“ขอโทษ?เจ้าขอโทษอะไร?” เซียวเฉวียนจับเอวที่รู้สึกเจ็บเอาไว้ ในใจก็ก่นด่าพึมพำ ต้องโทษที่หน้าของจ้าวหลานเปลี่ยนไวราวกับพายุเข้า มิเช่นนั้นเขาคงไม่ตกจากหลังคาอย่างหล่อเหลาเช่นนี้
เซียวเฉวียนวางแผนที่จะต่อสู้กับจ้าวหลานอย่างเรียบร้อย สุดท้ายเขากลับมาบอกว่าขอโทษงั้นหรือ?
เขาล้มลงมาเจ็บปวดเช่นนี้ จ้าวหลานขอโทษง่าย ๆ เพียงนี้งั้นหรือ?
ไม่ต้องมาพูด!
ข้าจะสู้กับเจ้า!
เซียวเฉวียนโมโหสุดฤทธิ์ นึกไม่ถึงว่าในหมู่คนโบราณยังมีคนที่อ่อนแอยวบยาบและต่อยตีไม่เป็นอย่างจ้าวหลาน!
“นายท่านใจเย็นก่อนขอรับ พวกเราใจเย็นก่อน” ไป๋ฉี่เห็นว่าเซียวเฉวียนโกรธจนไม่ได้สติ จึงดึงและเรียกสติเขาไว้
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่านายท่านเคยพูดไว้ว่า การมาในวันนี้มีเป้าหมายที่สำคัญเพียงอย่างเดียวคือ ให้ตระกูลจ้าวขอโทษคุณหนูรอง
ตอนนี้ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว นายท่านกลับยังไม่พอใจ หากไม่ใช่โกรธจนไม่ได้สติจะเรียกว่าอะไร?
“คือว่า... ใต้เท้าเซียวโปรดอภัย” ท่าทีของจ้าวหลานเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง มีทั้งความน้อยใจและความรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย “เป็นเพราะข้ามีตาหามีแววไม่ ท่านอย่าได้ทะเลาะวิวาทกับคนอย่างข้าเลย วันนี้ข้าจะทำตามความต้องการของท่าน คือการขอโทษคุณหนูรอง และจะต้องคืนความบริสุทธิ์ให้กับคุณหนูรองขอรับ”
เซียวเฉวียนกุมที่เอวและก้นไว้ แอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จ้าวหลานมีท่าทีที่ดีกว่าก่อนหน้านี้ ทำให้เซียวเฉวียนไม่ต้องใช้ไม้แข็งกับเขา!
เอ๊ะ จ้าวหลานเดี๋ยวก็บอกว่าไม่ขอโทษ เดี๋ยวก็บอกว่าจะขอโทษ?
ไม่รู้ว่าในจดหมายฉบับนั้นของเฉาสิงจือเขียนไว้ว่าอย่างไร จึงทำให้คนโง่อย่างจ้าวหลานเปลี่ยนได้ง่ายเช่นนี้
ทว่าเซียวเฉวียนล้มเช่นนี้ ล้มเสียจนผมชี้ฟู เขาไม่ยอม!
“เจ้าต้องสู้กับข้า!” เซียวเฉวียนทนจ้าวหลานไม่ไหวแล้วจริง ๆ เขาตะคอกใส่จ้าวหลาน “อย่าคิดว่าเจ้าขอโทษ แล้วข้าจะไม่ต่อสู้กับเจ้า!”
“นายท่าน นายท่าน!” ไป๋ฉี่ทำอะไรไม่ถูก นายท่านเพิ่งหายป่วย แต่กลายเป็นคนหุนหันพลันแล่นและก้าวร้าวเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ เขาดึงเซียวเฉวียนที่เหมือนกับไก่ชนไว้แน่น “ชื่อเสียงของคุณหนูรองสำคัญที่สุด ชื่อเสียงสำคัญที่สุดนะขอรับ”
เรื่องของน้องสาว ทำให้เซียวเฉวียนที่โกรธจนหูดับได้สติขึ้นมาบ้าง หัวสมองของเขาปวดร้าวจนแทบหัวหมุน เมื่อเขาเห็นหน้าจ้าวหลานก็มีน้ำโหขึ้นมา
“ใต้เท้าเซียว ท่านวางใจได้ ชื่อเสียงคุณหนูรองแห่งตระกูลเซียวถูกเหยียบย่ำ เพื่อการชดใช้ของตระกูลจ้าว นอกจากจะล้างมลทินให้แก่คุณหนูรอง” จ้าวหลานก้มหน้าลง รู้สึกผิดเล็กน้อย “ตระกูลจ้าวของข้ายังยินยอมที่จะ... ข้าจ้าวหลานยังยินยอมที่จะสู่ขอคุณหนูรองแห่งตระกูลเซียวเป็นภรรยาที่ถูกต้อง”
อะไรนะ?
อะไรกัน!
เดิมทีเซียวเฉวียนก็หัวหมุนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวหลานพูดก็มีสติมากขึ้นในชั่วพริบตาเดียว ผู้คนที่อยู่รอบด้านต่างพากันฮือฮา ตระกูลจ้าวและตระกูลเซียวจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน?
ตระกูลจ้าวเป็นตระกูลใหญ่และสูงส่งของเมืองหลวง จ้าวหลานมีหน้าตาหล่อเหลา และพร้อมด้วยความสามารถ หญิงสาวผู้สูงศักดิ์จำนวนไม่น้อยที่อยากแต่งงานกับเขา แต่ในตอนนี้จ้าวหลานเสนอที่จะสู่ขอเซียวจิงเป็นภรรยา เซียวเฉวียนควรต้องดีใจอย่างมากมิใช่หรือ?
สวีซูผิงที่คอยมองดูเหตุการณ์นี้อยู่ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ ตระกูลเซียวเป็นผู้ดีหน้าใหม่ แม้ว่าสิ่งที่เซียวเฉวียนทำจะเกินความคาดหมายของผู้คนทั่วไป ทว่ามองโดยภาพรวมแล้ว ตระกูลเซียวมีสิทธิ์ใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของรัฐไป๋ลู่ และอาชีพที่เป็นทางการของเขาก็มีแนวโน้มที่ดี เหมาะสมอย่างมากกับตระกูลจ้าว
ใบหน้าของเซียวเฉวียนแข็งทื่อและไม่พูดไม่จาสักคำเดียว ไป๋ฉี่รู้ว่านายท่านยังคงมึนงงอยู่
จ้าวหลานทักขึ้น “ใต้เท้าเซียว ให้ข้าไปเป็นนายท่านของจวนเซียว ข้าเองก็ลำบากใจจริง ๆ แต่ข้ายินยอมที่จะสู่ขอคุณหนูรองเป็นภรรยาที่ถูกต้อง และทำด้วยความจริงใจ ข้า...”
จ้าวหลานเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เขาพูดรอบนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ในที่สุดก็ทำให้เซียวเฉวียนที่มึนงงได้สติกลับมาอีกครั้ง
ไป๋ฉี่ดึงเซียวเฉวียนที่ลุกขึ้นพรวดพราดแทบไม่ทัน เซียวเฉวียนโกรธเสียจนตะคอกใส่จ้าวหลาน “เจ้าจะสู่ขอน้องสาวของข้างั้นหรือ? เจ้าเป็นหมูโสโครกที่ไหนกัน! กล้าดีอย่างไรมาทำลายผักกาดขาวชั้นดี!”
“เจ้าเป็นคางคกชนิดไหนกัน จึงกล้าขึ้นวอมาสู่ขอน้องสาวของข้า?”
“ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”
“วันนี้ข้า เซียวเฉวียนจะต้องตีเจ้าให้ตายจนได้! ไป๋ฉี่! เอาดาบจิงหุนมาให้ข้า!”
วันนี้เซียวเฉวียนบังคับให้จ้าวหลานเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเจ้าสาว แค่เพียงเพื่อต้องการให้ตระกูลจ้าวขอโทษ ปรากฏว่าจ้าวหลานกล้าเฝ้าคิดถึงของสาวของเขาจริง ๆ?
เซียวเฉวียนก็ไม่ต่างจากท่านพ่อคนหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีคนอยากได้ลูกสาวของตัวเองก็รู้สึกมีน้ำโหขึ้นมา!
น้องสาวของเขามีชาติกำเนิดสูง! เป็นของล้ำค่าของตระกูลเซียว! คนในตระกูลจ้าวต่างก็เป็นพวกโง่เขลาเบาปัญญา กล้าดีอย่างไรมาจ้องน้องสาวของเขาตาเป็นมัน? หากเขาไม่ตีจ้าวหลานจนตายก็อย่าเรียกว่าตระกูลเซียวอีกเลย!
“ไป๋ฉี่! เหตุใดจึงไม่นำดาบจิงหุนมาให้ข้า!”
เซียวเฉวียนโมโหแทบบ้า ไป๋ฉี่เป็นถึงเทพสงคราม แต่กลับขัดขวางเขาที่โกรธอย่างที่สุดไว้ไม่ได้ “นายท่าน นายท่าน! ใจเย็นก่อนนะขอรับ ธุระของเราสำคัญกว่านะขอรับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...