ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 580

สรุปบท บทที่ 580 ความลุ่มหลงที่แก้ไม่ได้: ซูเปอร์ลูกเขย

ตอน บทที่ 580 ความลุ่มหลงที่แก้ไม่ได้ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 580 ความลุ่มหลงที่แก้ไม่ได้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไป๋ฉี่หันไปด้วยความตื่นเต้น ดวงดาวแห่งการช่วยเหลือมาแล้ว ในที่สุดก็มาเสียที!

ยังมีใครที่สามารถขวางเซียวเฉวียนได้อีก?

ยังมีใครกล้าขวางเซียวเฉวียนได้อีก?

แน่นอนว่าต้องเป็นคุณหนูรองเซียวจิงไงเล่า

“ท่านพี่! หยุดนะ!” เซียวจิงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมาหนึ่งปี เซียวเฉวียนเลี้ยงดูน้องสาวคนนี้อย่างดี ในวันนี้เซียวจิงไม่ใช่เด็กน้อยหน้าเหลืองตัวซูบคนนั้นอีกแล้ว แต่เป็นหญิงสาวที่มีน้ำมีนวล

นางมีรูปร่างที่เพรียวบาง อารมณ์สดใส การเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ทําให้นางมีราศีมากขึ้น นัยตาเด็ดเดี่ยวที่เรียนรู้มาจากเซียวเฉวียน ทําให้นางมีความงามเป็นพิเศษ

จ้าวหลานมองด้วยความตกตะลึง ว่ากันว่าคุณหนูรองแห่งตระกูลเซียวเป็นเด็กน้อยที่ไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้มิใช่หรือ? ตอนนี้ได้เห็นเช่นนี้แล้ว นางดูน่ารักและมีความสามารถกว่าหญิงสาวคนอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย

ฮูหยินจ้าวได้พบเซียวจิง ก็สติหลุดไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าจวนเซียวที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จะมีบุตรสาวที่รูปร่างดีและราศีจับมากเช่นนี้

ไป๋ฉี่ดีใจจนแทบร้องไห้ออกมา “คุณหนูรอง ในที่สุดท่านก็มา”

เดิมที พรุ่งนี้จะเป็นวันที่จ้าวซิ่นเฉียงไปสู่ขอเซียวจิง ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวสั่งให้คนพาตัวเซียวจิงไปซ่อนที่ศาลาคุนหวู่ ปรากฏว่าเซียวจิงยังไม่ทันเหยียบเข้าไปในศาลาคุนหวู่ ก็ถูกคนรับใช้ของตระกูลจ้าวเชิญมาที่นี่

คนรับใช้ตระกูลจ้าวบอกว่า ท่านพี่กำลังอาละวาดอยู่ที่จวนจ้าว ต้องการให้จวนจ้าวขอโทษนางให้ได้ และยังตกลงมาจากหลังคาอีก เมื่อเซียวจิงได้ยิน แน่นอนว่านางต้องรีบมาในทันที

เซียวจิงรู้ดีว่าเหตุใดท่านพี่จึงไปอาละวาดที่จวนจ้าว เรื่องที่จวนจ้าวทำให้นางเสียชื่อเสียง นางรู้แก่ใจดี

เพียงแต่คนอื่น ๆ รวมทั้งท่านพี่ต่างคิดว่านางอ่อนแอเกินไป เหตุใดนางต้องรนหาที่ตาย เพียงเพราะคำพูดของคนชั้นต่ำเหล่านี้ด้วย?

นางรีบร้อนมาที่นี่เพราะต้องการขวางท่านพี่ไว้ เพื่อไม่ให้ท่านพี่ต้องก่อเรื่องใหญ่เพราะนาง และเพื่อไม่ให้เขาต้องเสียอนาคตเพราะคนชั้นต่ำพวกนี้ มันไม่คุ้มค่าเลย

ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งปี เซียวเฉวียนโตขึ้นมาก และเซียวจิงผู้เป็นน้องก็รู้ความมากขึ้นเช่นกัน

นางเห็นว่าเซียวเฉวียนตกลงมาบาดเจ็บจนใบหน้าเขียวช้ำ ดวงตานางแดงก่ำและรุดเข้าไปขวางกำปั้นของเซียวเฉวียนที่กำลังทุบสมองหมาของจ้าวหลาน “ท่านพี่ พอแล้ว จิงเออร์ไม่เป็นอะไร...”

เสียงเล็กที่อ่อนหวานของน้องสาว ราวกับสายฝนในฤดูใบไม้ผลิที่โปรยปรายอบอุ่น เย็นสดชื่นและลอยอยู่ในหัวใจของเซียวเฉวียน พร้อมกับดับไฟแห่งความโกรธของเซียวเฉวียนลงอย่างรวดเร็ว

เซียวเฉวียนมีหลักการอยู่หนึ่งข้อ เขาจะไม่ฆ่าผู้อื่นอย่างง่ายดายต่อหน้าท่านแม่และน้องสาว เขารู้ว่ามันจะทำให้พวกนางกลัว

แม้แต่ไป๋ฉี่ผู้เป็นเทพแห่งสงครามยังขัดขวางเซียวเฉวียนอย่างเอาเป็นเอาตาย คำพูดเบา ๆ เพียงประโยคเดียวของเซียวจิง ก็สามารถหยุดเซียวเฉวียนไว้ได้

จ้าวหลานจ้องมองเซียวจิงด้วยความตะลึง หญิงผู้นี้คาดเดาสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

ทว่าเซียวจิงไม่เหลือบมองคนตระกูลจ้าวแม้เพียงแวบเดียว นางดึงมือของเซียวเฉวียนไว้ และจัดการปัดดินโคลนที่ติดเต็มเสื้อของเขาออก พลางพูดเสียงสะอื้น “ท่านพี่ ตกลงมาเจ็บหรือไม่ คนตระกูลจ้าวช่างเกินไปเสียจริง ให้จิงเออร์ดูหน่อยว่าเจ็บตรงไหนหรือไม่”

หืม?

จ้าวหลานร้องโหยหวนอยู่ในใจ คุณหนูรอง ท่านพี่ของท่านตกลงมาเองนะ ท่านเห็นเลือดที่หน้าผากของข้าแล้วหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ท่านพี่ของท่านทำแตก รอยรองเท้าบนใบหน้าก็เป็นเพราะท่านพี่ของท่าน ผู้ใดที่ทำเกินไปกันแน่?

“ข้าไม่เป็นอะไร เจ้า…” เซียวเฉวียนมองดูน้องสาวที่รู้ความอย่างเจ็บปวดในหัวใจ หนึ่งปีมานี้ ตัวของนางสูงขึ้นมาก หัวเทียบเท่าไหล่ของเขาแล้ว “เจ้ารู้เรื่องที่ตระกูลจ้าวทำความโสมมไว้แล้วหรือ?”

“ข้ารู้” เซียวจิงพยักหน้า นางทั้งปวดใจและอยากตำหนิ น้ำตาในเบ้าหมุนอยู่ในดวงตาของนาง “ท่านพี่ล้มป่วยยี่สิบวันเพิ่งหายดี เหตุใดต้องลำบากเพื่อข้า และมาทำเรื่องเจ็บตัวเช่นนี้ด้วยเล่า?”

“ต่อให้คนพวกนี้เหยียดหยามข้าเป็นหมื่น ๆ ครั้ง จิงเออร์ก็จะไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่กลัวด้วย”

นางสะอื้น “แต่จิงเออร์ไม่อยากเห็นท่านพี่โมโหเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังตกลงมากจากที่สูงขนาดนั้นอีก หากโกรธหรือตกลงมาจนเป็นอะไรไป ท่านพี่จะให้ท่านแม่และจิงเออร์ทำอย่างไร? ฮือ...”

คนตระกูลจ้าวทุกคนต่างตกใจเสียจนอ้าปากค้าง ตระกูลจ้าวยอมที่จะขอโทษ นั่นถือว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเซียวแล้ว ปรากฏว่าสองพี่น้องตระกูลเซียวกล้ารังเกียจงั้นหรือ?

ฮูหยินจ้าวโมโหจนแทบระเบิด จ้าวหลานที่มีเลือดอยู่ตรงหน้าผากรีบส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ท่านแม่ อย่าได้พูดสิ่งใดเชียว ออกไปเดี๋ยวนี้

ในสายตานี้ มีความดุเดือดที่ทำให้ฮูหยินจ้าวต้องประหลาดใจ ปากที่อ้าอยู่ของนางก็ปิดลงทันที ตอนนี้ลูกชายเป็นเสาหลักของตระกูลจ้าว ผู้หญิงอย่างพวกนางเริ่มต้นจากการเชื่อฟังพ่อ เมื่อแต่งงานต้อง

เชื่อฟังสามี และหากสามีเสียก็ต้องเชื่อฟังลูกชาย ในเมื่อลูกชายบอกให้นางหุบปาก นางก็ต้องหุบปาก

เซียวจิงโกรธมากและไม่ยอมรับคําขอโทษ นั่นเป็นความเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนหนึ่ง

เซียวเฉวียนกลับไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ มิเช่นนั้นวันนี้เขาคงไม่มาอาละวาดที่จวนจ้าว และให้ตระกูลจ้าวขอโทษ

ชีวิตของเซียวจิงต้องบริสุทธิ์ และปล่อยให้คนเหล่านี้มาทําให้มัวหมองไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงโน้มน้าวเกลี้ยกล่อมนาง ใช้ใจแลกใจ ใช้เหตุผลแลกเหตุผล เดิมทีเซียวจิงก็เป็นเด็กสาวที่รู้ความและน่ารัก หลักจากเซียวเฉวียนพูดเพียงไม่กี่คำ นางก็พยักหน้ารับ “เอาล่ะ เพื่อท่านแม่ ข้าจะยอมรับคำขอโทษจากตระกูลจ้าว”

“เด็กดีจริง ๆ” เซียวเฉวียนลูบหัวของน้องสาว และหันหน้ามาจ้องจ้าวหลานอย่างโหดเหี้ยม “ได้ยินแล้วหรือไม่ รีบขอโทษเข้าสิ เมื่อขอโทษแล้วพวกเราจะไปทันที”

เซียวเฉวียนพูดอย่างมีนัยยะ : ที่พวกเรายังอยู่ ก็เพื่อให้เจ้าได้กล่าวขอโทษเท่านั้น หากเจ้ายังกล้าพูดเรื่องสู่ขอน้องสาวก็ลองดู?

จ้าวหลานพยักหน้าหงึก ๆ “ขอบพระคุณใต้เท้าเซียวที่ให้โอกาสข้า เช่นนั้นเรื่องแต่งงานกับคุณหนูรอง...”

“แต่งกับแม่เจ้าสิ! เจ้านี่มันเหลือเดนเสียจริง!”

เซียวเฉวียนยื่นเท้าออกไปหนึ่งข้าง จวนจ้าวก็มีเสียงร้องโหยหวนของจ้าวหลานอีกครั้ง

“นายท่าน! นายท่าน!”

“ท่านพี่ ท่านพี่ หยุดนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย