ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 616

สรุปบท บทที่ 616 โทสะของเจี้ยนเหล่า: ซูเปอร์ลูกเขย

บทที่ 616 โทสะของเจี้ยนเหล่า – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย

ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 616 โทสะของเจี้ยนเหล่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ จวนอี้

เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่ศาลาคุนหวู่ดาบนับร้อยดังก้องพร้อมกัน ยังคงปิดอยู่และยังไม่เปิดดำเนินกิจการ

ขันทีที่มั่วสี่ส่งไปได้นำเรื่องกระบี่ชีวันมาแจ้งให้ทราบและรีบออกไปทันที

ขันทีผู้นั้นได้นำข่าวคราวมาบอกว่า “พวกแม่หญิงที่จวนเซียวต่างเดินทางไปข้างนอกหมด ไม่มีใครที่ตระกูลเซียวสามารถไว้วางใจได้ เช่นนี้พระนางถึงได้ส่งข้ามาแจ้งข่าวให้คุณชายอี้ทราบ และยังขอให้คุณชายอี้โปรดบอกใต้เท้าเซียวด้วยนะขอรับ”

“อืม…ได้”

อี้กุยพยักหน้า ขันทีที่ไม่ได้เห็นแววตาที่ลังเลของเขา ก็ได้ทำความเคารพ “ถ้าเช่นนั้นทาสขออำลา”

กระบี่ชีวัน ฉินซูโหรว

ท่านปู่น้อย…

เมื่อครั้นที่เซียวเฉวียนและฉินซูโหรวอยู่ด้วยกันแรก ๆ อี้กุยก็ตกหลุมรักในความรูปโฉมงามและความอ่อนโยนของฉินซูโหรว มีอาการใจเต้นอย่างที่ไม่ควรมี

แต่นั่นก็เป็นแค่เศษเสี้ยวความรู้สึกในใจเขา ฉินซูโหรวเป็นภรรยาของท่านปู่น้อย อีกทั้งท่านปู่น้อยยังเชื่อมั่นในตน ว่าตนจะไม่มีทางคิดร้ายกับฉินซูโหรวแน่นอน

ภรรยาของมิตร มิอาจรังแกได้

แน่นอนว่าเหตุผลนี้ อี้กุยเข้าใจเป็นอย่างดี

เนื่องจากอี้กุยและฉินซูโหรวได้ขีดเส้นกันระยะไว้อย่างชัดเจน หัวใจเต้นแรงเล็กน้อยที่เขามีต่อฉินซูโหรวเมื่อตอนแรกก็ได้หายไปตั้งนานแล้ว

ท้ายที่สุดแล้วฉินซูโหรวก็ไม่ใช่คนดีจริง ๆ

แต่ฉินซูโหรวยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับอี้กุย เพราะฉะนั้นอี้กุยจึงสามารถใช้ประโยช์นจากโอกาสนี้ได้

ตอนนี้ท่านปู่น้อยและจวนฉินกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หากกระบี่ชีวันของฉินซูโหรวถูกเปิดเผย ท่านปู่น้อยจะต้องโดนร่างแหด้วยเป็นแน่

สิ่งที่สำคัญคือกระบี่ชีวันเล่มนั้นถูกสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อของแม่ฉิน แน่นอนสามารถทำให้ท่านปู่น้อยถึงตายได้!

เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ อี้กุยได้ตัดสินใจที่อันตรายอย่างยิ่ง โดยไม่บอกเซียวเฉวียนเกี่ยวกับการมีอยู่ของกระบี่ชีวัน เขาจึงจะไปทำลายมันด้วยตัวเขาเอง

“คุณชาย ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?”

พอผู้จัดการร้านได้ยินการตัดสินใจนี้ก็ตกใจ “กระบี่ชีวันเป็นอาวุธสังหารที่ร้ายแรง ท่านจะไปคนเดียวอย่างนั้นหรือ?”

“ท่านไปบอกใต้เท้าเซียว แล้วพวกท่านไปด้วยกันไม่ได้หรืออย่างไร?”

ใบหน้าผู้จัดการร้านขาวโพลน คุณชายเป็นสายเลือดหนึ่งเดียวของตระกูลอี้ ผู้จัดการร้านได้รับความไว้วางใจจากบิดาของอี้กุย กำชับว่าต้องคุ้มครองอี้กุยเป็นอย่างดี อี้กุยทำอย่างนี้ก็เหมือนส่งตัวเองไปตาย แล้วตนจะห้ามเขาได้อย่างไรกัน?

“มันเป็นอาวุธสังหาร ท่านปู่น้อยมิสามารถไปได้!”

อี้กุยขบฟัน “พวกเราศาลาคุนหวู่เป็นผู้สร้างกระบี่ขึ้นมา นี่เจ้าไม่รู้จริง ๆ นะหรือ ว่ากระบี่ชีวันมันอันตรายสำหรับท่านปู่น้อยมากเพียงใด?

“ถ้าท่านปู่น้อยอยู่ กระบี่ชีวันเล่มนั้นก็จะดุร้ายมากยิ่งขึ้น! ถ้าเขามิอยู่ ไม่แน่ข้าอาจจะสามารถรับมือกับมันก็ได้!”

อาจจะอย่างนั้นหรือ?

ผู้จัดการร้านคุกเข่าลงกับพื้นด้วยเสียง ตะโกนสุดเสียง “คุณชาย! มิได้! มิได้นะขอรับ!”

“คุณชาย ท่านใจดีกับเซียวเฉวียนมากเกินไปแล้วนะขอรับ! ข้าน้อยมิเข้าใจ เหตุใดท่านถึงต้องเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงด้วยเล่า?”

“ท่านเป็นทายาทคนเดียวแห่งตระกูลอี้! ท่านยังมิได้สมรส! ยังมิมีมีบุตรชายบุตรสาว!”

“ท่านมิสามารถเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเช่นนั้นเด็ดขาด!”

ผู้จัดการร้านก้มลงคุกเข่าที่พื้นขอร้อง “เซียวเฉวียนมิมีค่าพอให้ท่านทำเยี่ยงนี้นะขอรับ!”

แต่อี้กุยก็หาได้ฟังคำของเขา หันหลังแล้วออกไป ผู้จัดการห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่

“คุณชาย! คุณชายขอรับ!”

ผู้จัดการร้านมองไปที่แผ่นหลังของอี้กุยที่ไม่สนใจ จึงรีบตามออกไปทันที แต่ก็ไร้เงาคน

อี้กุยคงไปที่จวนเซียวเป็นแน่

จวนเซียวงั้นหรือ…ผู้จัดการหันหัวกลับ แล้วรีบขึ้นหลังม้าแล้วควบม้าไปในทิศทางตรงกันข้าม

ตลอดทางเขาวิ่งไปวิ่งมาจนมาถึงกระท่อมมุงจากเมืองหลวง

“ท่านเจี้ยนเหล่า! ช่วยด้วยขอรับ!”

ผู้จัดการร้านเส้นผมหงอกครึ่งหัวกลิ้งและคลานกลิ้งลงจากหลังม้า “พรึง” เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างกระฉับกระเฉง “ช่วยคุณชายของเราด้วยขอรับ!”

ในสำนักเล็ก ๆ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งถือขวานใหญ่กำลังสับฟืน “ฉับฉับ”

ผู้จัดการร้านตัวสั่นและมีสีหน้าหวาดกลัว “เจี้ยนเหล่า เป็นเรื่องกระบี่ชีวันขอรับ!”

เจี้ยนเหล่าขมวดคิ้วอย่างสงสัย ร่องรอยของความตกใจและความไม่สบายใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “เป็นไปมิได้!”

เจี้ยนเหล่าจ้องมองเขา “กระบี่ชีวันเป็นสิ่งต้องห้าม! ผู้ใดกล้าบังอาจขนาดนี้?”

“ถ้ามิใช่ว่าไทเฮา ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยฉินซุโหรวยับยั้งเซียวเฉวียนล่ะก็”

ผู้จัดการร้านเริ่มพูดเมื่อตอนหลังจากที่แม่ฉินตาย หลังจากอธิบายเหตุและผลแล้ว แสงในดวงตาของเจี้ยนเหล่าก็หรี่ลงทีล่ะน้อย พูดตามตรง ก็ยังคงเป็นเพราะเซียวเฉวียน

“ข้ารู้ว่าว่าเขามิใช่เป็นคนมากเรื่อง!”แขนหนาของเจี้ยนเหล่าตบที่ท่าเรือไม้อย่างแรง “นารีอย่างเจ้าเซียวเฉวียนเป็นเหตุ!”

“หา?” ผู้จัดการร้านถึงกับงงงัน คำนี้คงไม่ได้ใช้แบบนี้หรอกกระมัง

แต่ถึงกระนั้นผู้จัดการร้านก็ไม่กล้าพูดออกมา ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจี้ยนเหล่าไม่รู้จักตัวอักษรจีนสักตัวเดียว รู้สึกละอายใจเมื่อได้รู้อักษรอย่างนั้นหรือ?

เขาบอกพวกรู้หนังสือต่างก็เน่าบูดกันทั้งนั้น คลื่นไส้เมื่อพบเห็น น้ำมูกไหลเมื่อได้กลิ่น

โดยเฉพาะคนอย่างเซียวเฉวียน เป็นจอหงวนอย่างโน้น เป็นเจ้าของสถานที่ศึกษาชิงหยวนอย่างนี้ มันเป็นเพียงสิ่งที่ดีที่สุดของเน่าเปรี้ยว! ไม่น่าดม!ไม่น่าดมเลยสักนิด!

เจี้ยนเหล่ายืนขึ้นและก้าวออกไป ย่างก้าวของเขาเร็วราวกับบิน

“เจี้ยน เจี้ยนเหล่า? ท่านจะไปที่ใดหรือ?” ผู้จัดการร้านใกล้จะร้องไห้ “ข้ารอให้ท่านไปช่วยอยู่นะขอรับ!”

ร่างสูงและแข็งแรงของเขาหยุดชั่วคราวและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “มิใช่ว่ากระบี่ชีวันปรากฏตัวแล้วหรืออย่างไร?”

“ข้าจะไปกำจัดมัน”

ดวงตาเจี้ยนเหล่ามืดลง กระบี่ชีวันดุร้ายถึงเพียงนั้น สังหารคนไม่รู้จักกี่คน โศกนาฏกรรมเมื่อปีนั้น เขาจะไม่ให้มันเกิดซ้ำรอยเป็นครั้งที่สองอีกเด็ดขาด

ในเวลาเดียวกัน นารีอย่างเจ้าเซียวเฉวียนเป็นเหตุ เป็นตัวอัปมงคล ต้องตายสถานเดียว

“เตรียมรอเก็บซากเจ้าเซียวเฉวียนเถอะ ขอบใจเจ้ามากที่มาบอกข้า” เขาเอามือไพล่หลังเดินอย่างรวดเร็วและหายตัวไปจากสายตาผู้จัดการร้าน

“เจี้ยนเหล่านั้นหรือ?”

ผู้จัดการร้านถึงกับทำหน้างง ให้ตายเถอะ จะไปฆ่าเซียวเฉวียนอย่างนั้นหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย