ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 586

สรุปบท บทที่ 586 ละทิ้งพู่กัน: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 586 ละทิ้งพู่กัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 586 ละทิ้งพู่กัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เหล่าข้าราชบริพารที่กำลังจับตาดูพู่กันเฉียนคุนของเซียวเฉวียนอยู่นั้น

ภายในจวนตระกูลเซียว เซียวเฉวียนที่โกรธจัดอยากจะโยนพู่กันเฉียนคุนทิ้งออกไปให้เหมือนขยะนอกจวนยิ่งนัก นั่นจึงทำให้ไป๋ฉี่และพู่กันเฉียนคุนได้เกิดการปะทะกันขึ้น โดยมีหลี่มู่ที่พยายามอย่างเต็มกำลังที่จะห้ามปรามพวกเขาเอาไว้เสียจน หลังคาของจวนตระกูลเซียวนั้นพังไปหมด

เหมิงอ้าวหยิบสมุดบันทึกเล่มนี้ขึ้นมาเขียนด้วยสีหน้าที่มีแต่ความเศร้าสร้อย "อั๊ยหยา ก้อนอิฐหายไปอีกก้อนแล้ว ยังต้องใช้เงินมาซ่อมแซมอีก!"

เมื่อเกิดความความโกลาหลขึ้นมากมายในจวนตระกูลเซียวเช่นนี้ หอปี๋เซิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน จึงมีเหล่าลูกค้าทั้งหลายชะเง้อคอมองเพื่อรับชมความสนุกยามที่รับประทานอาหารไปพลาง ๆ

พวกเขารู้ดีว่า หอปี๋เซิ่งจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง มิเพียงแต่มีอาหารอร่อยเพียงเท่านั้น แต่ยังมีโรงละครให้ดูและในยามนี้ก็ยังมีการประลองการต่อสู้ให้ดูอีกด้วย

ทักษะการต่อสู้ของไป๋ฉี่และหลี่มู่นั้นล้วนแต่เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลวง พวกเขาสามารถกระโดด โจมตีและหลบหลีกได้อย่างราบรื่นราวสายน้ำ เหมือนดั่งมังกรสองตัวที่ลงไปในน้ำ ทำให้เกิดคลื่นน้ำที่มองไม่เห็นนับพันสายนับว่าเป็นสิ่งที่สวยงามมากนัก

พู่กันเฉียนคุนนั้นดียิ่งมีฝีมือแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ด้วยแสงทั้งสีแดงและสีขาวที่เข้าโรมรันกัน เสมือนกับแสงแพรวพราวของสองดวงดาวที่แข็งกันสาดส่องออกมา วาดลวดลายส่วนโค้งที่สวยงามมากมายจนสลักเข้าไปภายในจิตวิญญาณแห่งการฆ่าอันน่าหลงใหล

จวนตระกูลเซียวตกอยู่ในความโกลาหลอย่างอลหม่าน ลูกค้าที่ทานอาหารอยู่กลับปรบมือเอ่ยชมด้วยความชชอบ "การเคลื่อนไหวนี้ยอดเยี่ยมมาก ทำได้ดีมาก ทำได้ดีมาก!"

“ชื่อเสียงของดาบไท่อาและดาบจิงหุนนั้นนับว่าน่าตกใจนี้จริงๆ เพียงแค่ได้เห็นในวันนี้ ข้าก็ตายตาหลับแล้ว!”

“นี่เรียกได้ว่าเป็นฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดในเมืองหลวงในปีนี้ และแม้แต่ตราประทับเหวินอิ้นก็ยังมิอาจโดดเด่นเท่า”

“ตราประทับเหวินอิ้นมีสิ่งใดให้โดดเด่นกัน ทุกครั้งที่ตราประทับเหวินอิ้นเคลื่อนไหว เขาก็แค่บดขยี้คนอื่น บดขยี้จนมิเห็นหัว ตีกันแบบนี้น่าสนใจมากกว่าเสียอีก”

ผู้คนในเมืองหลวงต่างพาซุบซิบกันมากขึ้น พวกเขาจำได้ชัดเจนว่าใครต่อสู้อยู่ในสถานที่ใด ใช้อาวุธอะไร และการต่อสู้เป็นอย่างไร พวกเขายังจัดอันดับให้อีกด้วย ผู้ชมทั่วไปมิได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด

ศึกวันนี้จักต้องติดอันดับหนึ่งในสามฉากการต่อสู้แห่งปีในใจคนกลุ่มนี้อย่างแน่นอน

อย่างไรเสียการประลองปีนี้ยังมิจบลง ใครจะรู้ว่าในอนาคตข้างหน้าจักมีฉากการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นกว่านี้อีกหรือไม่?

แต่ถึงกระนั้น การต่อสู้ปะทะกันกลางเมืองของจวนตระกูลเซียวในวันนี้ ก็จะถูกจัดอันดับให้อยู่ในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน

“ไป๋ฉี่! สู้เขา!”

“ใต้เท้าหลี่! สู้เขา!”

พวกเขาแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ยกแขนขึ้นและร้องตะโกนราวกับว่าใครก็ตามที่ชนะจะได้รับรางวัลผู้ชมที่ดีที่สุด

จวนตระกูลเซียวทั้งกลุ่มได้ยืนอยู่ในความงุนงงนอกประตูจวนตระกูลเซียว

พวกเขาถือเครื่องลายคราม ผ้าไหม ทองคำ และเงิน จ้องมองไปที่หลังคาจวนตระกูลเซียวที่พลิกคว่ำพลิกหงายอยู่อย่างเหม่อลอย

“คุณ คุณชาย... พวกเราอย่าเข้าไปเลย เราค่อยกลับมาทีหลังก็ได้เช่นกัน”

เด็กชายเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก ไม่นานหลังจากที่ใต้เท้าเซียวกลับบ้าน จ้าวหลานก็สั่งให้คนเตรียมของหมั้นทั้งหมดแล้วมาส่งที่จวนตระกูลเซียวเพื่อขอแต่งงานกับเซียงจิงในทันที

จ้าวหลานที่จมูกดำตาม่วง มิได้เกรงกลัวหากเซียวเฉวียนจะโจมตีเขาอีกครั้ง

“ไม่” จ้าวหลานขมวดคิ้ว “ข้าจะไม่มีวันถอยอีกแล้ว”

"คุณชาย..."

ข้ารับใช้ของตระกูลจ้าวกำลังจะร้องไห้ วันนี้เกิดสิ่งใดขึ้นกับคุณชายใหญ่กันแน่ ก่อนหน้านี้เขารังเกียจตระกูลเซียวมากแค่ไหน ตอนนี้ไม่ว่าหน้าซีดมากเพียงใด จวนตระกูลเซียววุ่นวายถึงเพียงนี้ คนธรรมดาควรอยู่ห่างจากจวน แต่คุณชายใหญ่ยังคงยืนอยู่ที่นี่ หันหน้าไปทางกระเบื้องหลังคาที่ตกลงมาเป็นครั้งคราวและแตกเป็นชิ้น ๆ "ใต้เท้าเซียว! ท่านอยากให้ข้าช่วยหรือไม่!"

เซียวเฉวียนที่กำลังจ้องมองพู่กันเฉียนคุน เมื่อได้ยินเสียงที่น่ารำคาญนี้ จึงหันกลับมาอย่างรวดเร็วและร้องตะโกนไปว่า "เจ้ามาทำอะไรที่นี่! ไสหัวไป!"

เด็กข้ารับใช้ตระกูลจ้าวพลันตกตะลึงไปในทันที หยาบคาย! หยาบคายมาก! ตระกูลจ้าวเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจ ท่าทีของเซียวเฉวียนนี่คือสิ่งใดกัน!

เหอะ! การที่เขามาที่นี่ถือเป็นไว้หน้าให้เซียวเฉวียนแล้ว ในยามที่ข้ารับใช้พยายามจะเอ่ยเกลี้ยกล่อมออกมานั้น คุณชาย! ไปกันเถอะ!

ผลก็คือคุณชายใหญ่ของพวกเขาส่ายหัวไปมาแทน "ข้ามิไป!"

"คุณชาย!"

เมื่อเซียวเฉวียนเห็นแพรตวนสิ่งทอแพรเหล่านั้น ก็ได้รู้ว่าคางคกตัวนี้มาที่นี่เพื่อขอแต่งงาน ดีเสียจริง ทันทีที่เขาก้าวขากลับบ้าน วิญญาณของจ้าวหลานก็มิได้สลายไป!

แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนมิมีเวลามาสนใจเขา เจ้าเด็กสารเลวอย่างพู่กันเฉียนคุนยังไม่ได้รับการจัดการ เซียวเฉวียนจะมีเวลาดูแลหมูตัวนี้ที่มาส่งกะหล่ำปลีให้บ้านเขาได้อย่างไ: "ไสหัวไป! มิเช่นนั้นหากเจ้าโดนลูกหลงไป จวนตระกูลเซียวจักมิรับผิดชอบ!”

กระเบื้องหมุนและตกลงมา ถ้าคอของจ้าวหลานถูกตัดโดยมิได้ตั้งใจ เซียวเฉวียนจะไม่เดือดร้อนหรือ?

“ใต้เท้าเซียว ท่านห่วงใยข้าหรือ?” จ้าวหลานซึ่งมีจมูกที่ช้ำและตาที่บวม ดวงตาพลันสว่างไสวขึ้น โดยคิดไปเองว่าพี่เขยเช่นเซียวเฉวียนเป็นห่วง

“เหตุใดเจ้าถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้!”

ดวงตาของเซียวเฉวียนพลางเบิกกว้างขึ้น ก่อนจะเอ่ยด่าออกไปอย่างเสียงดัง เซียวเฉวียนได้พบกับคนที่หน้าหนากว่าตัวเขาแล้วจริงๆ!

จ้าวหลานมิสนใจสิ่งที่เซียวเฉวียนเอ่ย พลางเอ่ยตอบรับคำของเซียวเฉวียนว่า "ขอบคุณใต้เท้าเซียวที่ห่วงใยข้า!"

"..."

"..."

"เฮ้เฮ้เฮ้!"

แม่งเอ้ย เซียวเฉวียนได้ลอบโจมตี!

ก่อนที่หลี่มู่จะพูดจบ เหมิงเอ้าก็พาเขาออกไปในทันที

พู่กันเฉียนคุนที่ดูเหมือนเด็กน้อยหลงทางทำอะไรไม่ถูกนั้น กำลังลอยอยู่ตามลำพังในอากาศ

"ข้าเอง!"

เซียวเฉวียนคว้าดาบจิงหุนจากมือของไป๋ฉี่ไป เพื่อเข้าฟาดฟันไปที่พู่กันเฉียนคุนในทันที!

โดยมิได้มีความลังเลยแม้แต่น้อย

ในสมัยก่อน ผู้ที่มิเชื่อฟัง จักต้องถูกฝึกให้เชื่องมิเช่นนั้นก็ทิ้งไปเลย เช่นเดียวกับราชาวานรในไซอิ๋ว หากเขาไม่ได้รับการฝึกวินัยอย่างเหมาะสม สุดท้ายเขาก็จะสร้างหายนะและนำหายนะมาสู่โลกในที่สุด

ในความเป็นจริงความล่าช้าในการต่อสู้เว่ยเชียนชิวของเซียวเฉวียนนั้นเป็นเหตุผลที่สอง เหตุผลที่แท้จริงคือ เซียวเฉวียนมิสามารถทนต่อความเอาแต่ใจของพู่กันเฉียนคุนได้ ซึ่งกล้าไปบ้านของคนธรรมดาเพื่อไล่ล่าไก่และสุนัข รบกวนผู้คนให้หวาดกลัว

เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้น เราจักต้องทำอย่างไรต่อไปในอนาคต?

จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากพู่กันเฉียนคุนฆ่าผู้คนโดยมิบอกเขาในอนาคต?

มันมีจิตวิญญาณนึกคิดของตนเองมากเกินไป ทั้งยังเอาแต่ใจตัวเองเกินกว่าที่ไปเซียวเฉวียนจะควบคุมได้!

“ประเดี๋ยวก่อน! นายท่าน!”

"นายท่าน!"

"นายท่าน!"

เสียงทุ้มลึกมาจากที่ไหนสักแห่ง พลางลอยล่องมากับอากาศด้วยความเป็นกังวล

“นายท่าน! พู่กันเฉียนคุนกลัวมากเสียจนเอ่ยพูดออกมาแล้ว!”

ไป๋ฉี่ทั้งสับสนและตกตะลึงไปเช่นกัน ก่อนจะรีบตั้งค่ายกลกีดขวางเพื่อไม่ให้คนนอกได้ยินคำพูดของพู่กันเฉียนคุนในทันที

ค่ายกลที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความเร็วไวของไป๋ฉี่นั้น ถูกคนดวงตาของผู้หนึ่งมองเห็นได้ในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย