ณ จวนอี้
เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่ศาลาคุนหวู่ดาบนับร้อยดังก้องพร้อมกัน ยังคงปิดอยู่และยังไม่เปิดดำเนินกิจการ
ขันทีที่มั่วสี่ส่งไปได้นำเรื่องกระบี่ชีวันมาแจ้งให้ทราบและรีบออกไปทันที
ขันทีผู้นั้นได้นำข่าวคราวมาบอกว่า “พวกแม่หญิงที่จวนเซียวต่างเดินทางไปข้างนอกหมด ไม่มีใครที่ตระกูลเซียวสามารถไว้วางใจได้ เช่นนี้พระนางถึงได้ส่งข้ามาแจ้งข่าวให้คุณชายอี้ทราบ และยังขอให้คุณชายอี้โปรดบอกใต้เท้าเซียวด้วยนะขอรับ”
“อืม…ได้”
อี้กุยพยักหน้า ขันทีที่ไม่ได้เห็นแววตาที่ลังเลของเขา ก็ได้ทำความเคารพ “ถ้าเช่นนั้นทาสขออำลา”
กระบี่ชีวัน ฉินซูโหรว
ท่านปู่น้อย…
เมื่อครั้นที่เซียวเฉวียนและฉินซูโหรวอยู่ด้วยกันแรก ๆ อี้กุยก็ตกหลุมรักในความรูปโฉมงามและความอ่อนโยนของฉินซูโหรว มีอาการใจเต้นอย่างที่ไม่ควรมี
แต่นั่นก็เป็นแค่เศษเสี้ยวความรู้สึกในใจเขา ฉินซูโหรวเป็นภรรยาของท่านปู่น้อย อีกทั้งท่านปู่น้อยยังเชื่อมั่นในตน ว่าตนจะไม่มีทางคิดร้ายกับฉินซูโหรวแน่นอน
ภรรยาของมิตร มิอาจรังแกได้
แน่นอนว่าเหตุผลนี้ อี้กุยเข้าใจเป็นอย่างดี
เนื่องจากอี้กุยและฉินซูโหรวได้ขีดเส้นกันระยะไว้อย่างชัดเจน หัวใจเต้นแรงเล็กน้อยที่เขามีต่อฉินซูโหรวเมื่อตอนแรกก็ได้หายไปตั้งนานแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วฉินซูโหรวก็ไม่ใช่คนดีจริง ๆ
แต่ฉินซูโหรวยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับอี้กุย เพราะฉะนั้นอี้กุยจึงสามารถใช้ประโยช์นจากโอกาสนี้ได้
ตอนนี้ท่านปู่น้อยและจวนฉินกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หากกระบี่ชีวันของฉินซูโหรวถูกเปิดเผย ท่านปู่น้อยจะต้องโดนร่างแหด้วยเป็นแน่
สิ่งที่สำคัญคือกระบี่ชีวันเล่มนั้นถูกสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อของแม่ฉิน แน่นอนสามารถทำให้ท่านปู่น้อยถึงตายได้!
เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ อี้กุยได้ตัดสินใจที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยไม่บอกเซียวเฉวียนเกี่ยวกับการมีอยู่ของกระบี่ชีวัน เขาจึงจะไปทำลายมันด้วยตัวเขาเอง
“คุณชาย ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”
พอผู้จัดการร้านได้ยินการตัดสินใจนี้ก็ตกใจ “กระบี่ชีวันเป็นอาวุธสังหารที่ร้ายแรง ท่านจะไปคนเดียวอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านไปบอกใต้เท้าเซียว แล้วพวกท่านไปด้วยกันไม่ได้หรืออย่างไร?”
ใบหน้าผู้จัดการร้านขาวโพลน คุณชายเป็นสายเลือดหนึ่งเดียวของตระกูลอี้ ผู้จัดการร้านได้รับความไว้วางใจจากบิดาของอี้กุย กำชับว่าต้องคุ้มครองอี้กุยเป็นอย่างดี อี้กุยทำอย่างนี้ก็เหมือนส่งตัวเองไปตาย แล้วตนจะห้ามเขาได้อย่างไรกัน?
“มันเป็นอาวุธสังหาร ท่านปู่น้อยมิสามารถไปได้!”
อี้กุยขบฟัน “พวกเราศาลาคุนหวู่เป็นผู้สร้างกระบี่ขึ้นมา นี่เจ้าไม่รู้จริง ๆ นะหรือ ว่ากระบี่ชีวันมันอันตรายสำหรับท่านปู่น้อยมากเพียงใด?
“ถ้าท่านปู่น้อยอยู่ กระบี่ชีวันเล่มนั้นก็จะดุร้ายมากยิ่งขึ้น! ถ้าเขามิอยู่ ไม่แน่ข้าอาจจะสามารถรับมือกับมันก็ได้!”
อาจจะอย่างนั้นหรือ?
ผู้จัดการร้านคุกเข่าลงกับพื้นด้วยเสียง ตะโกนสุดเสียง “คุณชาย! มิได้! มิได้นะขอรับ!”
“คุณชาย ท่านใจดีกับเซียวเฉวียนมากเกินไปแล้วนะขอรับ! ข้าน้อยมิเข้าใจ เหตุใดท่านถึงต้องเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงด้วยเล่า?”
“ท่านเป็นทายาทคนเดียวแห่งตระกูลอี้! ท่านยังมิได้สมรส! ยังมิมีมีบุตรชายบุตรสาว!”
“ท่านมิสามารถเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเช่นนั้นเด็ดขาด!”
ผู้จัดการร้านก้มลงคุกเข่าที่พื้นขอร้อง “เซียวเฉวียนมิมีค่าพอให้ท่านทำเยี่ยงนี้นะขอรับ!”
แต่อี้กุยก็หาได้ฟังคำของเขา หันหลังแล้วออกไป ผู้จัดการห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่
“คุณชาย! คุณชายขอรับ!”
ผู้จัดการร้านมองไปที่แผ่นหลังของอี้กุยที่ไม่สนใจ จึงรีบตามออกไปทันที แต่ก็ไร้เงาคน
อี้กุยคงไปที่จวนเซียวเป็นแน่
จวนเซียวงั้นหรือ…ผู้จัดการหันหัวกลับ แล้วรีบขึ้นหลังม้าแล้วควบม้าไปในทิศทางตรงกันข้าม
ตลอดทางเขาวิ่งไปวิ่งมาจนมาถึงกระท่อมมุงจากเมืองหลวง
“ท่านเจี้ยนเหล่า! ช่วยด้วยขอรับ!”
ผู้จัดการร้านเส้นผมหงอกครึ่งหัวกลิ้งและคลานกลิ้งลงจากหลังม้า “พรึง” เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างกระฉับกระเฉง “ช่วยคุณชายของเราด้วยขอรับ!”
ในสำนักเล็ก ๆ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งถือขวานใหญ่กำลังสับฟืน “ฉับฉับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...