ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 578

สรุปบท บทที่ 578 ปราบจ้าวหลานสำเร็จ: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 578 ปราบจ้าวหลานสำเร็จ – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 578 ปราบจ้าวหลานสำเร็จ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

จดหมายของเฉาสิงจือเขียนไว้ว่า

“ถึงหลานชาย หลานเอ๋อ

ได้ยินมาว่าเจ้าและท่านเซียวแห่งจวนเซียวตกอยู่ในสภาวะดั่งน้ำกับไฟ ข้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับข่าวนี้ จึงมิอาจไปพบ

เจ้าฉลาดหลักแหลมมาตั้งแต่เด็ก และเป็นหนึ่งในคนเก่งที่สุด เจ้าร่ำเรียนมาอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ไม่เคยละความพยายามเมื่อยังเป็นเด็ก ต่อมาเจ้าสอบได้ทีเดียวเป็นจ้วงหยวนในเมืองหลวง เทิดเกียรติแก่วงตระกูล นับเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลจ้าวและข้าพเจ้า

ตระกูลจ้าวมีลูกชายเช่นนี้ ถือเป็นพรจากเทพเจ้า เป็นพรแก่ต้าเว่ย และเป็นพรแก่ประชาราษฎร์ทั้งปวง "

เมื่อได้อ่านถึงตรงนี้ ข้อความยกยอสรรเสริญเช่นนี้ทำให้จ้าวหลานที่โกรธเคืองหงุดหงิดนั้น อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แถมรู้สึกภาคภูมิใจนิดๆ

ไม่คิดว่า ในประโยคถัดไป เนื้อหาเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง น้ำเสียงของเฉาสิงจือกลายเป็นรุนแรงและผิดหวัง

”แต่ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่า หลานเข้ารับราชการในสำนักมาตั้งหลายปี กลับมาทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในวันนี้

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งคือไม่แยกแยะสถานการณ์

ข้อผิดพลาดประการที่สอง คือไม่ยอมรับผู้มีพระคุณ

ข้อผิดพลาดประการที่สามคือ ประพฤติเลวทราม ! "

เครื่องหมายอัศเจรีย์หรือตกใจของเฉาสิงจือทำให้จ้าวหลานประสาทสะท้าน

อะไร? เฉาสิงจือผู้ซึ่งชื่นชมเขามาโดยตลอด กลับมาตำหนิเขาอย่างรุนแรงขนาดนี้เหรอ?

หรือว่าเขาทำอะไรผิดจริงๆ?

เขารีบอ่านต่อไปติดๆ

เฉาสิงจือระบุชัดเจนในจดหมายว่าการตายของจ้าวจินไหล ไม่เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียน

จ้าวจินไหลได้ล่วงเกินฝ่าบาท ก้าวล้ำบารมีเบื้องสูง หากไม่ปลิดชีพด้วยตัวเอง ฝ่าบาทก็จะทรงลงมือเอง

แต่ถ้ารอจนกว่าฝ่าบาททรงลงด้วยพระองค์เอง ที่จบลงก็จะไม่ใช่แค่จ้าวจินไหลคนเดียว

เซียวเฉวียนตักเตือนจ้าวจินไหล ไม่เพียงแต่เขาไม่ผิด แต่ยังกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ได้กอบกู้ตระกูล จ้าวอีกด้วย

ไม่เช่นนั้น ด้วยนิสัยเอาแต่ใจตนเองของจ้าวจินไหลในฐานะองคมนตรีอาวุโส เขาอาจยังไม่รู้ด้วยว่าเขาผิดตรงไหน

ดังนั้น เฉาสิงจือจึงตำหนิจ้าวหลานผู้เป็นคนฉลาด แต่ไม่สามารถมองทะลุเรื่องนี้ได้ ยังไปรังควานเซียวจิงและเซียวเฉวียนอีก

พฤติกรรมนี้ช่างโง่เขลา!

เป็นคนเนรคุณ!

ยังตาบอด!

แน่นอน เฉาสิงจือพูดอย่างค่อนข้างแยบยล "เจ้าคิดผิดอย่างมหันต์!"

มือของจ้าวหลานที่ถือจดหมายนั้นสั่นเทา

ตัวสั่นเทา

ตระกูลจ้าวทำให้ฝ่าบาทขุ่นเคือง...

ฝ่าบาทมีเจตนาประหารชีวิตหรือ?

ไม่แปลกใจที่จ้าวหลานรู้สึกประหลาดใจ องค์จักรพรรดิยังทรงเยาว์วัยและเพิ่งขึ้นครองอำนาจ แต่ถูกเว่ยเชียนชิวกดขี่ไว้ ในสายตาของทุกคน องค์จักรพรรดิเป็นเพียงแกะตัวน้อยที่ยังไม่รู้ประสีประสา

แกะก็ควรเอาใจองคมนตรีอาวุโสและเอาใจกำลังอิทธิพลทุกฝ่าย เพื่อรักษาตำแหน่งของเขาให้มั่นคง จะได้ถ่วงดุลย์อำนาจกับเว่ยเชียนชิว

ในตอนแรกจ้าวจินไหลยกตัวเองไว้สูงเกินไป เขาคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในสามองคมนตรี ดำรงตำแหน่งสูงอำนาจมากหลาย หากองค์จักรพรรดิจะถ่วงดุลย์อำนาจกับเว่ยเชียนชิว ต้องได้รับการสนับสนุนจากเขา

จ้าวจิไหลจึงบังอาจตัดสินแทนพระองค์ ในศึกเมืองไป๋ลู่นั้น กล่อมให้องค์จักรพรรดิไปขอร้องเว่ยเชียนชิว

คนอย่างจ้าวจินไหลนี้ ตัวตายเพราะไปดูหมิ่นองค์ราชา

ราชาจะอายุน้อยเพียงใด จะไร้กำลังบารมีเพียงใด ราชาจะไม่ใช่แค่แกะ แต่เป็นเสือยักษ์ที่ยังไม่เติบโต

เหตุผลที่เซียวเฉวียนเข้าใจแล้ว จ้าวจินไหล ชายโบราณที่มีชีวิตอยู่มานมนานหลายปี เพิ่งจะตรัสรู้ก่อนที่เขาจะตาย

ราชาต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางจะไม่ตายไม่ได้ ขุนนางไม่ตายคือไม่จงรักภักดี

จ้าวจินไหลไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตาย

นั่นคือหนทางแห่งความตายที่ปูไว้สำหรับตัวเขาเองด้วยคำพูดและการกระทำของตัวเอง

ไม่มีอะไรน่าตกใจไปกว่าการรับรู้ในลักษณะนี้อีกแล้ว

แม้ว่าจ้าวหลานจะรู้สึกเกรงกลัวเล็กน้อยต่อองค์จักรพรรดิ แต่ในใจนั้นก็เหมือนกับพ่อเขาเอง ดูหมิ่นราชาที่ถูกบีบบังคับจนมิอาจดิ้นรนอะไรได้

แต่ตอนนี้พ่อของเขาตายไปแล้ว และจ้าวหลานก็ยังไม่รับรู้เจตนาง่ายๆ ของฝ่าบาทอีกด้วยซ้ำ

หากเป็นความผิดของเซียวเฉวียนจริง และเซียวเฉวียนฆ่าจ้าวจินไหลจริง ครอบครัวจ้าวก็ไม่จำต้องมาส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ตรงนี่ องค์จักรพรรดิหวงแหนขุนนางของพระองค์ จะปล่อยให้เซียวเฉวียนรอดตัวไปได้อย่างไร?

จ้าวหลานแค่ใช้ปลายนิ้วเท้าคิดให้จริงจังสักที ก็จะไม่คิดว่าเซียวเฉวียนเป็นผู้ที่ฆ่าพ่อของเขา

ใครก็ตามในตระกูลจ้าว หากมีความเกรงกลัวต่อองค์จักรพรรดิมากพอ จะรู้ว่านี่คือองค์จักรพรรดิกำลังเคาะตีตระกูลจ้าวอยู่

เซียวเฉวียนนอนคว่ำบนพื้นเหมือนกบ เจ็บจนหูตาลายไปหมด

เขาทุบพื้นด้วยความเกลียดชัง นักเขียนหมาๆ ที่ไหนในโลกเนี่ย! เห็นเขาดีหน่อยไม่ได้เลย เห็นเขาเท่หน่อยก็ไม่ได้ มาอิจฉาเขาเนี่ย!

เลยมาทรมานเขา!

มาทำให้เขาขายขี้หน้าถึงจะพอใจ!

ใจร้ายแบบนี้ ต้องเป็นนักเขียนผู้หญิงแน่ๆ!

เซียวเฉวียนกัดฟัน สมกับที่ว่าใจร้ายสุดคือจิตใจของผู้หญิง

"ซิก......"

เซียวเฉวียนเจ็บจนย้อนสูดลมเย็นหนึ่งเฮือก เขาเงยหน้าขึ้น ทุกคนหันหน้ามองมาที่เขา

เขาได้รับเกียรติให้เป็นศูนย์รวมความสนใจ คนส่วนใหญ่อยากจะหัวเราะ แต่ไม่กล้าภายใต้สายตาอันเย็นชาของไป่ฉี

“ท่านเซียว!”

จ้าวหลานย่อเข่าลงและยื่นมือออกไปหาเขา คิดจะช่วยเซียวเฉวียนลุกขึ้น

แต่ไม่คาดคิด เขาถูกไป่ฉีผลักออกไป "อย่าเข้ามาใกล้เจ้านายของข้า!"

”เฮ้ย! เจ้าเป็นผู้อารักขาต่ำต้อย! กล้าดียังไงมาแตะต้องพี่ชายของข้า?”

จ้าวซิ่นร้อนใจมาก แต่จ้าวหลานหันกลับมาทันทีและดุว่าเสียงดัง "จ้าวซิ่น! เจ้าหยาบคายกับผู้อารักขาของท่านเซียวขนาดนี้ ไปนั่งมองกำแพงสำนึกผิดที่ห้องบูชาบรรพบุรุษซะ!"

”พี่ใหญ่? ท่านจะลงโทษข้า เพื่อผู้อารักขาของเซียวเฉวียนหรือ?”

จ้าวซิ่นตกตะลึง แต่จ้าวหลานก็ไม่สนใจเขา "คนมานี่สิ รีบตามหมอ! มาดูอาการท่านเซียวที!"

เซียวเฉวียนลุกขึ้นยืนตัวสั่นเทา ปัดดินโคลนบนร่างกายออก โชคดีกระดูกยังแข็งแรง ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรตอนร่วงลง

ร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ แต่มีข้อสงสัยในหัวของเซียวเฉวียน เขาทนเจ็บปวดไว้ ทำสีหน้าที่เย็นชาอย่างยิ่งและถาม "จ้าวหลาน จ้าวกำลังทำอะไรอยู่?"

“ท่านเซียว ข้าไม่มีอะไร ข้าแค่... ข้าจะขอขมาไม่ได้เหรอ......”

จ้าวหลานก้มศีรษะลงด้วยความรู้สึกผิด

ฮะ? เซียวเฉวียนและไป่ฉีมองหน้ากัน แม่เจ้า จิตใจผู้ชายก็เหมือนเข็มในมหาสมุทร เปลี่ยนสีหน้าไวเหมือนอย่างผู้หญิง"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย