ต้นฤดูใบไม้ร่วงของต้าเว่ยอากาศนั้นค่อนข้างจะอบอุ่นและเย็นคล้ายๆกับฮว๋าเซี่ย มีความอบอุ่นแต่ไม่ได้ถึงกับแห้งชื้น
ลมอ่อนๆพัดเข้ามาเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสบายในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานจะรู้สึกหนาวขึ้น
ขุนนางทั้งหลายและฮ่องเต้กำลังรอการมาถึงของเว่ยเชียนชิว ในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอื่นๆ ที่เซียวเฉวียนไม่ค่อยให้ความสนใจ
ในตอนเช้าตรู่นั้นทั้งมือและเท้าของขุนนางก็เริ่มรู้สึกเย็นขึ้น ในส่วนเว่ยเชียนชิวนี่ไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าไม่มีแม้แต่บุคคลจากจวนเจียกั๋วที่จะมาที่นี่
ได้เวลาคุยโม้กันแล้ว!
จ้าวอีโต้วมองไปที่เซียวเฉวียนพร้อมกับนึกคิดว่านอกจากเซียวเฉวียนจะไร้ยางอายแล้ว แถมยังมั่นใจในตัวเองมากเกินไปอย่างที่ไม่สามารถจะใช้คำอะไรมาพูดได้เลย
จวนเจียนกั๋วไม่มีใครโผล่หน้ามาเลยเซียวเฉวียนใช้วิธีใดที่จะให้จวนเจียนกั๋วมาได้อย่างไร?
ขุนนางทั้งหลาย ท่านมองมาที่ข้าหรือ ข้าแค่มองเจ้าไง เขายิ้มที่มุมปากและกำลังยิ้มเยาะเย้ยเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนยังอ่อนต่อโลกเกินไป ตอนมาราชสำนักครั้งแรกเขาควรจะยับยั้งความเฉียบแหลมของเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วต้าเว่ยนั้นปลงต่อทุกๆอย่างแล้ว แต่เซียวเฉวียนคนนี้เอาจริงเอาจังกับตัวเองมากซะเหลือเกิน
เมื่อเซียวเฉวียนมาถึง เขาไม่เพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทตรวจสอบและเลิกจ้างที่ปรึกษาทั้งสามสิบแปดคน และตอนนี้เขายังจะกล้าที่จะมุ่งเป้าไปที่จวนเจียนกั๋วอีกด้วย
หากยังไม่ได้รับบทเรียนนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความกลัว เขาใช้สิ่งนี้เปรียบเทียบกับเซียวเฉวียน ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถบางอย่างก็ตาม แต่เด็กคนนี้มีความเย่อหยิ่งมาก
เมื่อระฆังและกลองดังขึ้นเท่ากับตอนเช้าสิ้นสุดลง ฮ่องเต้ผู้ซึ่งพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อชะลอเวลาไว้แต่ไม่สามารถชะลอเซียวเฉวียนได้อีกต่อไป
เว่ยเชียนชิวเขาไม่ได้มาเลย
ไม่เห็นแม้แต่ปลายเส้นผมของเว่ยเชียนชิว
“ฝ่าบาท! เซียวเฉวียนอวดโอ้ แกล้งโอรสสวรรค์และข้าราชบริพาร เขาควรถูกพิพากษาฐานหลอกลวง!”
ทันทีที่จ้าวอีโต้วได้ยินเสียงกลอง เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะขอให้ฝ่าบาทลงโทษเซียวเฉวียนเหมือนกับว่าเขากลัวที่จะพลาดโอกาสนี้
ฝ่ามือของเซียวเฉวียนแอบเหงื่อออก เป็นไปได้ไหมว่าเขาเข้าใจเว่ยเชียนชิวผิด?
เขาใช้พู่กันเฉียนคุนเขียนให้กับเว่ยเชียนชิวได้รับ รู้ถ้าข้านั้นเข้าใจถูกต้องท่านก็คงน่าจะมา
ท่านมีเหตุผลอะไรทำไมท่านถึงไม่มา?
เป็นไปได้ไหมที่พู่กันเฉียนคุนไม่ได้เขียนตามคำที่ข้าพูดไป?
ทำไมโกงอะไรเช่นนี้!
พู่กันเฉียนคุนนี้เชื่อถือไม่ได้มาโดยตลอดและเหมือนจะมีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นไปได้ไหมที่เขาจะเปลี่ยนไปทางทิศอื่นเอง?
ชีวิตของนายท่านช่างเปลี่ยนไปง่ายพอๆกันกับพู่กันเฉียนคุนจริงๆ!
หลังจากที่ออกมาจากศาล เหตุผลที่เขาไม่ทำลายปากกาทั้งสองดาบนี้ทิ้งไปเพราะถ้าเกิดว่าเขาทำลายมันทิ้งไปนั้นเขาจะไม่มีสิทธิใช้นามสกุลของเซียว!
ณ จวนเจียนกั๋ว
เว่ยเชียนหลับตาลงและเพลิดเพลินไปกับตัวเอง
การเดาของเซียวเฉวียนนั้นถูกต้องไม่ผิดไป พู่กันเฉียนคุนผู้ดื้อรั้นวิ่งไปครึ่งทางเพียงเท่านั้น แล้วบินไปที่บ้านทางชนบทเพื่อแวะเล่นไก่และเป็ดของชาวนาคนอื่นๆ บินไปทั่วและส่งเสียงดังไปหมด
คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่นี่ ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน พวกเขากลัวมากจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านและไม่กล้าออกมา
พู่กันเฉียนคุนทั้งสองเล่นกันเลอะเทอะไปหมด จากนั้นพวกเขาก็เหวี่ยงเล่นอย่างมีความสุขไปที่จวนเจียนกั๋ว
เมื่อเขามาถึงเว่ยเชียนชิวที่กำลังเพลิดเพลินกับตัวเองและหลับตาอยู่ ปล่อยให้สาวงามทั้งสองของเขาบีบนวดเท้าของเขาด้วย
"เสียงโวยวายดังขึ้น!"
พู่กันเฉียนคุนแวบเข้ามาและมีกลิ่นสังหาร ทำให้เว่ยเชียนชิวลืมตาขึ้นทันที
พู่กันเฉียนคุนทั้งสองอยุ่ตรงหน้าเขาแล้ว
คำสีแดงสองบรรทัดลอยอยู่ในอากาศเว่ยเชียนชิวข้าชื่อเซียวเฉวียนฉันกำลังรอท่านอยู่ที่ศาลเฉา
อ๋า! เว่ยเฉียนชิว?
เว่ยเชียนชิวไม่เคยได้ยินใครเรียกเขาแบบนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว
เซียวเฉวียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก
แต่ทำไมเขาต้องไปล่ะ? เขาจำเป็นต้องไปด้วยหรือ แค่คำพูดจากเด็กหนุ่มเพียงคำเดียวงั้นหรือ เขาเป็นถึงผู้คุมที่สง่างามจำเป็นจะต้องไปตามนัดรึยังไง?
พู่กันเฉียนคุนกระพริบอีกครั้ง และบรรทัดถัดไปก็ปรากฏขึ้น ข้าต้องการเล่นเกมกับท่านและถ้าท่านชนะ ข้านั้นจะมอบยาอายุวัฒนะให้กับท่าน
เมื่อพูดทั้งหมด พู่กันเฉียนคุนทั้งสองก็หมุนเป็นวงกลมอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นก็หายไปพร้อมกับเสียงลม
นี่คือพู่กันจินหลุนเฉียนคุนที่กำลังพูดถึงเว่ยชิงในตอนแรกใช่ไหม?
ในครั้งนี้เมื่ออยู่ใกล้มาก ทำให้เว่ยเชียนคุนมองเห็นได้ชัดเจนมากว่ามีอาวุธเหล่านี้มีแสงเปร่งประกายออกมาและเป็นอาวุธที่เหนือกว่าอาวุธทั่วๆไปนั่นเอง
เว่ยเชียนชิวครุ่นคิด ยาอายุวัฒนะช่างน่าดึงดูดความสนใจสำหรับเขาจริงๆ
แต่เซียวเฉวียนนั้นกำลังพูดถึงอะไรหรือแค่กำลังเล่นเกมอยู่?
เกมรึ?
"ฮ่าๆๆๆ!"
...
ณ พระราชวังฉางหมิง
“ฝ่าบาท โปรดลงโทษเซี่ยวเฉวียนเสียเถิด สำหรับความผิดโทษฐานที่หลอกลวงฝ่าบาท!”
ในเวลานี้จ้าวอีโต้วนั้นคุกเข่าลงบนพื้นและขอร้องอ้อนวอนฝ่าบาท
ตึก…
ตึก…
หัวใจของเซียวเฉวียนเต้นอย่างกังวล
ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
จ้าวอีโต้วพูดอย่างใจร้อน "อำนาจของกษัตริย์! ต้องไม่ถูกดูหมิ่น! และตอนนี้เซียวเฉวียนนั้นก็ยโสทะนงตัวต่อหน้าฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่เห็นต้องรออะไรเลยขอรับ!"
“ผู้ที่มีเล่เหลี่ยมกับกษัตริย์เยี่บงนี้ ไม่คู่ควรที่จะเป็นข้าบริพารอีกต่อไป!”
“ตามกฎหมายของต้าเว่ยผู้ยิ่งใหญ่นั้น โทษประหารชีวิตสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ความทุกข์ความขมขื่นนั้นต่างหากที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!”
“ฝ่าบาท โปรดปลดตำแหน่งทั้งหมดออกจากบุคคลนี้เสียเถิดขอรับ ลดตำแหน่งเขาให้เป็นพลเรือน และอย่าให้บุคคลนี้เข้าร่วมในการสอบขุนนางระดับเคอจี่อีก!”
ขุนนางต่างสูดลมหายใจเข้าพร้อมกัน และมีความคิดว่าจ้าวอีโต้วนั้นช่างโหดร้ายเสียจริง
ด้วยวิธีนี้ตัวเลือกการหลบหนีของเซียวเฉวียนจึงหมดไป
นี่มันชัดเจนมาก
ที่ปรึกษาคุกเข่าลงทีละคน "ข้ามีข้อเสนอ! ข้าเพียงขอให้ฝ่าบาทให้ปลดเซียวเฉวียนออกจากตำแหน่ง และเขาจะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ได้รับการแต่งตั้งอีกตลอดชีวิต!"
ในสมัยโบราณ การลงโทษดังกล่าวหมายความว่าตระกูลเซียวนั้น ไม่มีทางทำอะไรได้หลายชั่วอายุคน
นี่มันช่างโหดร้าย
อย่างไรก็ตาม ความโหดเหี้ยมเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในศาล
เซียวเฉวียนกลอกตา ข้าจะบ้าตายมากแบบนี้!
ได้โอกาสโต้แย้งแล้ว เซียวเฉวียนนั้นยกมือขึ้นอย่างไม่เต็มใจ "ฝ่าบาท โปรดให้เวลาข้าอีกสักหน่อยขอรับ!"
ไม่ได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...