บทที่ 581 เป็นดั่งศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่กำเนิด – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 581 เป็นดั่งศัตรูคู่อาฆาตตั้งแต่กำเนิด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
จวนจ้าวในวันนี้ถูกกำหนดให้มีเรื่องสนุกสุดๆแล้ว
ฝูงชนที่รอชมเรื่องสนุกหันซ้ายหันขวา จ้าวหลานอยู่ตรงไหน สายตาของพวกเขาก็ตามไปอยู่ตรงนั้น
ท้ายที่สุด เซียวเฉวียนจัดการสั่งสอนเขาจนเหนื่อยเอง ชี้หน้าพร้อมหายใจหอบ “เจ้า......เจ้ายืนนิ่งๆ”
“ใต้เท้าเซียว ท่านรอหน่อยค่อยสั่งสอนต่อได้หรือไม่” จ้าวหลานที่หน้าบวมเปล่งเอ่ยอ้อนวอน เขาเตรียมธูปเทียนและของถวายวางไว้ที่หน้าประตูจวนของตระกูลจ้าว เขาขอขมาเซียวจิงต่อด้วยบรรพบุรุษอย่างจริงจัง
จ้าวหลานโดนสั่งสอนจนใบหน้าบวมแล้วการพูดการจาจึงคลุมเครือ สีหน้าท่าทางและน้ำเสียงกลับจริงจังเป็นอย่างยิ่ง
เซียวเฉวียนคือผู้มีบุญคุณของตระกูลจ้าว จ้าวหลานเข้าใจไปเสียเองว่าเป็นแค่ปัญญาชนที่เคยล่ำเรียนมาบ้าง มีบุญคุณย่อมต้องตอบแทน การขออภัยต่อผู้มีบุญคุณในตอนนี้ย่อมควรจะมีความจริงใจและจริงจังอย่างยิ่ง
เนื้อหาหลักของการขออภัยก็แค่ตระกูลจ้าวไม่ควรสร้างข่าวลือปลอมทำลายชื่อเสียงของคุณหนูรองตระกูลเซียว
คำพูดเหล่านี้ ฝูงคนที่รอชมเรื่องสนุกไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ใช้นิ้วเท้าก็คิดได้ คุณหนูรองตระกูลเซียวจะไปปรนนิบัติรับใช้ใครในศาลาหน่วนเซียงได้กันล่ะ
ด้วยนิสัยของเซียวเฉวียน คุณหนูรองได้รับความอัปยศขนาดนั้นจริงๆ แม้ว่าศาลาหน่วนเซียงจะเป็นถิ่นของเว่ยเชียนชิว ก็เกรงว่าเซียวเฉวียนจะเผามันให้เกลี้ยงแน่นอน สถานที่นี้อาจจะไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
บรรดากินเผือกต่างมองดูด้วยความเพลิดเพลิน หลักๆคือพวกเขาสนใจว่าการแต่งงานระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลจ้าวจะจบเช่นไร
แต่แรกเริ่มตระกูลจ้าวยังดูแคลนเซียวจิงต่างๆ นานา ตอนนี้จ้าวหลานถูกสั่งสอนจนมีสภาพนี้แล้วยังคิดจะเชื่อมความสัมพันธ์โดยการแต่งงานกับตระกูลเซียวอีกหรือ
ส่วนจ้าวหลานจะคิดเห็นยังไง บรรดารอกินเผือกต่างไม่สนใจ พวกเขาชอบใจแค่อยากเห็นว่าเซียวเฉวียนจะทำอย่างไร?
ทำอย่างไร?
เซียวเฉวียนย่อมต้องไปสิ!
จ้าวหลานกล่าวต่อบรรพบุรุษทั้งหลายของตระกูลจ้าว “ข้า จ้าวหลาน หลังจากวันนี้ไปจะต้องสั่งสอนน้องชายให้ดีอย่างแน่นอน และจะบังคับตัวเอง ไม่มีครั้งหน้า หากมีครั้งหน้าขอให้ฟ้าผ่า!”
ผู้คนฮือฮา โห สาบานได้แรงดีเชียว จวนจ้าวสร้างข่าวลือได้รับการยืนยันแล้ว!
ยังดีที่จ้าวหลานเป็นตัวแทนของจวนจ้าวที่ขออภัยจากใจจริง รู้ผิดก็แก้ไข ยังนับว่าเป็นปัญญาชน
สิ้นเสียงของจ้าวหลาน เป้าหมายในวันนี้ได้บรรลุแล้ว เซียวเฉวียนที่จัดการสั่งสอนจ้าวหลานจนเหนื่อยแล้วคร้านที่จะพัวพันกับเขา เขาจึงลากเซียวจิง “ไปกัน!”
สองพี่น้องและไป๋ฉี่ออกจากจวนจ้าวโดยไม่หันหน้ากลับมามอง สิ่งที่ไปพร้อมกับพวกเขายังมีของหมั้นที่แต่เดิมมอบให้ตระกูลจ้าวและกองขบวนพิธีการ ฝูงชนมากมายทะลักออกจากจวนจ้าว ฝูงกินเผือกที่รอเผือกจนถึงที่สุด นี่ก็จบแล้วรึ?
ไม่ลากตัวจ้าวหลานไปเป็นเขยแต่งเข้าฝ่ายหญิง?
หรือไม่ก็ให้เซียวจิงแต่งเข้าจวนจ้าวก็ได้นี่
ผู้คนต่างไม่ทราบว่าจ้าวหลานผู้มีความสามารถอัจฉริยะผู้นี้เป็นผู้ที่บรรดาสาวน้อยใหญ่มากมายปรารถนา เซียวเฉวียนรับไม่ได้สุดๆ เซียวจิงก็รับไม่ได้
การตายของจ้าวจินไหล จ้าวหลานเป็นคนที่คลุกคลีกับราชการมานานปีก็ยังทราบหลังเพื่อน ถึงขั้นที่กล่าวได้ว่าไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย
คนที่โง่เง่าขนาดนี้ หากเซียวเฉวียนให้น้องสาวแต่งเข้าไปละก็ ภายภาคหน้าถ้าจวนจ้าวเกิดสมองมีปัญหาขึ้นมา พูดจาเหลวไหลหรือเข้าฝั่งเข้าฝ่ายมั่วซั่วแล้วโดนฮ่องเต้หาเรื่องจับผิด หรือไม่ก็เกิดความคิดอยากกวาดล้างทั้งตระกูล งั้นก็คงต้องทำให้เซียวจิงที่แต่งเข้าไปพลอยเดือดร้อนไปด้วยไม่ใช่หรือ?
ท่านเขยเช่นนี้ แม้ว่าจะส่งให้ถึงประตูบ้านเซียวเฉวียนก็ไม่เคยคิดอยากได้! ใครอยากแต่งก็แต่งไป ถึงยังไงเซียวจิงก็ไม่แต่ง!
ยิ่งกว่านั้น อายุของเซียวจิงแค่ 11-12 ในสายตาของคนโบราณคือถึงวัยที่ต้องหมั้นหมายได้แล้วจริงๆ
เซียวเฉวียนกลับรู้สึกไม่สบายใจเพราะเซียวจิงยังเด็กขนาดนี้จะรีบหมั้นหมายทำไม? ข้าจะเลี้ยงน้องจนถึงอายุ 18 ปี ต้องให้น้องอยู่กับครอบครัวที่บ้านให้มากๆ เลี้ยงจนเป็นสาวแก่ในสายตาของคนโบราณก่อนค่อยแต่ง!
เซียวเฉวียนไม่ทราบว่าหลังจากที่เขาไปแล้ว จ้าวหลานยังคงไร้จิตวิญญาณอยู่พักใหญ่
จ้าวหลานจ้องมองสองพี่น้องจากไป สายตาสุดท้ายมองไปที่ร่างของเซียวจิงตลอดเวลา
ธรรมชาติย่อมเคลื่อนโคจรไป สวรรค์ไม่เคยปรานีใคร จ้าวหลานที่รังเกียจจวนเซียวมากมาย ไม่เคยคาดคิดเลยว่าวันนี้จะรู้สึกรักแรกพบต่อเซียวจิง!
เจ้าสุนัขนี่! เซียวเฉวียนแอบด่าอยู่ในใจ เซียวเฉวียนเป็นผู้ชายย่อมมองออกถึงสายตาที่จ้าวหลานมองน้องสาว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคนตระกูลจ้าวคนใดอยากมาเก็บผักกาดขาวตระกูลเซียวหรือคิดอยากดองญาติกันละก็ เซียวเฉวียนจะบีบหัวหมูๆของมันให้แหลก!
เซียวเฉวียนก่อเหตุวุ่นวายขนาดนี้ที่จวนจ้าว ทั้งยังให้จ้าวหลานขอขมาท่ามกลางผู้คนมากมาย คนในเมืองหลวงย่อมรู้ว่าเซียวเฉวียนไม่บ้าแล้ว
ทว่าครั้งนี้ ทุกคนกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร ทั้งยังไม่แปลกใจและก็ไม่ได้ยินดีอะไร
ถึงยังไงอาการป่วยแต่ละครั้งของเซียวเฉวียนก็เกิดขึ้นฉับพลัน หลังจากนั้นท้ายที่สุดก็ดีขึ้นเอง ใครจะไปรู้ว่าครั้งหน้าจะเกิดป่วยตอนไหนอีก?
คนขี้โรคเช่นนี้ ไม่ได้มีอนาคตอะไรในเมืองหลวงและราชสำนักเป็นแน่ ไม่สู้ไปสนใจการสอบคัดเลือกราชการเคอจวี่ปีนี้ดีกว่า ลองดูว่าจะสามารถมีผู้มีความสามารถอะไรบ้าง
จวนเจียนกั๋ว
ข่าวการดีขึ้นของเซียวเฉวียนก็แพร่ไปถึงหูของเว่ยเชียนชิวตั้งแต่นาทีแรกแล้ว
ในเวลานี้ เขากำลังชี้แนะวิชาให้ลูกชายชื่อเว่ยเป้ย ได้ยินว่าเซียวเฉวียนดีขึ้นแล้ว สีหน้าจึงดูเหยเกผิดปกติ
“มันฝรั่ง! มันฝรั่งที่มีขนยาวของข้านี่!”
เว่ยเป้ยกลัวจนหดคอ กลอนที่เขาคดไม่ใช่ของใครอื่น เป็นของที่เซียวเฉวียนแต่งขึ้นเมื่อก่อนชื่อเติงเกา มีความหมายว่าปีนที่สูง
เว่ยเชียนชิวเดินไปด้วยความอารมณ์เสีย เว่ยเป้ยเหลือบมองศพของสายสืบที่อยู่บนพื้นก็ส่ายหน้าแล้วคัดลอกต่อ
“สารทมาเยือนใบไม้ห่อเหี่ยว ฉางเจียงเทียวน้ำโหมกระหน่ำ เตร็ดเตร่แดนไกลช่างน่าเศร้า โรครุมเร้าโถมมาคล้ายตอกย้ำ”
“กลอนนี้ไม่น่าสนใจเท่าภาพยนตร์สักนิด”
เว่ยเป้ยที่เขียนจนมึนหัวเผลอพึมพำออกมา
“อ๋องรอง ภาพยนตร์คืออะไรเจ้าคะ?” หญิงรับใช้ข้างกายได้ยินแล้วก็ถามอย่างสงสัย
เว่ยเป้ยที่รู้ตัวว่าพลั้งปากพูดก็รีบส่ายหน้า “ไม่ ไม่มีอะไร”
เขาก้มหน้าคัดลอกเขียนตัวอักษรจากบทกวีต่ออย่างเงียบๆ และไม่ยอมพูดอะไรอีก
หญิงรับใช้ส่ายหน้า อ๋องรองเมื่อก่อนพูดมาก พอโตขึ้นคำพูดนับวันยิ่งน้อยลงทุกวัน
เว่ยเป้ยไม่ได้เป็นเพราะว่าโตขึ้นแล้วถึงพูดน้อยลง แต่เขาไม่ใช่เว่ยเป้ยคนเดิมคนนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
เขาเป็นครูสอนเคมี มายังต้าเว่ยได้ 7 ปีแล้ว ช้ากว่าอี้อู๋หลี่มาก แต่เร็วกว่าเซียวเฉวียนมาก
เขาไม่สู้เซียวเฉวียนที่เป็นจุดสนใจ และก็ไม่สู้เว่ยอวี๋ที่หยิ่งยโสแบบนั้น เขาอยู่อย่างเงียบๆไร้ตัวตน ใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มคนโบราณ เรียกคนแปลกหน้าว่าพ่อ เรียกผู้หญิงที่ไม่รู้จักว่าแม่
เป็นอ๋องรองที่ถูกเลี้ยงตามใจคนหนึ่งในสายตาของทุกคน
สิ่งที่เขาอยากทำที่สุดคือกลับบ้าน กลับไปยังโลกสมัยปัจจุบัน
แต่ 7 มาแล้วเขาก็ยังกลับไปไม่ได้
เขามาที่ช่วงเวลานี้อย่างลึกลับ
เขารู้ว่าเซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋เป็นคนฮว๋าเซี่ย แต่เขาไม่กล้าทำความรู้จัก
เพราะพ่อแท้ๆในช่วงเวลาที่นี่เป็นศัตรูใหญ่ของกองทัพจักรพรรดินั้นของเซียวเฉวียนและเว่ยอวี๋
เขากับเซียวเฉวียนถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้
เป็นได้เพียงศัตรูกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...