ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 563

เซียวเฉวียนดันทะเล่อทะล่าเข้ามาแบบไม่มีสัญญาณล่วงหน้า!

เว่ยเชียนชิวลงมือไร้เยื่อใย เขาง้างมือฟาดไปที่ตัวเซียวเฉวียน!

“อ๊า!”

เว่ยอวี๋ตกใจจนต้องหลับตา

จบสิ้น จบสิ้นกันแล้ว

วันนี้เขาต้องเก็บศพให้เซียวเฉวียนแล้ว

คิดไม่ถึงว่าในครั้งนี้ที่เหล่าเซียวทะลุมิติมา ดันต้องมีจุดจบอย่างขลาดเขลาเช่นนี้

เว่ยอวี๋กุมใบหน้าพลางถอนหายใจครวญคราง ถ้าเหล่าเซียวไม่อยู่แล้ว การอยู่ต้าเว่ยของเขาก็ไม่น่าสนใจแล้ว!

หืม?

เหตุใดจึงไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องเวทนาของเหล่าเซียวล่ะ?

เว่ยอวี๋ลืมตาขึ้นมา เพียงเห็นใบหน้าของเซียวเฉวียน ใบหน้านั้นอยู่ห่างจากมือของเว่ยเชียนชิวเพียงห้าเมตรเท่านั้น

เว่ยเชียนชิวหยุดมือเอาไว้ได้ทัน

เซียวเฉวียนนั้นปากส่งเสียงร้องไม่หยุด แถมยังบ่นพึมพำแบบไม่พอใจ “บ้าไปแล้วหรือ? บ้าไปแล้วหรือ?”

ฮ่องเต้ที่เมื่อครู่หัวใจแทนจะโลดขึ้นถึงลำคอค่อยๆ ผ่อนลมหายใจยาวออกมา

และจนสุดท้ายเว่ยเชียนชิวก็ไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด ยิ่งเซียวเฉวียนยิ่งไม่ได้มอบยาอายุวัฒนะให้แก่เขา

เขามองประเมินสำรวจเซียวเฉวียนอย่างเย็นชา การกระทำโง่งมนี้ไม่คล้ายจะเสแสร้งออกมา

“ลากตัวไป!” เว่ยเชียนชิวเอ่ยเสียงเย็นชา “ตัวข้าเจี้ยนกั๋วในวันนี้ไม่อยากเห็นเจ้าโง่นี่!”

เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ทั้งหลายปิดปากพลางแอบหัวเราะ ไอ้หยา เดิมทียังรู้สึกว่าเซียวเฉวียนมีความสามารถเล็กน้อย ผลสุดท้ายยังไม่ทันทำอะไรก็ป่วยแล้ว ร่างกายเช่นนี้จะสามารถกระทำเรื่องใหญ่ได้หรือไร?

ไม่มีใครรู้ เซียวเฉวียนตอนนี้กำลังลอกคราบ เขากำลังสลัดออกจากผนึกกักกันขนาดใหญ่อย่างสัญญาเลือดนี้

กระทั่งตัวฮ่องเต้ยังทรงไม่สัมผัสถึงว่าในยามนี้เซียวเฉวียนกำลังปลดสัญญาเลือดอยู่

แล้วยิ่ง...เซียวเฉวียนเหมือนจะเอ๋อมากไปหน่อยแล้วจริง

หากว่าทุกคนรู้ แล้วยิ่งเว่ยเชียนชิวรู้ว่า เซียวเฉวียนคนโง่งมไร้สติผู้นี้กำลังสลัดผนึกทิ้งละก็ เกรงว่าพวกเขาจะไม่หัวเราะออกมาเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาจะกรีดร้องตกใจ

และพวกเขาจะหวาดกลัว

พวกเขาจะสั่นเทา

และพวกเขาจะเสียใจที่ในยามนี้เอาแต่หัวเราะเซียวเฉวียน แต่กลับไม่ได้สังหารเขา

ในเวลานี้ยามนี้ไม่สังหารเซียวเฉวียน เช่นนั้นนับแต่นี้ไปก็จะไม่มีโอกาสแล้ว

อีกทั้งในเวลานี้ ทุกคนล้วนกำลังหัวเราะเยาะ อา นี่คือเจ้าโง่ และนี่คือเจ้าคนอมโรคผู้หนึ่ง

พวกเขาล้วนละเลยต่อเซียวเฉวียนโดยสิ้นเชิง ความสนใจของพวกเขาต่างอยู่บนตัวเว่ยเชียนชิวกับเหลียงไหวโหรว

ตอนที่เซียวเฉวียนถูกลากออกไปยังตำหนักข้างนั้น เว่ยอวี๋ไม่มีอารมณ์สนใจเกมในราชสำนักแล้ว เขาพลันรีบเร่งฝีเท้าตามไป

นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เซียวเฉวียนป่วยขึ้นมากลางตำหนักฉางหมิง สัมผัสได้ถึงการสะท้อนกลับของผนึกจูเสิน เซียวเฉวียนก็ได้รับประทานอนุญาตจากฮ่องเต้ ให้สามารถพาเย่าเหล่าเข้าวังได้

ในตำหนักข้างนั้น เย่าเหล่ากำลังสนใจศึกษาตำราแพทย์ จากนั้นก็ได้เห็นนายท่านของตัวเองถูกคนหามเข้ามาประหนึ่งหามสุกร

“ใต้เท้าเซียวเป็นอะไรไป”

“เพราะเหตุใดสภาพเป็นเช่นนี้กัน”

เย่าเหล่ารีบเข้าไปดู ส่วนขันทีสองคนกับเหล่าองครักษ์ก็ได้แต่กลอกตาใส่เซียวเฉวียน พวกเขาไม่ตอบคำถามเย่าเหล่าสักนิดพลางสะบัดชายเสื้อจากไป

ยังคงเป็นเว่ยอวี๋ที่รีบเข้ามา จากนั้นก็เล่าสถานการณ์ของเซียวเฉวียนในราชสำนักเมื่อครู่ให้เขาฟัง

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”

เย่าเหล่ารีบจับชีพจรให้เซียวเฉวียน จิ๊ เส้นชีพจรก็ปลอดโปร่งดีเป็นที่ยิ่ง ไม่ได้มีปัญหาสักหน่อย

เย่าเหล่าตั้งอกตั้งใจดู พลางรู้สึกอับจนหนทาง “ไม่ได้การ ไม่รู้เลยว่าป่วยอะไร ตรงศีรษะเองก็ไม่มีอาการบาดเจ็บ น่าจะไม่ได้เกิดจากการชน”

“ฮ่าๆ” เว่ยอวี๋โบกมือ “ไม่เป็นปัญหา ไม่เป็นปัญหา ไม่แน่ว่าอาจจะหายในเร็ววันแล้ว เย่าเหล่าเป็นแบบนี้ก็สนุกดียิ่ง น่าสนใจกว่าเวลาปรกติมาก”

กล่าวจบแล้ว เว่ยอวี๋ก็รีบไปเล่นกับเซียวเฉวียนก่อนจะบีบใบหน้าของเขา พลางเคาะๆ เส้นผมของเขา จากนั้นก็เอาน้ำหมึกวาดลงบนใบหน้าของเขาดู

เซียวเฉวียนกลับไม่โต้ตอบเลยสักนิด ยังคงยิ้มอย่างโง่งมอยู่ เว่ยอวี๋จึงยิ่งเล่นแรงขึ้นไปอีก

นางกำนัลสองคนที่คอยรับใช้นั้นเห็นสภาพการณ์แล้วก็รังเกียจเป็นที่สุด ภายในใจรู้สึกเห็นใจองค์หญิงต้าถงเป็นอย่างมาก

องค์หญิงที่สูงศักดิ์เลอค่ารายหนึ่ง ถึงกับได้สามีเช่นนี้ เฮ้อ ช่างโชคร้ายยิ่งนัก

ข่าวที่เซียวเฉวียนเอ๋อไปแล้ว คล้ายกับเงาเมฆครึ้มที่เข้าบดบังทั้งนครหลวง

จวนเซียว

มีคนสองคนกำลังยืนประหวั่นพรั่นพรึงกันอยู่หน้าประตูจวนเซียว

คนหนึ่งคือเกามามาที่แต่งตัวสวยสดงดงาม

อีกรายคือจ้าวซิ่น

เกามามาซื้อเซียวจิงเอาไว้ ส่วนจ้าวซิ่นมุ่งหมายหมิ่นเกียรติของเซียวจิงในเวลานั้นที่ไป๋ฉี่มาช่วยเซียวจิงเอาไว้ ก็ได้สั่งให้สองคนนี้มาขอขมาที่จวนเซียวด้วย

ดังนั้น ทั้งสองคนจึงมาที่นี่

เหลียงไหวโหรวถูกจับไปแล้ว เกามามาไม่กล้าไม่โผล่มา

ส่วนที่จ้าวซิ่นมานั้น ทั้งหมดก็เพราะจ้าวหลานพี่ชายใหญ่ของเขาสั่งให้มา

จ้าวหลานเอ่ยว่า จ้าวซิ่นจะเสียประโยชน์มากกว่า ไม่อาจจะให้เซียวเฉวียนกุมจุดอ่อนนี้ไว้ได้ การก้มหัวให้ชั่วคราวนี้ไม่นับว่าเป็นอะไร

ดังนั้นแล้ว จ้าวซิ่นจึงมาที่นี่อย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ เพียงแต่ว่าเขามาถึงประตูจวนเซียวเนิ่นนานแล้วแต่กลับไม่มีคนมาเปิดประตู

จ้าวซิ่น คุณชายสูงศักดิ์ที่ยโสสูงส่งรายนี้รอจนกระทั่งสิ้นความอดทนเล็กน้อยแล้ว เพิ่งจะยืนไปครู่เดียวเท่านั้น ขาของเขาก็ชาไปหมด

“คุณชายรอง! คุณชายรอง!”

ในเวลานี้ เด็กรับใช้รายหนึ่งของตระกูลจ้าวเดินเข้ามาอย่างตื่นเต้นยินดี “พวกเรากลับบ้านได้แล้ว! ไปกันเถอะ! ไม่ต้องรอแล้ว!”

“ข้ายังไม่ทันได้พบเซียวเฉวียนเลย จะกลับไปทำไม รออีกสักครู่พี่ชายใหญ่ก็จะว่าข้าอีก!”

จ้าวซิ่นแค่เสียงเย็น เขายืนเอ้อระเหยอยู่ตรงนั้น

“ไม่ต้องเจอหน้าเขาแล้วขอรับ!” เด็กรับใช้เอ่ยอย่างยินดี “เซียวเฉวียนเอ๋อไปแล้ว! จำคนได้ไม่ถนัด! พวกเรายังต้องขอโทษอะไรอีก!”

“จวนเซียวกำลังตกต่ำแล้ว!”

ฟังวาจาของเด็กรับใช้แล้ว เขาเบิกบานใจจนแทบจะติดปีกบินขึ้นฟ้าไป

จ้าวซิ่นยินดีนัก “ที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงหรือ?”

“จริงขอรับ!” เด็กรับใช้พยักหน้าต่อๆ กัน “หมอหลวงในวังต่างประกาศแล้วขอรับ! ตอนนี้สติปัญญาของเซียวเฉวียนเหมือนเด็กสามขวบก็ไม่ปาน! เขาไม่ไหวแล้วขอรับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย