ดาบเฉิง เป็นดาบที่ใช้เลือดเนื้อของคนในการฝึกฝนเพื่อที่จะได้มา ใช้เลือดเนื้อฝึกพละกำลังให้อยู่ภายในดาบ จิตวิญญาณจะต้องถูกฝังไว้อยู่ภายใน
ดังนั้นดาบเฉิงได้รับการขนานนามว่าเป็นดาบต้องห้ามลำดับที่หนึ่ง นอกจากจะเป็นเพราะต้องใช้ชีวิตของคนๆหนึ่ง อีกอย่างก็เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่มีเหตุผลที่ต้องฝังจิตวิญญาณของคนเอาไว้
คนยุคโบราณใส่ใจกับการฝังลงดินถึงจะเรียกว่าสงบสุข คนๆหนึ่งตาย ก็ควรจะฝั่งกลบลงดินนอนอย่างสงบสุข มาพูดกระซิบข้างหูเจ้าทุกวันๆ ใครจะสามารถทนได้ละ?
เซียวเฉวียนทนไม่ได้
ถึงแม้ว่าพู่กันเฉียนคุนจะไม่ได้ใช้เลือดเนื้อของเฉาเชา แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน เป็นเพราะเทพเฉาเชาถูกกักขังอยู่ที่นี่ สิ่งที่แย่มากก็คือ เขายังสามารถพูดได้!
ดาบเฉิงเล่มนี้ คุณสมบัติพื้นฐานก็เหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน!
ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า เซียวเฉวียนคงจะถูกตัดหัวในทันที เขาไม่กล้าที่จะโยนพู่กันเฉียนคุนทิ้ง รีบหยิบเก็บโดยเร็ว และขอร้องว่าอย่าพูด อย่าพูด!
“ห๊ะ?นายท่าน ไม่ทิ้งแล้ว?”
ไป๋ฉี่ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา เซียวเฉวียนโบกมือไม่ได้ จะทิ้งได้ยังไง รีบไปเอามาเก็บไว้ให้ดี!
เซียวเฉวียนขยับตัวรวดเร็ว รีบจับพู่กันเฉียนคุนไว้ กลับไปที่ตระกูลเซียว
“เอ๊ะ?นี่ก็ไม่มีแล้ว?ห๊ะ?”
ผู้คนที่อยู่ที่หอปี๋เซิ่งรู้สึกผิดหวังวางตะเกียบลง ครั้งนี้จวนเซียวต่อสู้กันภายใน ไป๋ฉี่ชนะ หรือว่าหลี่มู่ชนะละ?
“ไม่สนไม่สน!ไม่สนแล้วว่าใครจะชนะ!มาพวกเรามาดื่มกันก่อน!”
เหล่าบรรดาคนขี้เหล้าก็เพียงแค่หาข้ออ้างเพื่อดื่มเหล้า ในเมื่อตอนนี้ไป๋ฉี่และหลี่มู่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่าใครชนะ งั้นทุกคนดื่มกันทั้งหมด!
“มามามามา!เติมให้เต็ม!เติมให้เต็ม!”
“ดื่มดื่มดื่มดื่ม!”
“เหอะ” ดูท่าทางเซียวเฉวียจะไม่สนุกด้วย ดวงตาของเซียวเฉวียนนิ่งสงบเปล่งประกาย หันหลังกลับ เบนหน้าและเดินเข้าไปในห้อง
“คุณหนู คุณหนู?” ชิงกั่วยังไม่ทันได้เรียกสติกลับคืนมา เซียวเฉวียนก็เข้าไปแล้ว ชิงกั่วมีสีหน้าสงสัย คุณหนูอยู่ดีๆทำไมถึงดูไม่มีความสุข?
ภายในห้องหนังสือของจวนเซียน
เซียวเฉวียนให้ไป๋ฉี่ทำฉากกั้นขึ้นมา ยิ่งหนาเท่าไรยิ่งดี ชั้นเดียวไม่พอ ต้องเพิ่มอีกหนึ่งชั้น
เซียวเฉวียนเอาพู่กันเฉียนคุนวางไว้บนโต๊ะ :“เฉาเชา!ทำไมเจ้าถึงดื้อรั้นอย่างนี้?ทำไมเจ้าถึงไปก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้านของประชาชนทั่วไปด้วย!ทำไมจะต้องยื้อเวลาไม่ให้ข้ากับเว่ยเชียนชิวได้เจอกันด้วย?”
“เจ้านาย ข้าโดนใส่ร้าย!”
น้ำเสียงดังและหยาบกระด้างของโจโฉ มีความรู้สึกเสียใจเล็กน้อยออกมา
“เจ้ายังกล้ามีหน้ามาบอกว่าเสียใจ?” ถ้าไม่เป็นเพราะเห็นว่าเจ้าโจโฉ นั่นเป็นฮ่องเต้ที่มีชื่อเสียงของฮว๋าเซี่ย เซียวเฉวียนไม่สามารถฆ่าคนดื้อรั้นเช่นนี้ได้?
“งั้นเจ้าลองพูดมา เจ้าโจโฉรู้สึกเสียใจอะไร?”
“และอีกอย่างทางที่ดีเจ้าอธิบายให้ข้าเข้าใจ ในเมื่อเจ้าสามารถพูดได้ ทำไมวันนี้เพิ่งจะพูด?หรือว่าอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ว่า ข้าเซียวเฉวียนทำผิดต่อข้อห้ามลำดับที่หนึ่ง?
ห๊ะ?เจ้าไม่พอใจข้าก็มาสู้กับข้าสิ ทำไมเจ้าต้องทำร้ายข้าอย่างนี้ด้วย?”
เซียวเฉวียนโกรธอย่างมาก แต่ว่า เมื่อคิดว่าเขากำลังสั่งสอนโจโฉ และเชาเฉาที่เป็นฮ่องเต้แต่กลับเชื่อฟังคำสั่งสอนของคนธรรมดา ความรู้สึกที่เหนือกว่าของลูกผู้ชาย เพิ่มขึ้นอย่างแปลกๆอธิบายไม่ได้
“เจ้านาย ข้าโดนใส่ร้ายจริงๆ”
น้ำเสียงของโจโฉร้อนร้นเต็มไปด้วยความน้อยใจเสียใจ
ที่จริงแล้ว โจโฉไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่พูด แต่ว่าวันนี้เพิ่งจะสามารถพูดได้
หลังจากที่โจโฉถูกฆ่าตาย ที่จริงแล้วจิตวิญญาณของเขาก็ต้องแตกสลายไป เขาล่องลอยอยู่ภายใต้หมอกสีดำ ที่แห่งนั้นไม่มีกาลเวลา มองไม่เห็นภาพหรือคนแม้แต่นิดเดียว
โจโฉอยู่ภายใต้กลุ่มก้อนหมอกนั้นล่องลอยไป เขาคิด บางทีนี้ก็อาจจะเป็นภาพบรรยากาศหลังความตาย
ร่างกายของเขาเบามากๆ เขาดูเหมือนจะจำอะไรไม่ได้
เขาจำได้เพียง เจ้านายกวีผู้โง่เขลาของเขาฆ่าเขา
ดาบของเจ้านายคมกริบ รวดเร็วมาก ดาบปาดลงคอของเขา
เขาไม่กล้าที่จะตำหนิเจ้านายที่โหดร้ายลงมือฆ่าเขา ที่จริงในใจเขาซาบซึ้งกับคำพูดของเซียวเฉวียนจริงๆ
ดวงจิตวิญญาณของโจโฉลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับจดจำคำพูดก่อนที่จะตายได้อย่างชัดเจน คนที่มองเห็น
สายตาในตอนนั้นของเซียวเฉวียนเป็นประกาย :“เจ้ายอมรับข้าเป็นเจ้านายเถอะ เจ้าเป็นคนเก่ง ไม่ควรที่จะเป็นแค่ผู้อารักขา เจ้าเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญ เป็นวีรบุรุษที่ใน
อนาคตจะมีคนเคารพชื่นชมเป็นหมื่นคน......”
“เจ้ายอมรับเจ้านายกวีผู้โง่เขลาเป็นเจ้านาย แน่นอนว่าก็ต้องมีอะไรบ้างอย่างที่ไม่พอใจ เพราะว่า......”
เซียวเฉวียนมองเข้าไปในดวงตาของเขา:“จิตใจของเจ้าลึกล้ำ คิดเหมือนกับสิ่งที่ข้าคิด แน่นอนจะต้องมีเสียงๆหนึ่งกำลังเรียกหาเจ้า มองมาที่เจ้ากวักมือเรียกเจ้าไม่หยุด พูดกับเจ้าว่า เจ้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าเป็นวีรบุรุษ เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ใช่หรือไม่?”
โจโฉยังจำได้ว่าตอนนั้นตัวเองยังตกตะลึงประหลาดใจ:“เจ้า......”
“มีเพียงข้าที่เข้าใจเจ้า ” เซียวเฉวียนตบไหล่เขา “มีเพียงข้า ที่จะสามารถทำให้เจ้ากลายเป็นคนอย่างนั้นได้ มีเพียงข้า ที่จะสามารถทำให้เจ้าจากที่เป็นผู้อารักขา และกลายเป็นผู้นำกองทัพได้”
ดวงตาของโจโฉเป็นประกาย ใช่ ในใจของเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ......
เขาคิดว่า ตัวเองเป็นฮ่องเต้
เขาจะเป็นฮ่องเต้ในอนาคต!
เขาวางกลยุทธ์!
ต้องการความฉลาดไหวพริบก็มีความฉลาดไหวพริบ!
ต้องการความสำเร็จก็มีความสำเร็จ
เขาไม่ควรจะเป็นแค่ผู้อารักขาเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...