สรุปตอน บทที่ 594 มีปมในใจ – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 594 มีปมในใจ ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
อาเซียงไม่เข้าใจ สัญญาเลือดได้ถูกกำจัดไปแล้ว เซียวเฉวียนก็ยังไม่ชอบคุณหนู ทั้งสองคนอยู่ในสถานะภาพที่ดีที่สุดในตอนนี้ ทำไมคุณหนูยังจะไปหาเรื่องเซียวเฉวียนอีก?
ถึงแม้ว่าแม่ฉินจะตายไป ก็เพราะเว่ยเจียนกั๋วเป็นคนยุยงบงการ แต่เรื่องนี้ก็ยังมีฉินเฟิงเป็นเสาหลักอยู่ไม่ใช่หรือ?
ถ้าไปพูดคุยปรึกษา แม่ทัพฉินกับเซียวเฉวียนก็ได้ปรึกษพูดคุยกันเรียบร้อยดีแล้ว ไม่ต้องให้ผู้หญิงอย่างองค์หญิงต้องเป็นคนลงมือทำเอง?
“องค์หญิง.......ตอนนี้ท่านยังมีความผิดติดตัวอยู่ องค์หญิงใหญ่ประชวนและสวรรตคต องค์ชายใหญ่ถูกไทเฮาเรียกตัวกลับมาจากรัฐไป๋ลู่แล้ว ครั้งนี้องค์ชายใหญ่กลับมาที่เมืองหลวง ไทเฮาจะต้องไม่ให้เขากลับไปอีกแล้ว จวนฉินมีผู้ชายอยู่ ท่านเป็นผู้สูงส่ง ทำไมจะต้องไปด้วยตัวเองด้วย”
ที่อาเซียงพูดออกมา ที่จริงแล้วก็เพื่อฉินซูโหรว นางติดตามองค์หญิงมาหลายปีแล้ว รักองค์หญิงเหมือนดั่งพี่น้องแท้ๆของตัวเอง
นายท่านคนก่อนหน้านี้ของเซียวเฉวียนมีนิสัยเฉพาะตัวอย่างมาก แข็งแกร่งอย่างนี้ ไม่ได้เป็นนายท่านคนเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ที่เพิ่งจะเข้ามาที่จวนฉินอีกแล้ว องค์หญิงอย่างท่านจะไปข่มขู่เขาได้อย่างไร?
ถ้าองค์หญิงยังไปยั่วโมโหเซียวเฉวียนอีก จะต้องทนไม่ได้หนีไปแน่ๆ ตอนนี้ที่จวนฉิน ฉินปาและแม่ฉินก็ตายไปแล้ว คนในตระกูลฉินเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่สามารถทนรับความทรมานได้อีกต่อไปแล้ว
“อาเซียง เจ้าชักจะพูดมากเกินไปแล้ว”
ฉินซูโหรวไม่ค่อยพอใจจ้องมองนาง ในดวงตามีความเฉยเมยและเย็นชา องค์หญิงไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว อาเซียงรู้สึกตกใจรีบก้มหน้าลง:“ข้าน้อยพูดมากไป เชิญองค์หญิงลงโทษข้าเถิด”
“ข้า......” ตอนนี้ฉินซูโหรวพูดมากจนรู้สึกเวียนหัว แต่ดวงตาที่เย็นชาของเธอไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว :“ข้าทำลายจุดตันเถียนแล้ว ตามสัญญา หลังจากนี้เซียวเฉวียนและข้าไม่มีสัญญาเลือดที่เกี่ยวข้องกันอีก เขาจะสามารถปกป้องคุ้มครองตระกูลเซียวได้”
“ตอนนี้ข้าทำได้แล้ว.......ถ้าหาก เขาไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญา?”
เซียวเฉวียนเป็นคนรักษาคำพูด ในเมื่อให้คำสัตย์สัญญาต่อฉินซูโหรวแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องทำตามคำมั่นสัญญา
แต่ว่า นี้ก็เป็นแค่การแลกเปลี่ยน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึก
เซียวเฉวียนจะต้องปกป้องคุ้มครองจวนฉิน แต่นี่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉินซูโหรว เพราะว่าเซียวเฉวียนและฉินเซิงทำการแลกเปลี่ยนกัน
ฉินซูโหรวคิดว่าเซียวเฉวียนจะปกป้องคุ้มครองจวนฉิน เธอจะพูดจาไม่ดีโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นั้นเป็นความคิดที่ผิดจริงๆ
ตอนนี้ฉินซูโหรวทั้งน่าสงสารทั้งเกลียดชัง อย่างน้อยในสายตาของอาเซียงนางเป็นแบบนั้น
องค์หญิงฉลาดอย่างนี้ เหตุผลอะไรก็เข้าใจได้หมด แต่ตอนนี้เธอต้องการเข้าไปร่วมด้วย เพียงแค่คิดว่าอยากจะติดต่อกับเซียวเฉวียนก็แค่นั้น
ไปทำอะไรแล้วละ?
ในใจของอาเซียงคิดแบบนั้น แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป ทำได้เพียงอยู่ข้างหลังของฉินซูโหรว ก้มหน้าและตามไป
ลมในฤดูใบร่วงพัดผ่าน ที่ต้าเว่ยฤดูใบร่วงจะมีฝนมาก ท้องฟ้าที่มืดครึ้มเหมือนกับพายุฝนกำลังก่อตัวขึ้น
ฮ่องเต้ได้อนุมัติให้เซียวเฉวียนลาป่วยได้หนึ่งเดือน ตอนนี้เซียวเฉวียนดีขึ้นมากแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องขอลาอีกแล้ว พรุ่งนี้เขาจะต้องเข้าไปที่ท้องพระโรงในราชสำนัก
ป่วยมายี่สิบวันแล้ว หนวดเครายาวเหมือนเส้นใยของข้าวโพด
เซียวเฉวียนโกนหนวดเคราก็ไม่โกนให้ดี คนอื่นใช้มีดโกนโกนเครา เขากลับใช้ดาบจิงหุนมาโกนเครา
ทำให้เหมิงเอ้าตกใจอยู่ข้างๆค่อยจ้องมองอยู่ :“นายท่าน ระวังหน่อย !ระวังหน่อย!”
เซียวเฉวียนไม่ได้ตั้งใจที่จะแกล้งทำ แต่หลังจากที่หายป่วยแล้ว พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก หยิบมีดโกนเล่มยาวก็เบาเหมือนกับว่าไม่ได้หยิบอะไร ควบคุมระดับพลังได้ยาก
แต่ดาบจิงหุน กลับใช้ได้คล่องมืออย่างมาก
เหมิงเอ้าเหงื่อออกเต็มหน้า ดาบจิงหุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองหลวง ทุกคนอยากมีไว้ครอบครอง ทุกคนไม่สามารถร้องขอได้ เพราะว่าฮ่องเต้และศาลาคุนหวู่ได้ตัดขาดการหล่อสร้างดาบจิงหุนไปแล้ว ตอนนี้เป็นดาบที่ล้ำค่า แต่นายท่านกลับเอามาโกนเครา เกินไปแล้ว ทำเกินไป!
“หล่อแล้ว!”
เซียวเฉวียนที่โกนเคราเสร็จเรียบร้อยส่องกระจก เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น “ข้านี่หล่อจริงๆ”
“อาสิบหกล่ะ?ทำไมตลอดทั้งวันไม่เห็นอาสิบหกเลย?”
เซียวเฉวียนเหลือบสายตามอง โดยปกติเวลานี้ อาสิบหกจะมารายงานสถานการณ์ความปลอดภัยของจวนเซียว ที่ผ่านมาเขาตรงต่อเวลาเสมอ ทำไมวันนี้ถึงมาสาย?
“นายท่าน อาสิบหกอาจจะโกรธอยู่
วันนี้เหมิงเอ้าเห็นสีหน้าของอาสิบหกไม่ค่อยดีนัก เข้าไปทักทายด้วยความเป็นห่วง เมื่อเข้าไปถาม ก็พึ่งรู้ว่าฉินเฟิงกลับมาแล้ว
“ฉินเฟิง?”
“ฝนใกล้จะตกแล้ว ให้ชิงกั่วรีบเอากระเบื้องเคลือบและก้อนอิฐไปปูเพิ่มให้เต็มหลังคา”
เซียวเฉวียนชี้ไปที่มีรอยรั่วที่อยู่บนหลังคาทั้งสี่ทิศทาง พูดสั่งกำชับ:“ไม่อย่างนั้นคืนนี้ ห้องโถงหลักคงจะถูกน้ำท่วมแน่นอน”
ไม่พูดยังจะดีกว่า เมื่อพูดแล้วเหมิงเอ้ารู้สึกเสียดายเงิน เขาพูดบ่นพึมพำเบาๆ:“นายท่านต่อสู้กับพู่กันเฉียนคุนก็สู้ไป ทำไมต้องมาต่อสู้กันในบ้านของตัวเองด้วย กระเบื้องเคลือบมีราคาแพงมาก”
เฮ่อ?
เซียวเฉวียนตาโต เหมิงเอ้าเป็นถึงเทพสงคราม เฮ่อ?แต่กลับมาคิดเล็กคิดน้อยกับเขาด้วยเรื่องไม่สำคัญพวกนี้?
“ห้องหนังสือชิงหยวนใช้เงินมากมาย ทุกคนที่มาอ่านหนังสือสามารถรับเงินได้ ถึงแม้พวกข้าจะหาเงินได้มาก แต่ก็ใช้ไปมากด้วยเช่นกัน นายท่านไม่ได้เป็นคนดูแลบ้าน!”
เหมิงเอ้าก็ไม่ยอมปล่อยเซียวเฉวียนไป ดูเหมือนคำพูดเหล่านี้จะเก็บไว้ในใจมานานแล้ว
“งั้นถ้าข้าไม่ต่อสู่ที่บ้านของตัวเอง ข้าจะไปต่อสู้ที่ไหน?ถ้าข้าไปต่อสู้ที่บ้านของคนอื่น ทำหลังคาบ้านของคนอื่นพัง ก็ต้องชดใช้เหมือนกัน?”
เซียวเฉวียนไม่รู้จะทำอย่างไรกุมขมับ ให้ตายสิ ข้าเป็นปัญญาชนที่ดีคนหนึ่ง สุดท้ายรับเหมิงเอ้าคนนี้มาเป็นผู้อารักขาค่อยดูแลบ้าน
“หลังคาบ้านคนอื่นทำจากกระเบื้องเคลือบธรรมดาทั่วไป ราคาไม่แพง......”
เหมิงเอ้าพูดเสียงเบา ทำให้เซียวเฉวียนทั้งโมโหทั้งหัวเราะ:“เจ้านี่ช่างคิดคำนวนจริงๆ”
“พอใช้ได้อยู่” เหมิงเอ้าจะคิดซะว่านี่เป็นคำชมก็แล้วกัน จึงพยักหน้ารับ
“ข้าว่าเจ้าคงจะว่างเกินไปแล้ว!” เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว จ้องมองเขาอย่างจริงจัง:“ข้าเคยพูดกับไป๋ฉี่แล้ว หลังจากนี้เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่สำคัญมากเจ้าไม่ต้องจัดการ!ถ้าข้าไม่จัดการ แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะจัดการได้?”
เหมิงเอ้าชะงักเล็กน้อย อ๊า ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรละ?เจ้าไม่จัดการแล้วใครจะจัดการละ?
“เหมิงเอ้า เจ้าไม่ควรต้องจัดการเรื่องพวกนี้” เซียวเฉวียนพูดออกไป : “ข้าไม่ต้องการให้เป็นเพราะข้าที่บอกให้เจ้าค่อยเฝ้าดูแลจวนเซียวเพียงชั่วคราว ทำให้พวกเจ้าต้องยุ่งวุ่นวายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ สนามรบของพวกเจ้าไม่ใช่ที่นี่ ”
“ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่นายท่านพูด” ทันใดนั้นเหมิงเอ้าหันหน้ากลับมา หันหลังพูดกับเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนตกตะลึงเล็กน้อย ทำไมต้องโมโหด้วยละ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...