ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 617

สรุปบท บทที่ 617 เลี้ยงด้วยเลือด: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 617 เลี้ยงด้วยเลือด – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 617 เลี้ยงด้วยเลือด ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ณ พระราชวัง

ผืนดินที่ถูกเผาเสียเกรียม

มีควันดำทั่วทุกสารทิศ

มีเพียงพระราชวังฉางหมิงที่ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

ฮ่องเต้ยังคงประทับนิ่งไม่ขยับอยู่บนพระที่นั่งบัลลังก์มังกร จ้าวอีโต้วมองฉากตรงหน้าด้วยความหดหู่

กิเลนล้มลงแล้ว

คาดไม่ถึงว่ามันล้มลงแล้ว!

ดาบจิงหุน 4 เล่ม ตอกแขนขาของมันไว้ ทำให้มันถูกตรึงไว้ที่พื้นดินที่ไหม้เกรียม

ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิเก็บกลับสายฟ้านับพันที่ลอยอยู่บนกิเลนแล้วค่อยๆม้วนปิด

นี่ก็หมายความว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้ว กิเลนถูกปราบแล้ว

เมื่อครู่จ้าวอีโต้วไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวเลย ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ากิเลนถูกไป๋ฉี่เหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้า!

จ้าวอีโต้วตกใจมาก “เดรัจฉาน! เจ้าลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้! เจ้าลุกขึ้นมาสิ!”

เป็นไปได้ยังไง?

เป็นไปได้ยังไง?

เซียวเฉวียนปราบกิเลนได้อย่างไรกัน?

จมูกของกิเลนพ่นเปลวไฟเล็กมากๆออกมา ท่าทางไม่พอใจเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม มันเหนื่อยแล้ว

จ้าวอีโต้วได้เห็นกระบวนการการปราบ แต่ฮ่องเต้เห็น

กิเลนเป็นสัตว์สงคราม เหมือนกับอาวุธ กระหายเลือดเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากไป๋ฉี่และภาพรุ่งอรุณใบไม้ผลิควบคุมกิเลนได้แล้ว ไป๋ฉี่ก็ให้เลือดมัน

ไป๋ฉี่ใช้มีดปาดข้อมือของตัวเอง เลือดสดๆหยดลงศีรษะของกิเลน

เซียวเฉวียนตะลึงมาก “ไป๋ฉี่! เจ้าทำอะไร!”

ให้เวลาภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิอีกสักหน่อย กิเลนก็จะถูกปราบจนจำนนแล้ว แต่ไป๋ฉี่กลับเลือกวิธีที่รุนแรงและไม่อ้อมค้อม

สัตว์ที่ดุร้ายแค่ไหนได้กลิ่นอาหารก็ล้วนมีสัญชาตญาณติดตาม

เลือดคาวหวาน ทำให้กิเลนที่บ้าคลั่งอยู่ลืมแม้กระทั่งจะพ่นเปลวไปออกมาแล้ว

กิเลนหิวมานานมาก

เพราะจ้าวอีโต้วไม่เคยให้อาหารสดๆเอาให้

นี่คล้ายกับหลักการเลี้ยงสุนัข หากให้สุนัขหลงในอาหารสดๆแล้ว สุนัขจะกระหายเลือดและสู้เก่ง การจู่โจมก็จะเยี่ยมมากยิ่งขึ้นและอาจถึงขั้นทำร้ายผู้คน

ดังนั้นจ้าวอีโต้วจึงไม่กล้าให้อาหารสดหรือเลือดสดๆกับกิเลน เขากลัวว่าเขาจะควบคุมกิเลนไว้ไม่อยู่

หลักการนี้ จ้าวอีโต้วรู้ เซียวเฉวียนก็รู้เช่นกัน

ดังนั้นเลือด จะให้ได้มั่วซั่วได้ยังไงกัน?

กิเลนเงยหน้า เลียเลือดที่ไหลลงจากแขนของไป๋ฉี่ รสชาติดีสุดๆ!

ใช่แล้ว!

รสชาตินี้เอง!

นี่มันรสชาติที่ยาวนานและทำให้หลงใหล!

กิเลนลืมคำสั่งของเจ้านายไปชั่วขณะ สำหรับสัตว์ประหลาดแล้วมีนมก็ถือว่าเป็นแม่ ไป๋ฉี่ที่ให้เลือดมัน ก็ใกล้ชิดยิ่งกว่าจ้าวอีโต้วมากนัก

เวลานี้เอง ในที่สุดจ้าวอีโต้วก็เห็นร่องรอยเลือดจากปากของกิเลน เขาเบิกตาโต “ไป๋ฉี่! เจ้าบ้าไปแล้ว! เพื่อที่จะชนะ เจ้าไม่สนวิธีขนาดนี้เลยรึ?”

ในสนามรบการกระทำเช่นนี้ของไป๋ฉี่ไม่ผิดเลย

สิ้นสุดการต่อสู้ด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมแม่นยำและรวดเร็วเป็นความสามารถที่ราชองครักษ์สมควรทำ

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไป๋ฉี่แสดงความคิดของตนในการต่อสู้

ครั้งแรกก็เป็นหนึ่งครั้งที่ทำให้เซียวเฉวียนจดจำตลอดไป

ไป๋ฉี่ทำเช่นนี้ต้องจ่ายราคาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน

ในตอนนั้นเซียวเฉวียนปราบเซี่ยวเฟิง สาเหตุสำคัญคือเซี่ยวเฟิงสัมผัสเลือดของเซียวเฉวียนแล้ว เซี่ยวเฟิงยอมรับเขาเป็นเจ้านาย

“เหตุใด? เหตุใด!”

เซียวเฉวียนคำรามอย่างโมโห “เจ้าไม่รักถนอมชีวิตของตัวเองขนาดนี้เลยรึ!”

เซียวเฉวียนเสียงราวระฆังดัง พระราชวังฉางหมิงสะท้อนเสียงคำรามอย่างโมโหของเขา

ไป๋ฉี่ก้มหน้า ตาแดงก่ำ “แขนเสื้อท่านไหม้แล้ว”

เปลวไฟที่พุ่งสู่ฟ้ากระทบนายท่าน แขนเสื้อด้านขวาของนายท่านไหม้เกรียมแล้ว

เซียวเฉวียนสำลักไร้คำพูด เขาหายใจเข้าลึก ดวงตายิ่งแดงก่ำกว่าเดิม “ไหม้แล้วจะทำไม! แม้ว่าจะเผาไหม้ตัวข้าตาย เจ้าก็ให้เลือดมันไม่ได้!”

เซียวเฉวียนโมโหจนเลือดขึ้นหน้า “หรือว่าภายหลังเจ้าอยากให้ข้าเห็นสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้กัดเจ้าตายกัน? กลืนกินเจ้า?”

“เจ้าอยากให้ข้าเห็นพวกมันดื่มเลือดของเจ้า! กินเนื้อของเจ้า! เคี้ยวกระดูกเจ้ารึ?”

“นายท่าน……” ไป๋ฉี่ตะลึง กล่าวตอบอย่างดื้อรั้น “ข้าไม่เสียใจ!”

“ไป๋ฉี่! เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งจนที่จะสามารถเป็นศัตรูกับสรรพสิ่งใต้หล้าได้!” เซียวเฉวียนชี้ไปที่กิเลน “สัตว์เดรัจฉานตัวนี้เป็นหนึ่งในสิบสัตว์สงครามคุนหลุน! เป็นสัตว์พาหนะของฉยงฉี!”

“มันยังมีพี่น้องอีก 9 ตัว!”

“วันนี้เจ้ากับภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิร่วมแรงกันถึงสามารถปราบมันได้! ในอนาคตหากมีสัตว์สงครามอะไรเพิ่มอีกสักตัว มีพี่น้องมันมาเพิ่มล่ะ?”

“เจ้าจะทำยังไง?”

“ข้ามีไป๋ฉี่สักกี่คนถึงจะพอให้สัตว์เดรัจฉานมันกินจนพอ? เจ้าพูด! เจ้าพูดมาสิ!”

“ข้าลำบากลำบนคืนอิสระให้เจ้า เพื่อให้เจ้าประลองฝีมือกับเดรัจฉานเหล่านี้รึ!”

เซียวเฉวียนคว้าข้างไหล่ของเขาไว้ จ้องมองรอยตราสีแดงบนติ้วของเขา “เจ้าเห็นตัวเจ้าเป็นอะไรไปแล้วกันแน่!”

“เหยื่อที่ให้ต่อกรเดรัจฉานคนหนึ่งรึ?”

เซียวเฉวียนน้ำตาคลอ โมโหเดือดปุดๆ “เจ้าไปยืนด้านข้างเลย! หลังจากนี้เจ้าห้ามเคลื่อนไหวอีก!”

“ขอครับ”

ไป๋ฉี่คอตก ในดวงตายังคงดื้อรั้น

เซียวเฉวียนหายใจเข้าลึกๆ เขาได้ยินเสียงที่หัวเราะและเสียงโกรธของจ้าวอีโต้ว “เจ้าโง่ เป็นคนโง่เง่าเสียจริง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย