"ข้าไม่รู้!"
เหลียงไหวโหรวแทบจะหายใจไม่ออก "แต่ไม่ต้องห่วง พวกเธอยังไม่ตาย!"
หากหญิงของผู้มีอำนาจเหล่านี้ถูกฆ่า เว่ยเชียนชิวจะสูญเสียเบี้ยต่อรอง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อเว่ยเชียนชิวสักนิด
เซียวจิงจะต้องยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง
แต่เหลียงไหวโหรวไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
“ขนาดเจ้ายังไม่รู้เหรอ?” เซียวเฉวียนหิ้วเขาไว้แน่น เหลียงไหวโหรวแม้ตรามู่อวี๋นยังคว้ามาได้ เว่ยเชียนชิวไว้ใจเขาขนาดนี้ ตอนนี้เขาไม่รู้แม้กระทั่งที่อยู่ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ หรือ?
”โขลก...ๆ ๆ !” เหลียงไหวโหรวตีมือของเซียวเฉวียนโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจเขาแทบจะขาด "ข้า...ข้าไม่รู้จริงๆ! มันไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของข้า!"
“งั้นใครรับผิดชอบ!”
”ถ้าข้าบอกเจ้าว่าเป็นใคร เจ้าจะรับปากฆ่าข้าด้วยพู่กันเฉียนคุนเหรอ?”
“ถ้าเจ้าไม่บอก ข้าจะทลายหัวหมูเดี๋ยวนี้เลย! ให้ตายอย่างไร้ศักดิ์ศรียิ่งกว่านี้!”
มีกฎลงโทษพิเศษในราชวงศ์ต้าเว่ย คือ ใช้สันหลังของมีดหนาๆ ฟาดที่หัวตรงๆ ใช้สำหรับผู้รู้หนังสือที่ไม่เชื่อฟังโดยเฉพาะ ชื่อก็สื่อความหมายชัดเจนอยู่แล้ว ทลายหัวหมู
แต่ก่อนนั้นเซียนยุทธ์เคยข่มขู่เซียวเฉวียนว่าจะใช้กฎลงโทษนี้
ผู้รู้หนังสือส่วนใหญ่ที่ตายเพราะทลายหัวหมูนี้ จะรู้สึกอัปยศอดสูมาก และความรู้สึกอัปยศอดสูนี้ทรมานยิ่งกว่าความเจ็บปวดจากการลงโทษเสียอีก
ผู้รู้หนังสือล้วนถือตนมีเกียรติเหนือกว่าผู้อื่น หากตายเพราะทลายหัวหมู นั่นไม่เท่ากับว่าท่านเป็นหัวหมูหรือ?
นี่ยังเป็นหมูที่ได้รับการยอมรับและประทับตราอย่างเป็นทางการอีกด้วย
ทลายหัวหมูเป็นการกดขี่ของชนชั้นผู้มีอำนาจที่มีต่อผู้รู้หนังสือ ผู้มีอำนาจในมือ กระทำต่อผู้รู้หนังสือดูเหมืองเป็นคนเดียว แต่ตามจริงแล้วสมาชิกในครอบครัวผู้รู้หนังสือก็ตกอยู่ในความอัปยศอดสูอย่างลบไม่ออกเช่นกัน
การฆ่าคนทั้งจิตใจ การลงโทษด้วยวิธีทลายหัวหมูนั้นถือเป็นแบบอย่างเลย
”เจ้า...เจ้าทำอย่างนี้ไม่ได้! ฝ่าบาทตรัสไว้แล้ว ประหารชีวิตจากนี้ไปสามวัน! เจ้าจะทำประชาทัณฑ์ เป็นการหมิ่นบรมเดชานุภาพของฝ่าบาท!”
“แล้วทำประชาทัณฑ์กับเจ้าจะเป็นไรล่ะ ฝ่าบาทจะไม่ลงโทษหนักต่อข้า เพราะนักโทษประหารชีวิตอย่างเจ้า”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหลียงไหวโหรวได้เห็นความหน้าด้านของเซียวเฉวียน แต่ตอนนี้เขายังคงเคืองเพราะเซียวเฉวียน "เจ้าเพิ่งกล่าวหาข้าใช้ประชาทัณฑ์! ว่าข้าไม่เกรงกลัว! ว่าข้าไม่มีจิตใจสำนึก!”
“ฮื่อ เจ้าไม่พอใจเหรอ? คิดว่าข้าทำประชาทัณฑ์ไม่ดี เจ้าก็ด่าว่าข้าได้นี่”
“เจ้า ๆ ๆ ๆ ! ข้าเถียงสู้เจ้าไม่ได้!” เหลียงไหวโหรวโกรธมากจนเกาหัวเกาคาง ถึงยังไง เขาก็เป็นแค่ผู้รู้หนังสือ เทียบกับเซียวเฉวียนเจ้าขี้โม้โดยไม่ต้องผ่านสมอง เขายังอ่อนหัดอีกเยอะ
”บอกมาซิ! ใครเป็นคนรับผิดชอบคนปลอม!”
ดวงตาของเซียวเฉวียนดุเป็นไฟ เขาไม่มีเวลาพร่ำเรื่องไร้สาระกับเหลียงไหวโหรวอีกแล้ว
กลิ่นไออาฆาตของเซียวเฉวียนกดดันจนเหลียงไหวโหรวสะดุ้ง เขากลัวจริงๆ ว่าเซียวเฉวียนจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ถึงสามวัน ปากเขาสั่นและพูดทันที "คือ ... มันคือหัวหน้าเอี๋ยนกวนจ้าวอีโต้ว ”
ได้ เซียวเฉวียนรู้แล้ว
“เรื่องนี้ เจ้ามีส่วนไหม?”
น้ำเสียงของเซียวเฉวียนเยือกเย็น ใบหน้าของเหลียงไหวโหรวสั่นเทา
”ฮึ่ม?”
เซียวเฉวียนจ้องมองเขา พ่นคำว่า "ฮึ่ม" ออกมาจากจมูก ทำให้เหลียงไหวโหรวสะท้าน "ข้ามีส่วน...นิดหน่อย"
"นิดหน่อย?"
”ใช่ ๆ ๆ “ เหลียงไหวโหรวพยักหน้าติดๆ “ข้าแค่รู้ว่ามีเรื่องนี้ ข้าไม่ได้มีส่วนร่วม”
สีหน้าเซียวเฉวียนบึ้งขึ้นทันที เหลียงไหวโหรวก้มศีรษะลง "ก็ได้ ข้าเองเป็นผู้นำตัวปลอมมาสลับเปลี่ยนกับตัวเซียวจิง"
ไฟลุกท่วมในดวงตาเซียวเฉวียน เหลียงไหวโหรวรีบโบกมือ "แต่! แต่ว่า! ข้าแค่ส่งตัวปลอมไปถึงจวนเซียว! เซียวจิงอยู่ที่ไหน ข้าไม่รู้จริงๆ! ไม่รู้จริงๆ !"
คลื่นความร้อนพุ่งขึ้นมาในสมองของเซียวเฉวียน ทำให้เขาเวียนหัว "เจ้า... เจ้าเปลี่ยนตัวน้องสาวข้าตั้งแต่เมื่อไหร่?"
เหลียงไหวโหรวก้มหัวลง "ตอนเจ้า... ตอนเจ้า... ถูก... เนรเทศไปที่เกาะจูเสิน"
ในขณะนั้นเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุด
เซียวเฉวียนไม่อยู่บ้าน
บ้านเซียวตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ทุกคนต่างเศร้าโศกไม่ออกจากบ้าน
เวลานั้นเอาคนตัวปลอมเข้าไป เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด
เกาะจูเสิน
นั่นมันเรื่องของหลายเดือนก่อนแล้ว
เซียวเฉวียนหลับตา
น้ำตาก็ไหลออกมาจนได้
ดี ๆ
ทำได้ดีมากจริงๆ
เซียวเฉวียนลืมตาขึ้นและมองไปที่เหลียงไหวโหรวอย่างลอยๆ
“เจ้า...เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้า......จะฆ่าข้าไม่ได้นะ!”
ไม่ทันที่เหลียงไหวโหรวจะพูดจบ หมัดของเซียวเฉวียนก็กระหน่ำลงมาราวกับเม็ดฝน
อาจเจ็บปวดเกินไปจากการถูกตี หรือเหลียงไหวโหรวอาจรู้ตัวว่าเขาสมควรได้รับ เซียวเฉวียนทุบตีเช่นนี้ เขาก็ไม่สู้
เขาพลางทนรับหมัดที่ชกใส่มา พลางหัวเราะเสียงลั่นอย่างบ้าคลั่ง!
ในชีวิตที่เหลือได้เห็นเซียวเฉวียนเกรี้ยวกราดถึงขนาดนี้ ถึงตายก็คุ้มแล้ว!
ด้วยวิธีนี้ เหลียงไหวโหรวจะได้รู้สึกว่า เซียวเฉวียนก็เป็นเหมือนอย่างเขา มีห้วงเวลาที่ต้องหมดเรี่ยวสิ้นแรงถึงขนาดนี้!
เซียวเฉวียนยังคงเงียบและต่อยเหลียงไหวโหรวที่หน้าด้วยหมัดทีละหมัด!
หนึ่งหมัด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...