ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 562

ตำหนักฉางหมิง หน้าตำหนัก บันไดจำนวนสามร้อยยี่สิบแปดขั้น

เว่ยเชียนชิวมาแล้ว

ครั้นเขาปรากฏตัว เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊นับร้อยต่างสูดลมหายใจเหน็บหนาวพลางมองเว่ยเชียนชิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็มองเซียวเฉวียนด้วยอารามยากจะเชื่อ นี่เว่ยเชียนชิวมาแล้วจริงๆ หรือ?

ฮ่องเต้สายตาเป็นประกาย เขาเอ่ยด้วยความยินดีเป็นที่สุด “เด็กๆ คุมตัวเหลียงไหวโหรวมา แล้วรีบให้หยดเลือดพิสูจน์เสีย”

จ้าวอีโต้วตัวสั่นทั้งร่าง สวรรค์เถอะ เว่ยเจี้ยนกั๋วตอบรับคำเชิญของเซียวเฉวียนอย่างนั้นหรือ?

ในจังหวะที่ทุกคนกำลังตื่นตะลึงกับการมาถึงของเว่ยเชียนชิว เซียวเฉวียนกลับไม่อยู่ในสภาวะนั้น

ตอนที่ฉินเซิงทำลายจุดตันเถียนของฉินซูโหรวนั้น มีพลังปรารขุมหนึ่งพุ่งกวาดเข้ากระแทกภายในจุดตันเถียนของเซียวเฉวียน กระแทกจนทำให้ทรวงอกของเซียวเฉวียนต้องสกัดกลั้นลมปราณ พูดกันตามตรง เขาใกล้จะอ้วกแล้ว

แต่ว่านี่คือวังหลวง หากว่าเขาอ้วกใส่ลงพื้น เช่นนั้นมิใช่ว่าเสียมารยาทหน้าตำหนักหรอกหรือ?

ความรู้สึกน่ารังเกียจที่มาโดยกะทันหันนี้ ล้วนเป็นเพราะกำลังสลัดจากสัญญาเลือดอยู่ ในเวลานี้ยามนี้ ความรู้สึกของเซียวเฉวียนกับฉินซูโหรวนั้นผูกเชื่อมเข้าด้วยกัน

และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนมาผูกอยู่ด้วยกัน

แต่ว่าเซียวเฉวียนไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากสัญญาเลือด ตอนนี้เขาใกล้จะอ้วกแล้ว

เว่ยเชียนชิวเดินเข้ามาอย่างเปี่ยมด้วยบารมี พร้อมด้วยท่วงท่ามั่นใจเต็มเปี่ยม แต่ละคนตรงนั้นล้วนประสานมือคารวะ ไม่กล้ากระทำสิ่งใดผิดเลยแม้สักนิด

มีเพียงเซียวเฉวียนที่ใกล้จะอ้วกแล้ว และไม่อยู่ในอาการนั้น

คนเหล่านั้นจะคารวะเว่ยเชียนชิวอย่างเคารพบูชามากเพียงใด หรือว่าจะประจบอย่างไร หรือว่าจะชื่นชมเว่ยเชียนชิวอย่างไร มีเพียงแค่เสียงหึ่งๆๆ อยู่ในหูของเซียวเฉวียนเท่านั้น

กระทั่งภาพเบื้องหน้าของเขายังพร่าเลือนขึ้นมาทั้งสิ้น

เว่ยเชียนชิวที่เปี่ยมไปด้วยบารมี ในสายตาของเซียวเฉวียนนั้นก็คล้ายกับมันฝรั่งชิ้นโตที่เดินได้ก็เท่านั้น

แถมยังเป็นมันฝรั่งที่มีแต่ขนยังไม่ได้ถอนเต็มลูกอีกด้วย

“เหอๆ...” เซียวเฉวียนรู้สึกขยะแขยงจนเริ่มเห็นภาพหลอน เขาพลันหัวเราะโง่งมสองเสียงดังเหอๆ

สวีซูผิงพลันขมวดคิ้วทันที เมื่อครู่เซียวเฉวียนยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดตอนนี้คล้ายจะไม่ปรกติขึ้นมากัน?

พระเจ้า!

อย่าเชียวนะ!

เซียวเฉวียนกำลังจะปะทะกับปีศาจบ้าอันดับหนึ่งของต้าเว่ยเลยนะ! แล้วเซียวเฉวียนจะไม่ปรกติเวลาไหนก็ช่างเถอะ แต่ดันทำตัวผิดปรกติใตอนนี้เนี่ยนะ?

สวีซูผิงกระทืบเท้า นี่มันเรื่องด่วนแทบตายแล้ว!

คารวะสิ!

รีบคารวะเขาเร็วเข้า!

ภายในใจของสวีซูผิงกำลังทอดถอนใจ แต่ว่าเซียวเฉวียนกลับยืนอย่างโง่งมอยู่ตรงที่เดิม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มโง่ๆ เว่ยเชียนชิวเดินมาถึงเบื้องหน้าเขาแล้ว แต่เขากลับไม่มีท่าทีใดๆ แม้เพียงนิด

จะพูดว่าเซียวเฉวียนกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้ว เช่นนี้ก็ไม่มากเกินไปหรอก

“ติ๋ง....”

มุมปากของเซียวเฉวียนนั้นดันมีน้ำลายไหลออกมาสายหนึ่งท่ามกลางสถานการณ์สุดแสนจะตึงเครียดอย่างไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ฉินซูโหรวในจวนคุมประพฤติเจ็บปวดอย่างมาก สติของนางกับร่างกายเข้าสู่สภาวะสับสน ทำเอาเซียวเฉวียนเข้าสู่สภาวะล่องลอยไปด้วย

เขารู้ว่าด้านหน้าตนเป็นมันฝรั่งลูกหนึ่ง นามว่าเว่ยเชียนชิว

เซียวเฉวียนคิดจะทำการคารวะ แต่เขาขยับไม่ได้ มุมปากเพียงแค่ขยับเล็กน้อย ทว่าคุมไม่ได้จนกระทั่งมีน้ำลายไหลลงมา

อี๋ น่ารังเกียจนัก

เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ชมวดคิ้ว รังเกียจอย่างสุดแสน

ครั้งที่แล้วเซียวเฉวียนเกิดป่วยขึ้นมาในตำหนักฉางหมิงก่อเกิดศึกใหญ่หลวง ก็เป็นหมอหลวงที่ขี่ม้ารุดเข้ามารักษาอาการให้เขา แถมยังให้เย่าเหล่าเข้าวังด้วยตนเอง และเพราเหตุนี้ยังถือครองตำหนักฉางหมิงเพียงคนเดียว เป็นเหตุให้ไทเฮาเสด็จมา

สรุปก็คือ ทำเอาวันนั้นเป็นวันที่สายฟ้าฟาดถล่มแผ่นดินทลาย

เดิมทีเหล่าขุนนางทั้งหลายล้วนไม่เข้าใจ เซียวเฉวียนเป็นคนรุ่นหนุ่มคนหนึ่ง เหตุใดพอจะป่วยก็ป่วยขึ้นมา

ตอนนี้ดูไปแล้ว ร่างกายของเซียวเฉวียนนั้นไม่ปรกติจริงๆ

เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊อดที่จะฉีกยิ้มขึ้นมาอย่างเงียบงันไม่ได้ ยังคิดเสียว่าเซียวเฉวียนที่มีคุณูปการทางการศึกจะองอาจกล้าหาญแค่ไหน สุดยอดแค่ไหน ที่แท้เขาก็เป็นไอ้ขี้โรคคนหนึ่ง

มิน่าละ ก่นหน้านี้จวิ้นจู่ยังต้องการแยกทางกับเซียวเฉวียน ดูไปแล้วการแยกทางกับเขานั้นถูกต้อง ในฐานะชายหนุ่มคนหนึ่งดูท่าเซียวเฉวียนจะไม่ได้เรื่องเลย

“ฝ่าบาท เรื่องนี้...”

ขันทีหม่าตกใจจนรู้สึกว่าเซียวเฉวียนไม่ปรกติ ฮ่องเต้ขมวดคิ้วแน่น เคราะห์ดี ต่อให้เซียวเฉวียนไม่อยู่ หยดเลือดพิสูจน์ความเป็นญาตินี้ก็ยังสามารถทำต่อได้

“เด็กๆ พาใต้เท้าเซียวไปพักผ่อนที่ข้างตำหนักเสีย”

ฮ่องเต้ทรงโบกพระหัตย์ จากนั้นขันทีสองคนก็มาหามตัวเซียวเฉวียนออกไป

และนี่ก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เซียวเฉวียนต้องการ

ตัวเขาเซียวเฉวียน เป็นถึงเจ้าสำนักชิงหยวนผู้ยิ่งใหญ่ เป็นถึงชายหนุ่มรุ่นกระทงผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรี ตอนนี้กลับน้ำลายไหลในตำหนักฉางหมิงคล้ายไอ้โง่คนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?

แถมยังถูกลากตัวออกไปด้วย?

แน่นอนว่า หากเซียวเฉวียนได้สติเต็มตา เขาจะต้องคิดเช่นนี้แน่นอน

ทว่าตอนนี้สติของเขากลับเหมือนฉินซูโหรวก็ไม่ปาน ตกลงไปในความวุ่นวายสับสนและพร่าเลือน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย