ฉินซูโหรวสายตาทอประกายวาบ เพียงเหมิงเอาได้เห็นก็ดูออกแล้วว่าสตรีผู้นี้กำลังจะรังแกคนอีกแล้ว
ผลก็คือ ฉินซูโหรวส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่านางกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง ทว่าร่างกายเอาแต่สั่นสะท้านตลอด
หากพูดว่า เดิมทีเซียวเฉวียนไม่รู้ว่ากำจัดจุดตันเถียนแล้วจะทำลายสัญญาเลือดได้ เช่นนั้น...
เช่นนั้นจะต้องเป็นท่านพ่อที่บอกเขาเป็นแน่
ถ้าเซียวเฉวียนขจัดสัญญาเลือดสำเร็จ เรื่องนี้นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเซียวเฉวียนเอง และทำให้เฉวียนสามารถไปทำสงครามได้อย่างสบายใจแล้ว มันยังมีประโยชน์ต่อตระกูลฉินด้วย
มิเช่นนั้นเซียวจิงคงไม่นำชีวิตของพวกฉินหนานฉินเป่ยทั้งหลายมาแลกเปลี่ยนกับฉินซูโหรวหรอก
ส่วนในตระกูลฉินนั้น ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านตันเถียนและเรื่องรากอักษรที่สุดก็คือฉินเซิง
เป็นท่านพ่อ...
ฉินซูโหรวตัวสั่นเทาทั้งร่าง เป็นท่านพ่อบอกกับเซียวเฉวียนว่ามีเพียงทำลายจุดตันเถียนเท่านั้นถึงจะปลดสัญญาเลือดได้
ท่านพ่อเตรียมที่จะสังเวยและกำจัดนางทิ้งเพื่ออนาคตของตระกูลฉินแล้ว
ฉินซูโหรวเงยหน้าขึ้นมองไปยังเหมิงเอ้าอย่างตื่นตะลึง
นางคือเม็ดไข่มุกกลางฝ่ามือของตระกูลฉิน เป็นคนที่บิดาของนางใส่ใจเป็นอันดับหนึ่ง นับแต่เล็กจนโต ไม่ว่าน่าจะดื้อรั้นเพียงใด ท่าพ่อไม่เคยเอ่ยวาจารุนแรงแม้สักประโยค
ทว่าตอนนี้ ท่านพ่อต้องการทำลายจุดตันเถียนของนางอย่างนั้นหรือ?
แล้วอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของนางจะทำเช่นไร?
“จวนฉิน...ถึงคราวต้องการการปกป้องจากเซียวเฉวียนแล้วอย่างนั้นหรือ?”
นางไม่กล้าเชื่อจริงๆ ตระกูลฉินถือเป็นตระกูลอภิมหาทรงอิทธิพลมีชื่อของต้าเว่ย เหตุใดถึงต้องให้เขยโอหังที่ถูกปลดไปแล้วอย่างเซียวเฉวียนมาปกป้องกัน?
มิใช่ว่าตระกูลฉินยังมีท่านพ่ออยู่หรือไร?
มิใช่ว่ายังมีท่านย่าอยู่หรือ?
มิใช่ว่ายังมีท่านอาอย่างฝ่าบาทอยู่หรอกหรือ?
“ไม่ พ่อของข้าไม่ทำกับข้าเช่นนี้แน่!” ฉินซูโหรวส่ายหน้า แทบจะพ่นน้ำลายออกมาแล้ว “น่าตลกสิ้นดี! ตระกูลฉินของข้านอกจากเซียวเฉวียนแล้วหรือว่าไม่มีผู้ใดสามารถกอบกู้ได้อีกงั้นหรือ?”
“ข้ายังมีเสด็จอาฮ่องเต้!”
หากแม้กระทั่งฝ่าบาทยังไม่อาจพิทักษ์ตระกูลฉิน แล้วเซียวเฉวียนจะทำได้อย่างไร?
อาศัยนิสัยชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ของเขาอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าฝีปากอันเฉียบคมของเขาอย่างนั้นหรือ?
หรืออาศัยเพียงบทกลอนของเขา?
ฉินซูโหรวจับจ้องเหมิงเอ้าอย่างไม่ยอมแพ้ “เจ้ากลับไปบอกเจ้านายเจ้า คิดอยากทำลายจุดตันเถียนของข้าน่ะฝันไปเถอะ! ตระกูลฉินของเราไม่ต้องการเซียวเฉวียน! ต่อให้ฟ้าจะถล่มลงมา ตระกูลฉินก็ไม่ต้องการเซียวเฉวียน!”
เหมิงเอ้าสายตาทะมึน เขาเอ่ยเสียงเย็น “ท่านคิดดีแล้วหรือไร?”
....
ฉินซูโหรวตกตะลึงสติหลุดไป
คำพูดประโยคนี้ของเหมิงเอ้ากล่าวได้รุนแรงและหนักหน่วงยิ่ง
รุนแรงหนักหน่วงจนภายในใจของฉินซูโหรวสะดุด “กึก” เซียวจิงแค่นเสียงเย็นชาครั้งหนึ่ง “ที่พวกเรามาที่นี่ในวันนี้เพราะท่านบาดเจ็บหนัก เป็นโอกาสอันดีในการทำลายจุดตันเถียน”
“หากท่านไม่ยินยอม ก็อย่าได้โทษที่ข้าไม่ได้เตือนท่าน ท่านจะต้องเสียใจแน่...”
แต่ไหนแต่ไรมาฉินซูโหรวเอาแต่วางตัวสูงส่งกว่านอื่น มีเพียงผู้อื่นที่น้อมตัวลงคุกเข่าเบื้องหน้านาง เซียวจิงใช้ท่าทีโอหังเช่นนี้ ทำให้นางไม่พอใจมาก “เจ้าพูดเพ้อเจ้อ! ข้าย่อมไม่ยินยอมอยู่แล้ว!”
“แล้วก็นะ! จวิ้นจู่เช่นข้าจะไม่เสียใจเป็นอันแน่!”
ความทะนงตนของฉินซูโหรวทำให้เซียวจิงถอนหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง การตกต่ำของตระกูลฉิน คงจะหนีไม่พ้นมาจากความเห็นแก่ตัวของบรรดาอนุชนในตระกูลฉินเหล่านี้ละ
“เฮอะ” ฉินซูโหรวแค่นเสียงเหยียดหยามเป็นที่สุด “หากว่าเซียวเฉวียนต้องการปลดสัญญาเลือดละก็ เขาทำลายจุดตันเถียนของตัวเองไปเลยไม่ได้หรือไง? เหตุใดต้องมาทำขงข้า ถือว่าดีดลูกคิดทำกำไรมาดีนักนี่”
“ฟังจากเจตนาท่าแล้ว” เหมิงเอ้าขมวดคิ้วแน่น “หลังจากที่นายท่านของพวกเราทำลายจุดตันเถียน ท่านจะสามารถปกป้องตระกูลฉินได้หรือไม่?”
ฉินซูโหรวผู้นี้เกรงว่าจะไม่ได้ตรองสถานการณ์ในตอนนี้ให้ละเอียด
แม้เซียวเฉวียนจะสั่งให้ฉินซูโหรวทำลายจุดตันเถียน แต่เซียวเฉวียนสัญญาไว้ว่าจะปกป้องตระกูลฉิน
สำหรับเซียวเฉวียนแล้ว นี่คือการแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรู้สึกเลยสักนิด
ทว่าข้อเสนอที่ฉินซูโหรวให้เซียวเฉวียนทำลายจุดตันเถียนนั้น ในสายตาของทุกคนแล้วแต่เห็นว่าเรื่องนี้ตลกมากๆ
เพราะหากทำเช่นนี้ ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับทั้งสองฝ่ายเลย ฉินซูโหรวผู้ที่สตรีบอบบองผู้หนึ่งจะทำอะไรเพื่อตระกูลฉินได้กัน?
น้ำเสียงของเหมิงเอ้าเต็มไปด้วยอาการเยาะเย้ย ทำให้ฉินซูโหรวไม่พอใจอย่างมาก “เจ้า...ตระกูลฉินของพวกข้าไม่ต้องการให้เขยโอหังอย่างมันมาปกป้อง!”
“ไม่ต้องการ!”
“พวกเจ้าสองคนไสหัวไปซะ!”
สุดท้ายฉินซูโหรวก็เข้าใจแล้วว่าที่เซียวจิงพูดว่าเสียใจคืออะไร
หากว่าเหมิงเอ้ากับเซียวจิงไม่ทำลายจุดตันเถียนของนาง เช่นนั้นฉินเซิงจะทำเอง
ยังจะมีอะไรที่น่าสิ้นหวังยิ่งไปกว่านี้อีกหรือ?
บิดาที่ตนรักเป็นที่สุดจะเป็นผู้ทำลายตัวนางด้วยตนเอง
“ท่านพ่อ! ท่านจะทำเช่นนี้ไม่ได้!” ฉินซูโหรวส่ายหน้า นางร้องไห้ “ข้าแต่งให้เซียวเฉวียน ก็มิใช่ด้วยความยินยอมของข้า! ข้ากับเขามีสัญญาเลือดกัน ก็มิใช่ด้วยความยินยอมของข้า!”
“เพราะอะไร! เพราะอะไรถึงทำกับข้าเช่นนี้!”
“มิใช่ว่าท่านไปทำลายจุดตันเถียนของเซียวเฉวียนก็พอหรอกหรือ! เป็นแบบนั้นก็ปลดสัญญาเลือดได้แล้วมิใช่หรือ!”
ฉินซูโหรวสิ้นหวังเป็นที่สุด “ท่านพ่อ ขอร้องท่าน ปล่อยข้าไปเถอะ”
“ปล่อยลูกสาวไปเถอะ!”
ฉินเซิงหลับตา เขาหยิบเอากระบี่ประจำกายขึ้นมา แม้จะปวดใจ แต่สายตาของฉินเซิงกลับยิ่งเด็ดเดี่ยวกว่าเดิม “ตระกูลฉินต้องการเซียวเฉวียน ข้ากับเขาทำข้อตกลงกันแล้ว นี่คือค่าตอบแทนที่น้อยที่สุดแล้ว”
ค่าตอบแทที่น้อยที่สุดอย่างนั้นหรือ?
ฉินซูโหรวมองไปยังฉินเซิง สิ่งเดียวในชีวิตมนุษย์ของตัวนาง นับว่าเป็นค่าตอบแทนที่น้อยที่สุดแล้วอย่างนั้นหรือ?
“ท่านพ่อ! ไม่เอา! ไม่เอานะ!”
ฉินซูโหรวส่ายหน้า ฉินเซิงใช้สายตาเวทนาในโชคชะตาและคับแค้นที่นางไม่ได้ดังใจมองบุตรสาวตนเอง น้ำเสียงนั้นเจือสะอื้น “หากว่าเจ้าไม่หย่ากับเซียวเฉวียน ต่อให้เซียวเฉวียนบรรลุระดับกวีสมุทรคุนหลุน ขอเพียงสามีภรรยาใจเดียวกัน สัญญาเลือดนี้จะไม่กระทบพวกเจ้าเลยสักนิด!”
“แต่เจ้า!” ฉินเซิงกัดฟัน “คราแรกไม่เชื่อฟัง! จำเป็นจะต้องหาเรื่อง จะต้องหย่ากับเซียวเฉวียนให้ได้!”
ฉินซูโหรวส่ายหน้า นางรู้สึกอยุติธรรมเป็นที่สุด “ท่านพ่อ...ข้า...”
“เซียวเฉวียนมีอะไรไม่ดีกัน เจ้ากับแม่ของเจ้าถึงได้ยอมรับเขาไม่ได้สักที!”
“บาปกรรม! บาปกรรม!” ฉินเซิงส่ายหน้า “ทุกสิ่งนี้ ล้วนเป็นตระกูลฉินหาเรื่องเอง!”
ฉินเซิงยกกระบี่ขึ้นพลางหลับตา “โหรวเอ๋อร์! อย่าได้โทษบิดา!”
ในจวนคุมประพฤติ ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของฉินซูโหรวดังขึ้น
เหมิงเอ้ากับเซียวจิงที่เอาแต่กังวลว่าฉินเซิงจะไม่กล้าลงมือนั้นสบตากัน เยี่ยม สำเร็จแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...