ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 583

“เฉวียนเอ๋อร์ เจ้าจักพูดกับเย่าเหล่าเช่นนี้ไม่ได้” ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวที่มีท่าทีกลืนมิเข้าคายไม่ออกนั้น ทว่า นางก็ไม่อาจไม่เผยท่าทีดุว่าออกมาเช่นกัน "เจ้ากับจิงเอ๋อร์ไปรับสำรับก่อนเสีย"

"เช่นนั้นก็ได้" เซียวเฉวียนเหลือบมองเย่าเหล่าอยู่ครู่หนึ่ง ทักษะทางการแพทย์ของชายชราผู้นี้บ้างก็ดีบ้างก็แย่? เหตุใดในยามนี้อาการเขาถึงดีขึ้นแล้วเล่า เย่าเหล่ายังคงมีท่าทีเป็นกังวลอยู่เช่นเดิม

ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวจึงพาเย่าเหล่าเดินมายังเรือนรับรองอีกห้องหนึ่งแทน

“ฮูหยินผู้เฒ่าเซียว ข้ามีเรื่องอยากจะเรียนถามท่านตามตรง” เย่าเหล่าเหลือบมองฮูหยินผู้เฒ่าเซียวอย่างเงียบ ๆ “ก่อนหน้านั้นร่างกายของใต้เท้าเซียวเป็นเช่นนี้หรือไม่?”

“เย่าเหล่าหมายถึง เฉวียนเอ๋อร์ยังมีอาการป่วยอยู่งั้นหรือ”

“หามิได้ ร่างกายของใต้เท้าเซียวในยามนี้แข็งแรงมากนัก” เย่าเหล่าขมวดคิ้วลงอยู่ครู่หนึ่ง “ทว่า... เขามีสุขภาพดีเกินไป แต่เล็กจนโตใต้เท้าเซียวก็ร่างกายแข็งแรงเช่นนี้หรือ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อถูกเอ่ยถามเช่นนี้ "ยามที่เขายังเล็กนั้น เขามักจะมีร่างกายที่อ่อนแอ ทั้งยังเจ็บป่วยไอออด ๆ แอด ๆ อยู่บ่อยครั้ง ทว่า หลายปีที่ผ่านมานี้อาการดีขึ้นมากแล้ว"

"เช่นนี้หรือ......"

"มีอะไรงั้นหรือ?" สีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเซียวพลันมีท่าทีตึงเครียดไปในทันที มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรืออย่างไร?

“จู่ ๆ ร่างกายของใต้เท้าเซียวก็ดีขึ้นงั้นรึ?”

“อื้ม เหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ” ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวพยักหน้าลง ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

เย่าเหล่าขมวดคิ้วลงไปในทันที ดูท่าเรื่องนี้จะคงจะไม่ง่ายดายแล้ว "เช่นนี้..."

“เย่าเหล่า สุขภาพของเฉวียนเอ๋อร์ในยามนี้มีปัญหาเช่นนั้นหรือ?”

เย่าเหล่าเหลือบมองผมสีดอกเลาของฮูหยินผู้เฒ่าเซียว ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเศร้าใจว่า "มิเป็นอันใด ข้าคิดว่าการที่ใต้เท้าเซียวมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว"

“งั้นหรือ?” เมื่อเห็นเย่าเหล่ามีท่าทางลังเลใจที่จะเอ่ยออกมานั้น ภายในใจของฮูหยินเซียวพลันตกไปอยู่บนตาตุ่มในทันที “เย่าเหล่าหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ท่านอย่าได้ปิดบังข้าเป็นอันขาดเชียว มิว่าเรื่องอันใดข้าล้วนยอมรับได้ทั้งนั้น”

“ไม่ ไม่ ไม่ มิได้มีปัญหาอันใด” เย่าเหล่าแย้มยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโบกไม้โบกมือไปมากล่าวว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเป็นกังวลมากเกินไปแล้ว ข้าแค่มีเรื่องสงสัยเท่านั้น จึงเอ่ยถามเพียงเล็กน้อย”

“อ๋อ เป็นเช่นนั้นหรือ”

ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเป็นประกายขึ้นมาในทันที "ไม่กี่วันมานี้เย่าเหล่าลำบากแล้ว เดิมทีท่านก็มิชื่นชอบที่รับสำรับร่วมกับพวกข้า ข้าจึงให้คนส่งสำรับมื้อนี้ไปให้ท่านถึงเรือนแล้ว เชิญท่านทานให้อร่อยนะเจ้าคะ "

เย่าเหล่าจึงโค้งกายคำนับ "ขอบคุณพระคุณฮูหยินที่ให้การต้อนรับข้าเป็นอย่างดี เช่นนี้ข้าผู้เฒ่าขอตัวลาไปก่อน"

เย่าเหล่าจึงรีบร้อนจากไปในทันใด เขากลัวว่า หากรังอยู่ต่ออีกครู่กนึ่ง เขาคงอดมิได้ที่จะเปิดเผยเรื่องราวที่น่าตกใจออกมาแน่ ๆ

หลังจากที่เย่าเหล่าใช้เวลาในการสังเกตท่าทีของเซียวเฉวียนในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ เขากลับพบว่าเซียวเฉวียนไม่เพียงแต่มีจิตใจแห่งการฝึกฝนเท่านั้น ทว่า การเติบโตของรากเหง้าแห่งการฝึกตนของเขายังออกดอกขึ้นมาได้อย่างงดงามอีกด้วย ทั้งยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเสียจนน่าประหลาดอีก

หากว่าคนคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เพียบพร้อมเช่นนี้ หาใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ไม่

หากแต่เย่าเหล่าเคยได้ยินมาว่า เซียวเฉวียนเคยเป็นบุรุษที่ร่างกายผอมแห้งไร้พละกำลัง แม้แต่แรงจักฆ่าไก่ยังมิมีเลย นับว่าเป็นบัณฑิตแก่เรียนที่ร่างกายอ่อนแอ

ร่างกายของคนเรานั้น มิอาจชุบตัวเกิดใหม่ขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ร่างกายมนุษย์เราจักเป็นไปตามการเจริญเติบโตของมันเอง ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจักมีท่าทีแข็งแรงกำยำขึ้นมา นั่นย่อมเป็นเพราะกินดีออกกำลังเยอะ หลังจากทำเช่นนี้ไปนาน ๆ หลายอี มันถึงจะค่อย ๆ ดีขึ้น

รวมไปถึงอาการป่วยหนักของเซียวเฉวียนที่เกิดขึ้นในทุก ๆ ครั้งนั้น กลับทำให้มีร่างกายที่แข็งแรงกำยำขึ้นอีกด้วย นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

เซียวเฉวียนดูเหมือนหาได้มีอาหารป่วยไม่ อาการป่วยของเขานั้น เปรียบเสมือนบทเรียนของการฝึกฝนร่างกายและจิตวิญญาณชั่วคราวเท่านั้น

ตราบใดที่เซียวเฉวียนสามารถรอดจากการฝึกฝนนรกอันโหดร้ายนี้ได้ จิตวิญญาณและร่างกายของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น

ตามบันทึกในหนังสือคุนหลุนโบราณ มีเพียงบุคคลประเภทเดียวเท่านั้นที่สามารถถือว่าชีวิตความตายและความเจ็บป่วยของตนเองเป็นการฝึกฝนชนิดหนึ่ง

นั่นก็คือบุคคลที่กลับชาติมาเกิด

ว่ากันว่าการกลับชาติมาเกิดนั้น มิต้องเอ่ยถึงในแคว้นต้าเว่ยเลย แม้แต่ในคุนหลุนเองยังคิดว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระยิ่งนัก

ในตำราหนังสือโบราณพลันกล่าวเอาไว้ว่า ผู้ที่กลับชาติมาเกิดนั้นจักต้องมาครอบครองร่างกายของคนเป็น คนที่กลับชาติมาเกิดจะไม่ตายง่าย ๆ ทั้งยังมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งผ่านโรคภัยไข้เจ็บและการต่อสู้มากมาเท่าใด เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปมากเท่านั้น

ในเทือกเขาคุนหลุนนั้นมีการปรากฏตัวของผู้ที่กลับชาติมาเกิดแล้ว หากแต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น การพูดการจาของเขาเสมือนกับเซียวเฉวียนมิมีผิด พวกเขามักจะมีท่าทีแปลกประหลาด ทั้งยังทำเรื่องแปลก ๆ อีกมากมาย

สิ่งเดียวที่คนเหล่านั้นมีเหมือนกันก็คือ พวกเขามีแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

มิฉะนั้น ตำราหนังสือโบราณคุนหลุนคงมิต้องต้องทุ่มเทบันทึกเรื่องราวของคนเหล่านี้อำไว้เสียหลายหน้าหลอก

ชาวคุนหลุนมิมีทางรู้ได้เลยว่า คนเหล่านี้มายังโลกแห่งนี้ได้อย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าดูคนเหล่าผู้คนที่กลับชาติมาเกิดเท่านั้น

แต่บันทึกของบุคคลที่กลับชาติมาเกิดเหล่านี้ได้ถูกบันทึกเอาไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนมาแล้ว เย่าเหล่าเองก็มิเคยคิดเลยว่าวันนี้เขาจักได้มาพบเจอและเห็นด้วยตาของตนเองเช่นนี้ได้

ในตำราหนังสือโบราณกล่าวว่าคนที่กลับชาติมาเกิดนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีบุคลิกที่แตกต่างจากเจ้าของร่างเดิมอย่างมาก เซียวเฉวียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย