ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 593

จวนเจี้ยนกั๋ว

“ฮ่าๆๆๆ!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”

เสียงหัวเราะเบิกบานใจของใครหลายคนดังขึ้นมาต่อเนื่อง

“เจ้าไม่ได้เห็นไป๋ฉี่คนนั้นยืนอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน หลักฐานกองเป็นพะเนินปานนั้น ได้ยินมาว่าคิดอยากจะคว่ำจวนเว่ยเจี้ยนกั๋วของพวกเรา!”

“จิ๊ๆๆ ช่างเป็นผู้ไม่ประมาณกำลังเอาเสียเลย!”

“ฮ่าๆๆๆๆ! สองนายบ่าวนี่ล้วนโง่นัก! แต่ว่า ได้ยินมาว่าเซียวเฉวียนพอหายดีแล้วก็ไปก่อเรื่องพลิกฟ้าคว่ำดินที่จวนจ้าวมา!”

“ดีแล้วจะอย่างไรล่ะ! ใครจะไปรู้เขาอาจจะป่วยขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้!”

เหล่าองครักษ์กลุ่มหนึ่งหน้าประตูจวนเจี้ยนกำลังซุบซิบนินทา สำหรับพวกเขาแล้ว เรื่องของเซียวเฉวียนล้วนเป็นเรื่องตลกทั้งสิ้น

พวกเขาไม่ได้มีตำแหน่งในสังคมสูงเท่ากับเซียวเฉวียน และไม่ได้มีตำแนห่งขุนนาง แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งมิให้พวกเขาพูดล้อเลียนอดีตลูกเขยของจวนฉินรายนี้ได้ แถมตอนนี้ยังเป็นลูกเขยแต่งเข้าของแคว้นซินเจียงด้วย

“บังอาจ!”

เสียงตวาดอ้อแอ้เสียงหนึ่งดังขึ้น “หัวเราะอะไรดังปานนี้ กระทบเวลาอ่านหนังสือของจวิ้นอ๋อง! ควรรับโทษเช่นใด!”

เหล่าองครักษ์ตกใจจนต้องหันศีรษะกลับ เพียงได้เห็นเว่ยเป้ยถือหนังสือเล่มหนึ่งไว้ในมือ สีหน้าของเขาไม่มีแววยินดีเลยสักนิด นางกำนัลข้างกายของเขาเห็นสีหน้าเจ้านายไม่ดี ก็ตวาดซ้ำอีกครั้ง สั่งสอนจนพวกองครักษ์ไม่กล้าเงยหน้า

“พอละ” เว่ยเป้ยที่รู้สึกว่าหนวกหูเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “อีกหน่อยอย่าให้ข้าได้ยินชื่อเซียวเฉวียนในจวนหลังนี้อีก ไม่อย่างนั้น จะฆ่าเสียให้เรียบ”

เว่ยเป้ยนั้นย่อมไม่อาจจะสังหารใครได้ แต่ในเมื่อมีนามของบิดาแท้ๆ อยู่ตรงนี้ ย่อมมีอิทธิพลเป็นที่สุด ดังนั้นเพียงแค่เว่ยเป้ยเอ่ยเบาๆ ประโยคหนึ่ง เหล่าองครักษ์เหล่านั้นก็ตกใจจนต้องก้มหน้าลง “ขอรับๆๆ! อีกหน่อยพวกข้าน้อยไม่กล้าเอ่ยวาจามากความแล้ว! จะไม่ให้ไปกระทบจวิ้นอ๋องแน่!”

“ไปเถอะ”

ไม่ใช่ว่าเว่ยเป้ยไม่อยากได้ยินคำว่าเซียวเฉวียนสองคำนี้ เขาเพียงแค่ไม่ชอบที่คนโบราณพวกนี้เย้ยหยันหมิ่นหยามเซียวเฉวียน

แม้จะทะลุมิติมายังต้าเว่ยเหมือนกัน แต่ชะตาของเซียวเฉวียนอาภัพกว่าเล็กน้อย

เว่ยเป้ยมาอยู่ที่นี่หลายขวบปี กลายเป็นจวิ้นอ๋องที่สูงส่งเหนือใคร เว่ยเป้ยได้มีความทะนงและเวทนาสงสารในแบบที่ผู้มีอำนาจสูงศักดิ์พึงมีโดยไม่รู้ตัว

ทว่า ก็เป็นแค่เล็กน้อยเท่านั้น

เหล่าองครักษ์ทั้งหลายที่ล่าถอยออกไปทำหน้าคล้ายเห็นผีก็ไม่ปาน ภายในใจหวาดหวั่น จวิ้นอ๋องเว่ยเป้ยผู้นี้ยามปรกติแล้วเป็นมิตรสนิทสนมด้วยง่าย นิสัยไม่เหมือนกับเจี้ยนกั๋วเลย เหตุใดวันนี้จึงดุปานนี้ หรือว่าเริ่มมีบุคลิกแบบเจี้ยนกั๋วหลายส่วนแล้ว?

“ก็ไม่แปลกหรอก ท่านว่านโหลวเป็นอาจารย์ที่สอนจวิ้นอ๋องมาแต่เล็ก เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าเรื่องคดีของขุนนางบุ๋นแปดคนในเทศกาลจงชิว เซียวเฉวียนฆ่าว่านโหลวทิ้ง จวิ้นอ๋องจะไม่โกรธได้อย่างไร?”

“ตอนนี้ใกล้จะสอบเค่อจวี่แล้ว อาจารย์ไม่อยู่ ตัวจวิ้นอ๋องคงจิตใจร้อนรนอยู่เล็กน้อย”

“อืมๆ ถ้าอย่างนั้นอีกหน่อยคงไม่อาจจะพูดถึงเซียวเฉวียนได้แล้ว”

เหล่าองครักษ์พึมพำก่อนจะล่าถอยไป พวกเขาไฉนเลยจะรู้ เว่ยเป้ยนั้นเป็นถึงอาจารย์สอนเคมี แถมยังจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยชั้นยอดด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศจีนอีกด้วย

เขาจะไปต้องการคำสั่งสอนจากว่านโหลวได้อย่างไร

กลับกันแล้ว เขาเกลียดชังระดับการสั่งสอนของว่านโหลวเป็นอย่างมาก ในยุคปัจจุบันเว่ยเป้ยเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง หากจะถกเรื่องการสอนหนังสือ เว่ยเป้ยนับเป็นชั้นหนึ่ง

หากมิใช่ว่าต้องการปกปิดตัวตน เขาคงไม่ยอมไปกระทั่งสำนักศึกษาชิงหยวนด้วยซ้ำ

ตอนนี้สำนักศึกษาชิงหยวนนั้น มีเว่ยอวี๋เป็นผู้นำ ความรู้ที่สอนก็เป็นแค่ระดับชั้นประถม สำหรับคนโบราณแล้วก็พอไหวอยู่

ทว่าสำหรับเว่ยอวี๋แล้ว นับว่าน่าเบื่อเป็นที่สุด

แต่ว่าต่อให้เบื่อแค่ไหนเขาก็จะไป

ได้ยินมาว่าวันนี้เว่ยอวี๋เป็นผู้สอนด้วยตนเอง ต้องการสอนบวกลบคูณหาร

อา เวรกรรมแท้ เซียวเฉวียนเลือกเว่ยอวี๋ ระดับของเขาต่ำเสียจนเว่ยเป้ยอยากจะขึ้นไปสอนด้วยตนเอง

ตอนนี้เว่ยเป้ยไม่เพียงขึ้นไปสอนไม่ได้ แต่ยังต้องมองหน้าเว่ยอวี๋ด้วยสีหน้า ว้าว สอนได้ยอดเยี่ยม!

หลังจากนั้นเว่ยเป้ยยังต้องแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ทำหน้าประจบเข้าไปขอให้สอน ยิ่งเว่ยอวี๋พี่ชายผู้นี้เขายิ่งเห็นแล้วขัดตาอยู่ด้วย 300 หารด้วย 30 เหตุใดจึงเหลือแค่ 1 กันล่ะ?

พ่อ*** นี่หากให้นักเรียนในยุคปัจจุบันของเขารู้เข้า ตัวเขาเว่ยเป้ยยังจะมีหน้าเหลืออยู่ที่ไหน?

“จวิ้นอ๋อง เตรียมรถดีแล้ว มุ่งหน้าไปสำนักศึกษาชิงหยวนกันเถอะ”

“อืม”

นางกำนัลพยุงตัวเว่ยอวี๋ขึ้นรถม้า นัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาจับจ้องสองนายบ่าวเดินทางห่างออกไป จากนั้นเขาหมุนตัวจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย