ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 600

สรุปบท บทที่ 600 จะต้องเป็นเขา: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 600 จะต้องเป็นเขา – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 600 จะต้องเป็นเขา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไม่.......ต้อง......พูด......มาก?

เฉาสิงจืออ้าปากพูด ไม่ต้องพูดมาก!

ที่ต้าเว่ย ตำแหน่งอาชีพครูฝึกเป็นเกียรติอันสูงสุด ได้เป็นอาจารย์สอนให้กับฮ่องเต้

อาชีพอาจารย์ของฮ่องเต้จะต้องเป็นคนที่เก่งและดีที่สุด จะต้องมีความรู้อย่างแท้จริง มีจิตใจที่กล้าแกร่ง สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี

ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันของต้าเว่ย ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ก็ฉลาดและมีความอุตสาหะ มีความสามารถ นักเรียนคนอื่นล่ำเรียนหนังสือมาเป็นสิบปี ท่านทรงเรียนเพียงห้าปีก็เรียนสำเร็จหมดแล้ว และเข้าใจอย่างลึกซึ้งกว่าใครๆ ถ้าท่านไม่ใช่ว่าฮ่องเต้ ทรงตรัสว่าเจ้าฉลาดสมกับเป็นอัจฉริยะ

แต่เพราะว่าท่านเป็นฮ่องเต้ ดังนั้นไม่ว่าเจ้าจะเก่งมากแค่ไหนก็สมควรแล้ว แน่นอนว่าทุกคนคงมองข้ามความเก่งของฮ่องเต้ไป

อาจารย์คนก่อนของฮ่องเต้ก็คือเหวินฮั่น และก็เป็นอาจารย์ของเซียวเฉวียนด้วย เซียวเฉวียนกับฮ่องเต้อยู่ในรุ่นเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เซียวเฉวียนจะมาเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ได้อย่างไรละ?

อย่างนี้ก็เหมือนกับไม่รู้ที่ต่ำที่สูงสิ?

ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจะเก่งฉลาด สิ่งนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ ที่ต้าเว่ย คำกวีของเซียวเฉวียนถ้าอ้างว่าเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษข้อสอบขุนนางระดับเคอจี่ของเขา หรือหลังจากนั้นเพลงบทกวีทั้งหมด หรือเมื่อตอนที่ประชันกลอนที่มีคุณค่า ทุกบทกวีทำให้คนตามเขาไม่ทัน

แต่ชื่อเสียงของเซียวเฉวียนนั้นแย่มาก

มาเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ ไม่ใช่ว่ามีความสามารถอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วเท่านั้น

อาจารย์ของฮ่องเต้ จะต้องมีความประพฤติที่สูงส่ง และเป็นคนที่มีชื่อเสียงใสสะอาดบริสุทธิ์

ภายในหนึ่งปีนี้เซียวเฉวียน ทั้งค้าขาย ทั้งต่อสู้ และยังถูกเนรเทศด้วย มีปัญญาชนที่เก่งคนไหนที่มีชื่อเสียงเลืองลืออย่างเขา?

ชื่อเสียงของเซียวเฉวียนไม่ธรรมดา จะบอกว่าแย่ก็ไม่ได้ ต้องบอกว่าแย่อย่างมากที่สุด!

คนๆหนึ่งมีชื่อเสียงแย่ขนาดนี้ ต่อไปจะต้องเป็นตัวถ่วงทำให้พระองค์โดนผู้คนตำหนิติเตียนได้

เฉาสิงจือมีความคิดกังวล กฏระเบียบไม่สามารถปรับเปลี่ยนนั่นก็เพื่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้ท่านทำไมจึงไม่เข้าพระทัย?

“ข้าคิดไม่ถึงว่า ใต้เท้าเฉาที่ชื่นชมคนที่มีความสามารถ แต่ไหนแต่ไรชื่นชมเซียวเฉวียนอย่างมาก แต่วันนี้กลับมีท่าทีรังเกียจเขา ไม่น้อยไปกว่าคนอื่น”

เฉาสิงจือสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ยิ้มทำอะไรไม่ถูก ค่อยๆส่ายหน้า:“ข้าน้อยชื่นชมคนมีความสามารถ แต่ยิ่งต้องภักดีปกป้องพระองค์ ขอพระองค์ทรงคิดทวบทวนอีกครั้งพระเจ้าค่ะ”

เขายังไม่ทันพูดจบ ฮ่องเต้กลับพูดอย่างหนักแน่นว่า:“เขานั่นและ”

เฉาสิงจือให้คำแนะนำอย่างจริงจังต่างๆมากมาย ไม่เป็นมีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย

ใช่ ข้าเลือกเซียวเฉวียนแล้ว

ในตอนนั้น ฮ่องเต้ได้เห็นลักษณะนิสัยของอี้อู๋หลี่ อี้อู๋หลี่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นจะเงียบขรึม ไม่ชอบพูดคุยกับคนอื่น

อี้อู๋หลี่อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้องค์ก่อน ดูเป็นชายหนุ่มมีจิตวิญญาณกล้าหาญ ข้าและฮ่องเต้องค์ก่อนหารือเกี่ยวกับเรื่องของประเทศชาติ หารือกับฮ่องเต้องค์ก่อนเกี่ยวกับข้อเสียและอนาคตข้างหน้า

ฮ่องเต้องค์ก่อนยอมรับและเชื่อใจอย่างมาก

ในปีนั้นที่ฮ่องเต้ยังทรงพระเยาว์ ก็ถูกคำพูดที่ดึงดูดของอี้อู๋หลี่ที่อธิบายถึงโลกในอนาคต

อย่างไรก็ตาม อี้อู๋หลี่ได้ตายจากโลกนี้ไปเร็วเกินไป รอจนกระทั่งตอนที่ฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เขาก็ไม่อยู่แล้ว ฮ่องเต้รู้สึกเสียพระทัยมาตลอด

ตอนนี้ พระเจ้าได้ให้โอกาสกับต้าเว่ยอีกครั้งหนึ่ง ส่งเซียวเฉวียมาให้

ฮ่องเต้จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน

นอกจากฮ่องเต้และเว่ยเชียนชิวแล้ว น้อยคนมากที่รู้ว่า เซียวเฉวียนมาจากฮว๋าเซี่ย

ที่จริงฮ่องเต้รู้มานานแล้ว หลังจากตอนนั้นที่พระราชวังจัดงานเลี้ยง และเว่ยอวี๋ถูกวางยาจนตาย ก็ถูกคนฮว๋าเซี่ยเอาตัวไป

ตอนแรก ฮ่องเต้รู้สึกเสียพระทัย พระอนุชาแท้ๆต้องมาตายจากไป แต่พระองค์ก็ไม่ได้เสียใจนานนัก ร่างของพระอนุชายังคงอยู่ เพียงแต่จิตวิญญาณถูกเปลี่ยนเป็นของคนอื่นไปแล้ว

ดังนั้น หลังจากที่ฮ่องเต้เสียใจ ก็ปลอบใจพระองค์เองว่า :ตอนนี้พระอนุชาเป็นคนฮว๋าเซี่ยแล้ว หลังจากนี้จะต้องพัฒนาต้าเว่ยและราชวงศ์ได้ด้วยกัน

แต่คาดไม่ถึงว่า ไม่ใช่ว่าคนฮว๋าเซี่ยจะเป็นเหมือนอย่างเซียวเฉวียนและอี้อู๋หลี่หมดทุกคน

เว่ยอวี๋คนนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีความรู้ แต่กลับโง่เขลามาก เมื่อเทียบกับเว่ยอวี๋คนก่อนเกรียจคร้านมาก แม้แต่ทำเจ้าชู้หยอกล้อกับนางข้าหลวงในวัง เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวัน

เฉาสิงจือยังไม่ได้สติกลับมา เขากำลังจะถามให้แน่ชัด ใบหน้าของฮ่องเต้เต็มไปด้วยรอยยิ้มทรงพระราชดำเนินจากไปแล้ว

พระราชวังฉางหมิงที่กว้างใหญ่ ผมของเฉาสิงจือเป็นสีเทามองดูฮ่องเต้ทรงพระราชดำเนินจากไป

อาจารย์สองคำนี้ ยังวนเวียนอยู่ในสมองของเขา

วนเวียนไปมาเรื่อยๆ

เขาไม่สามารถตัดสองคำนี้ออกไปได้ จ้าวอีโต้วก็ยิ่งทำให้เขางงมากขึ้นไปอีก

“อ๊ากกกกกกกกกก!”

เฉาสิงจือโกรธมากจนดึงทึ้งผมตัวเอง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกบ้าคลั่งอย่างนี้ หรือว่าเขาจะแก่มากเกินไปแล้วจริงๆ ตามไม่ทันแผนการของฮ่องเต้แล้ว!

ตอนนี้เขาไม่รู้ความคิดของฮ่องเต้ ไม่รู้ว่ากำลังทรงคิดอะไรอยู่!

ข้าหลวงหญิงและขันทีที่มองเห็นขุนนางที่มีบทบาทสำคัญต่อราชวงศ์ ท่าทางโกรธมากจนแทบจะร้องไห้ ทั้งรู้สึกสงสารและน่าขำมาก

ฝนที่โปรยปลายอยู่ด้านนอก ตกลงมาตลอดทั้งคืน ใบไม้ของพระราชวังปลิวร่วงหล่นลงมา ฮ่องเต้เพิ่งจะเข้าบรรทมได้ไม่นาน ข้าหลวงหญิงที่กวาดลานก็ได้เวลาเริ่มทำงาน เหล่าขุนนางทั้งหลายก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าประชุมที่ท้องพระโรง

จวนเซียว

เซียวเฉวียนจามอย่างแรงหนึ่งครั้ง ชิงกั่วและหยุนกั่วดูแลแต่งตัวให้เขา ตั้งแต่เช้า มีหญิงสาวสวยสองคนห้อมล้อม เซียวเฉวียนอารมณ์ดีอย่างมาก

ในที่สุด ก็ไม่ใช่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าซึ่งเป็นผู้ชายหยาบกระด้างมาช่วยดูแลแต่งตัวให้เขาแล้ว

ชายหนุ่มทั้งสองคนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มาค่อยเฝ้าดูแลกิจวัตรประจำวันของเซียวเฉวียนเป็นประจำ ไม่ยอมให้โอกาสชิงกั่วและหยุนกั่ว

มองดูเซียวเฉวียนท่าทางอารมณ์ดี หยุนกั่วพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ:“นายท่านนอนหลับสบาย ปลุกตั้งหลายครั้งก็ไม่ยอมตื่น ใกล้เวลาจะต้องไปประชุมที่ท้องพระโรงแล้ว ถ้าไปสาย ฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องมาตำหนิข้าว่าดูแลท่านได้ไม่ดี

พูดจบ ชิงกั่วที่มีท่าทางอ่อนโยนในมือถือบางอย่างมีกลิ่นหอม พาดผ่านใบหูของเซียวเฉวียนไป ทำให้ร่างกายของเขาชาไปหมด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย