เซียวเฉวียนตกใจ ทำไมเหลียงไหวโหรวถึงรู้ละเอียดขนาดนี้?
ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเหรอ?
ถึงยังไง เซียวเฉวียนเองก็ไม่รู้ว่าเซียวจิงมีไฝอยู่ที่ไหนบ้าง
เหลียงไหวโหรวไม่สนใจเขา และพูดต่อ "เซียวจิงชอบเค้กเกล็ดหิมะ หวานและเค็ม เธอดื่มเหล้าฉยงซูที่เจ้ากลั่นได้ครั้งละครึ่งถ้วยเล็กเท่านั้น"
”เธอชอบลูกผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ชายชราขายบนถนนเสวียนอู่มากที่สุด กินสามเสียบไม้ทุกครั้ง กินแล้วท้องเสียทุกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่เลิกกิน”
"บทกวีที่เธอชื่นชอบไม่ใช่ "ตึงเกา" อันโด่งดังของเจ้าในเมืองหลวง ไม่ใช่ "หมั่นเจียงหง" ที่ดังในการร้องครั้งแรกของเจ้า แต่เป็นบทแสงจันทร์ปลายเตียงของเจ้า
เซียวเฉวียนตกตะลึง
"ตึงเกา" และ "หมั่นเจียงหง" นั้นเซียวเฉวียนท่องให้ชาวโลกฟัง ทุกคนก็รู้ ส่วน "จิ้งเยว่ซือ" (คิดคำนึงในคืนสงบ)ของหลี่ไป๋เป็นบทกวีคิดถึงบ้านเกิดที่เซียวเฉวียนท่องเองในวันแรกของเขาที่มายังต้าเว่ย
บทกวีนี้เรียบง่ายและเรียนรู้ได้ง่าย เขาสอนให้เฉพาะเซียวจิงเท่านั้น คนนอกไม่มีทางรู้
“ปลายเตียงจันทร์ส่องแสง หรือน้ำค้างบนดิน เงยหน้ามองแสงจันทร์ ก้มหัวคิดบ้านไกล”
เหลียงไหวโหรวท่องเสียงค่อยๆ "ช่างเป็นบทกวีที่สวยงาม เป็นความรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดอย่างแท้จริง หากบทกวีนี้ถูกแพร่ออกไป มันจะกลายเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงอย่างเป็นอมตะเช่นเดียวกับบทกวีอื่นๆ ของเจ้าอย่างแน่นอน คุณหนูเซียวกล่าวว่าบทกวีนี้เป็นความลับน้อยๆ ระหว่างเจ้าสองคน”
”เซียวเฉวียน ข้าบอกอย่างอื่นเจ้าไม่เชื่อ แต่อันนี้เจ้าเชื่อแล้วใช่ไหมล่ะ”
เหลียงไหวโหรวมองหน้าเขา สายตานั้นแรงเยาะเย้ยน้อยลงไป "ทีนี้ เจ้าคงเชื่อแล้วว่าเซียวจิงเป็นตัวปลอม"
แสงเยือกเย็นส่องออกจากดวงตาของเซียวเฉวียน ดูเหมือนจะฉีกเหลียงไหวโหรวให้เป็นชิ้นๆ เขาคว้าเหลียงไหวโหรวแล้วพูดว่า "เจ้าทำไมถึงรู้ละเอียดได้ขนาดนี้! จิงเอ๋อจะบอกเจ้าได้ยังไง!"
“เจ้าเฝ้าติดตามเธอเหรอ? เจ้าส่งคนมาแอบติดตามเธอตลอดใช่ไหม!”
เหลียงไหวโหรวถูกหิ้วแรงจนแทบจะหายใจไม่ออก "ติดตามไปทำไม? จวนเจียนกั๋วไม่ทำสิ่งที่ด้อยประสิทธิภาพอย่างนั้นหรอก เซียวเฉวียน เจ้าเคยเห็นการลงโทษที่ทารุณในจวนเจียนกั๋วไหม"
ทารุณ?
พวกเขาทำการทารุณเซียวจิงเมื่อไร?
“เมื่อไรที่จวนเจียนกั๋วทำการทารุณ อย่าว่าแต่สาวน้อยอย่างเซียวจิง แม้แต่ผู้ชายแบบเจ้าก็ยังทนไม่ไหว เจ้าลืมไปแล้วหรือ เจ้าลืมว่าตอนนั้นที่เซียนกวีและเซียนยุทธ์เอาตัวเจ้าไปขังในเรือนจำน้ำ เจ้าขอความเมตตายังไง?”
เรือนจำน้ำ?
คิ้วของเซียวเฉวียนกระตุก
”เซียวจิ่งทนความทารุณไม่ได้ เธอก็บอกทุกอย่างจนหมด” เหลียงไหวโหรวตกอยู่ในความบ้าคลั่งอีกหนทั้งหัวเราะเสียงลั่น ไม่รู้ว่าเขาหัวเราะเยาะตัวเองหรือเยาะเซียวเฉวียน “ข้าว่า เจ้าคงคิดไม่ถึง น้องสาวของเจ้าไม่ใช่น้องสาวคนนั้นแล้ว”
”ตอนแรกข้าก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งในโลกที่สามารถเลียนแบบบุคคลอื่นได้อย่างแนบเนียนถึงขนาดที่แม้แต่คนที่ใกล้ชิดที่สุดก็ไม่สามารถแยกแยะของจริงหรือของปลอมได้”
เหลียงไหวโหรวส่ายหัวเหมือนคนบ้าจนผมเผ้ากระเซิงยุ่งเหยิง "ญาติของพวกเจ้า ไม่ใช่ญาติของพวกเจ้าอีกต่อไป แต่เป็นสายลับและไส้ศึกที่เว่ยเชียนชิวส่งเข้ามา ฮ่าๆ! เซียวเฉวียน เจ้าเห็นไหม คนอย่างพวกเราที่มาจากครอบครัวยากจน จะปกป้องใครได้?
ดวงตาของเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเหลือเชื่อ ไม่นะ มันเป็นไปไม่ได้
เหลียงไหวโหรวเหมือนจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นสีหน้าเช่นนี้ เขาเบียดตัวเข้ามา จ้องมองที่เซียวเฉวียนและพูดว่า "เจ้าบอกว่าเจ้าสามารถปกป้องครอบครัวของเจ้าได้ แต่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนในครอบครัวของเจ้านั้นไม่ใช่คนเดิมในครอบครัวของเจ้าแล้ว?"
“เจ้าว่า เจ้ากำลังปกป้องใครกันแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...