที่เว่ยเชียนชิวมองว่าเป็นมดกลับเป็นคนที่เซียวเฉวียนห่วงใยและทะนุถนอมอย่างยิ่ง!
อ่ะ ตอนฉินปาฟางเสียชีวิต พิษเชียนจีร้ายแรงจนมือและเท้าหงิกงอไป
แม่ทัพผู้รับใช้ชาติและประชาชนมาตลอดชีวิต เสียชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนี้ เซียวเฉวียนนึกขึ้นแต่ละครั้ง ใจเหมือนถูกมีดเฉือน
เหวินฮั่นถูกยิงด้วยธนูพิษ เลือดที่ไหลออกมานั้นเยือกเย็นนัก ตอนเซียวเฉวียนอุ้มเขากลับไปยังชิงหยวน เสื้อผ้าเปียกโชกไปหมด เย็นเยือกเข้าไปถึงใจและกระดูก
เซียวเฉวียนไม่เคยลืมมันแม้แต่วันเดียว ไม่เคย...
ก่อนที่ปีศาจกวีเสียชีวิต แขนขาหักไปหมด ตอนเซียวเฉวียนเอาร่างอาจารย์บรรจุโลง เขาต้องหักข้อต่อกลับอย่างแรง
ฝ่ามือของเซียวเฉวียน ยังจดจำได้ถึงความรู้สึกตอนที่สัมผัสร่างของอาจารย์ จิตใจแหลกสลาย
เหี้ยมโหดขนาดไหน...
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้าหมื่นคนของกองทัพตระกูลเซียว เลือดไหลเป็นทะเล ได้ยินมาว่า ซากผู้ตายกองรวมกันเหมือนเนินเขา
เซียวเฉวียนเป็นนักเล่นระดับปรมาจารย์ของเกมในยุคปัจจุบัน เขาอ่านตำราทหารทั้งโบราณและสมัยใหม่ ท่องเกมบัลลังก์มาทุกยุค อยากเล่นกับข้าเหรอ?
“เข้าประชุมรอบเช้า! เชิญข้าราชฯ ทุกท่านเข้าสำนัก!”
เวลานี้ เสียงระฆังยามเช้าของพระราชวังดังขึ้น ขันทีหม่ากงกงตะโกนเสียงดัง บรรดาข้าราชบริพารต่างก็รีบสำรวจท่าทีให้เรียบร้อยและเข้าไปในสำนักอย่างเป็นระเบียบ
คนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นเซียวเฉวียน มีเพียงจ้าวหลานคนเดียวที่มองเห็นพลังอาฆาตอันไม่มีที่สิ้นสุดในดวงตาของเขา
มีกระทั่งน้ำตาจางๆ อยู่ในดวงตาของเซียวเฉวียน
จ้าวหลานขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่ถูกดึงดูดโดยสายตาของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนกำลังคิดอะไรอยู่?
ตำหนักเทียนหมิง บันได 328 ขั้น
เซียวเฉวียนปีนไปทีละก้าว แต่ละก้าวมั่นคงและหนักหน่วง
ในที่สุด ในที่สุด
เขาได้เข้าสู่สนามรบอย่างเป็นทางการแล้ว
หลังจากได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของศัตรูอย่างชัดเจนเท่านั้น สงครามนี้จึงจะเริ่มต้นได้อย่างแท้จริง
เว่ยเชียนชิวไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าเขาเก็บซ่อนตัวมาหลายปี มาถูกลูกหลานตระกูลต่ำต้อยที่เพิ่งเข้ามารับราชการในราชสำนักไม่ถึงปี มองทะลุอย่างปรุโปร่ง
หน้ากากที่เขาใช้ปลอมตัวมาหลายปี ถูกเซียวเฉวียนฉีกออกโดยสิ้นเชิง
ประชุมรอบเช้าในราชสำนักวันนี้ มีกลิ่นดินปืนที่แรงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ต้าเว่ย
เนื่องจากเซียวเฉวียน เจ้าหน้าที่ระดับ 7 น้อยๆ เดินตรงไปยังหน้าขององค์จักรพรรดิเพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบและขับไล่เจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวน 38 ชื่อออก
ราชสำนักถึงกับช็อก!
วันนี้เซียวเฉวียนบ้าหรือเปล่า?
วันแรกที่เป็นเจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวน ก็เหมือนสุนัขบ้าคอยวิ่งกัดคน?
เรื่องใหญ่ของวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ฉิน เหลียงไหวโหรว และเรื่องของตรามู่อวิ๋น
เหตุใด เซียวเฉวียนมาปุ๊บก็ไปเกี่ยวพันกับเพื่อนร่วมงานของเขาเอง?
จ้าวอีโต้ว ผู้นำของเจ้าหน้าที่เอี๋ยนกวน ยิ่งดูสับสนยิ่งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...