ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 565

ไป่ฉียังคงจำเหตุการณ์นี้ได้ในอีกหลายปีต่อมา

เวลานี้ พระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงสีเหลืองบางๆ ปกคลุมที่ผนังพระราชวัง

หลังจากข้าราชสำนักทั้งหมดออกไปแล้ว ไป่ฉีก็ยังอยู่รออีกนานๆ จนประตูพระราชวังใกล้จะปิด เซียวเฉวียนก็ออกมาในที่สุด

เจ้านายกลับมาแล้ว

แต่......

ไป่ฉีแทบจะจำไม่ได้เลย

ปกติดวงตาของเซียวเฉวียนเป็นประกายและแน่วแน่ แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนยิ้มอย่างโง่เขลา ดวงตาของเขาเหม่อมองไปทางซ้ายทีขวาที กระโดดขึ้นลงเหมือนเป็นเด็กคนหนึ่ง

เขาจูงมือของเว่ยอวี๋และถือพวงลูกอมผลไม้อยู่ในมือของเขา แทะกินอย่างเอร็จอร่อย

ท่าทางนี้เกือบจะเหมือนกับเว่ยเป่าวัยสี่ห้าขวบ

"ฮ่า ๆ ! ไป่ฉี! เจ้ายังรออยู่เหรอ!"

ทุกคนที่ห่วงใยเซียวเฉวียนรู้สึกใจสลายที่เห็นเซียวเฉวียนในสภาพนี้ แต่เว่ยอวี๋เป็นคนเดียวที่มีความสุขมาก!

ต้องดีใจสิถึงจะถูก!

ปกติแล้วเซียวเฉวียนจะแข็งแกร่งมาก เว่ยอวี๋ทำได้แต่เป็นตัวติดตาม แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนเรียกเว่ยอวี๋ว่าพี่ใหญ่ เรียกจนเว่ยอวี๋ไม่เพียงแต่มีความสุข ยังรู้สึกตัวลอยๆ เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก

ให้เซียวเฉวียนมาเรียกเป็นพี่ใหญ่ได้ สมควรที่จะดีใจ!

”พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ดูสิ อารักขาของข้า” แม้ว่าเซียวเฉวียนจะโง่ แต่เขาก็ยังจำผู้คนได้

”เออ ๆ ๆ ข้ารู้แล้ว ทำตัวดีๆ นะ”

เว่ยอวี๋ได้คืบจะเอาศอก ถือโอกาสลูบหัวของเซียวเฉวียน เว่ยอวี๋ลูบอย่างมีความสุข ช่างเหลือเชื่อ เขายังลูบหัวของเซียวเฉวียนได้ด้วย

ไป่ฉีเหลือบมองเย่าเหล่าที่ตามหลังเขามาด้วยความสับสน เย่าเหล่าส่ายหัวทันทีด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

"เรากลับกันก่อนเถอะ"

ไป่ฉีรับมือของเซียวเฉวียนจากมือของเว่ยอวี๋และต้องการพยุงเซียวเฉวียนขึ้นรถม้า แต่เซียวเฉวียนไม่เอาด้วย "ข้าอยากเดิน!"

ถ้าเดิน ก็จะมีคนเห็นเยอะ มันไม่ดี

เว่ยอวี๋รีบมาเกลี้ยกล่อม “นั่งรถม้าเร็วกว่า เราจะไม่เดิน”

”ไม่! ข้าอยากจะเดิน!”

ไม่ทันที่ไป่ฉีและพวกจะตั้งตัว เซียวเฉวียนก็วิ่งหลุดไปแล้ว!

"เจ้านาย!"

"เจ้านาย!"

เย่าเหล่าและไป่ฉีทำอะไรได้บ้าง พวกเขาทำได้แต่วิ่งตาม!

ไม่วิ่งก็ไม่เป็นไร พอวิ่งออกไปปุ๊บ ทีนี้ชาวบ้านทั่วเมืองหลวงก็รู้ว่าเซียวเฉวียนเป็นเหมือนคนโง่ปัญญาอ่อน วิ่งไปทั่วในตลาด น้ำลายไหลย้อย คว้าซาลาเปาร้อนๆ ของคนอื่นแล้วยัดใส่ปากตัวเอง ไม่กลัวว่ามันจะไหม้ปากเอา

ด้วยเหตุนี้ ข่าวเกี่ยวกับความบ้าๆ บอๆ ของเซียวเฉวียนจึงไม่จำเป็นต้องถูกส่งผ่านโดยสายลับ แต่เซียวเฉวียนประกาศให้รู้แล้วเป็นการส่วนตัว

ที่จวนเซียว

ครอบครัวใหญ่กำลังนั่งวงล้อมรอบตัวเซียวเฉวียน

สมาชิกครอบครัวเซียวและบรรดาผู้อารักขาจ้องมองอย่างตาค้างไปที่เซียวเฉวียนที่กำลังเคี้ยวขาหมู ไม่รู้จะร้องไห้ดีหรือหัวเราะดี

ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเซียวรู้ดีว่าผู้คนข้างนอกเริ่มดูถูกตระกูลเซียวแล้ว แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังผิดหวังในตัวเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก

องค์จักรพรรดิอนุญาตให้เซียวเฉวียนลาป่วยเป็นเวลาหนึ่งเดือนเป็นพิเศษ ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ เซียวเฉวียนไม่จำเป็นต้องไปขึ้นราชสำนัก

นี่เป็นความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์จักรพรรดิที่มีต่อเซียวเฉวียน

ถึงอย่างไร เซียวเฉวียนเคยให้คำสาบานว่าเขาจะทำหน้าที่เอี๋ยนกวนเป็นเวลา 1 เดือน หากมีข้อบิดพลิ้วในระหว่างหนึ่งเดือนนี้เขาจะขอสละตำแหน่งในชิงหยวน

เซียวเฉวียนไม่จำเป็นต้องขึ้นราชสำนักในเดือนนี้ เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำผิด ตำแหน่งเจ้าของในชิงหยวนจึงรักษาไว้ได้อย่างแน่นอน

เซียวเฉวียนเป็นเหมือนเด็กคนหนึ่ง กินจนน้ำมันเลอะเต็มหน้า กินไปยิ้มไปอย่างคนปัญญาอ่อน ยังทำหน้าอิ่มอกอิ่มใจ

เจ้านายไม่อยู่ที่นี่แล้ว

ขอบตาไป่ฉีแดงก่ำ

ไป่ฉีเป็นคนแรกที่เชื่อมวิญญาณกับเซียวเฉวียน จะมีความคิดและรู้สึกแบบเดียวกับที่เซียวเฉวียนคิดและรู้สึก

วันนี้ความเร็วของเจ้านายเร็วขึ้นมาก แม้แต่คนที่วิ่งไวอย่างไป่ฉีและเหมิงเอ้ายังตามไม่ทันเหรอ?

ไป่ฉีและเหมิงเอ้ามองหน้ากัน พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

หากจะใช้ศัพท์พรรณนาที่เซียวเฉวียนสอนพวกเขา เซียวเฉวียนในปัจจุบันก็เหมือนกับหนุ่มลมกรด เป็นลมชนิดที่พวกเขาไล่ยังไงก็ไล่ไม่ทัน!

ร่างกายของเซียวเฉวียนเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ

ถึงแม้สติของเขาจะไม่แจ่มแจ้ง แต่กำลังทางกายภาพของเขาเติบโตขึ้นอย่างทวีคูณ

แต่ยกเว้นไป่ฉีและเหมิงเอ้า ไม่มีใครสังเกตเห็นข้อเท็จจริงนี้ ในเมื่อเซียวเฉวียนส่งเสียงเอะอะเกินไปและรุกร้นเกินไป เซียวเฉวียนไม่รู้สึกเหนื่อยแม้จะวิ่งสามรอบในจวนเซียวอันใหญ่โตกว้างขวางนี้

เจ้าสิบหกและพวกของเจ้าหนึ่งแค่แป๊บเดียวก็วิ่งตามไม่ทัน มีเพียงไป่ฉีและเหมิงเอ้าที่ยังพอกวดตามทันได้

สุดท้ายแม้แต่เหมิงเอ้าก็ตามไม่ทัน เขาชะงักอยู่ข้างถนนหายใจดังเสียงฮืดๆ เป็นบ้าอะไรเนี่ย เหมิงเอ้ากระทืบพื้น เดิมทีเขามีเพียงกำลังกายที่จะเอาชนะเจ้านายได้ แต่ตอนนี้ เขาไม่แม้แต่จะเทียบความแข็งแกร่งทางกายของเจ้านายได้เลย !

เหมิงเอ้า แฟนคลับตัวยงได้กลายเป็นแฟนคลับตัวแย่ของเซียวเฉวียนไปเสียแล้ว

แม้ว่าเซียวเฉวียนจะกลายเป็นคนโง่ไป แต่เหมิงเอ้าก็ยังวิ่งตามคนโง่ไม่ทันนี่นา!

โชคดีที่เซียวเฉวียนได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว เขาได้มอบบ่อนการพนันและร้านอาหารให้กับอี้กุยและโย่วควนล่วงหน้า ขณะที่เว่ยอวี๋ก็นั่งประจำอยู่ในชิงหยวน ครั้งนี้เซียวเฉวียนป่วยกะทันหัน ทุกอย่างไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

เซียวเฉวียนหมดอารมณ์โมโหร้าย เว่ยอวี๋มีความสุขมาก แต่อี้กุยและโย่วควนกังวลแทบตาย

พวกเขาทั้งสองรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มุ่งเป้ามายังตระกูลเซียว

บ่อนการพนันจวี้เป่าฟางยังพอว่า ยังไงภายนอกมันก็ยังดูเป็นของอี้กุยและไม่มีใครกล้าแตะต้องมัน

แต่ร้านอาหารไม่เหมือนกัน ลูกค้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในทุกวัน

แม้ว่าหอปี้เซิ่งจะมีเหล้าฉยงซูที่หอมกรุ่น ตีนไก่รสเผ็ดชวนน้ำลายหก บะหมี่ผักดองที่อร่อยและเย้ายวน และมีโย่วควนร้องเพลงนิยายไซอิ๋วที่เซียวเฉวียนเรียบเรียงไว้ให้สำหรับทุกคน แต่ลูกค้าก็ยังลดน้อยลง

น้อยลงไปเรื่อยๆ

มีคนกำลังใช้วิธีที่มองไม่เห็น เพื่อรุกฆาตกิจการของเซียวเฉวียนทีละเล็กทีละน้อย

วิธีการนี้เร้นลับและเฉียบไว แตกต่างจากเมื่อก่อน

จะถือโอกาสที่เซียวเฉวียนป่วย ปลิดชีพเซียวเฉวียนให้ได้จริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย