“ข้าไม่ไป! ท่านหญิง ต้าเว่ยไม่อาจทนต่อกระบี่ชีวันได้ ท่านมอบมันมาเสียเถอะ”
อี้กุยเป็นคนโบราณ และเป็นสุภาพชนผู้หนึ่ง ดังนั้นจึงต่างจากเซียวเฉวียนที่ปฏิบัติต่อฉินซูโหรวอย่างหยาบคาย
เขาท่องอยู่ในใจว่านางคือหลานสาวของฉินปาฟาง และยังเป็นคนในตระกูลแม่ทัพ อีกทั้งแม่ผู้ให้กำเนิดก็เพิ่งจากไป ดังนั้นอี้กุยจึงคิดว่า หากไม่ต้องทะเลาะหรือไม่ต้องลงไม้ลงมือก็จะดีกว่า
ทว่าดูจากท่าทางของฉินซูโหรวในตอนนี้ หากไม่ใช้กำลัง เกรงว่าจะไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้น เขาเป็นถึงเจ้าแห่งศาลาคุนหวู่ สามารถจัดการกระบี่ชีวันด้วยตัวเองได้ ฉินซูโหรวดูถูกเขาเช่นนี้ แน่นอนว่านางคิดผิด
“ดูท่า ท่านจะทำเพื่อเซียวเฉวียนสหายรักของท่าน จนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ” ฉินซูโหรวมองเขาเบา ๆ “อย่าพูดว่าทำเพื่อประชาชนและต้าเว่ย หากท่านมีความคิดที่สูงส่งเช่นนั้น เหตุใดท่านจึงสุมหัวอยู่กับคนอย่างเซียวเฉวียนเล่า?”
“วัน ๆ คอยเดินตามก้นเซียวเฉวียนต้อย ๆ ยังกล้าเรียกตัวเองว่าคุณชายผู้มั่งคั่งที่สุดในเมืองหลวง ช่างน่าอับอายเสียจริง”
ฉินซูโหรวเสียงบอบบาง แต่ปากคอเราะร้าย “แต่ที่นี่คือจวนฉิน ท่านคิดจะชิงของของข้าไป ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ แม้แต่เสด็จอาฮ่องเต้มาถึงที่ ก็ต้องอ้อนวอนให้ข้านำออกมาเช่นกัน”
“เพราะว่ากระบี่เล่มนี้ไทเฮาเป็นผู้ประทานให้ หากซักไซ้ไล่เลียงจริง ๆ หรือว่าท่านคิดที่จะให้ฝ่าบาทลงโทษไทเฮา?”
“ไม่สำคัญว่าท่านไม่ต้องการชีวิตของตัวเอง หากท่านเปิดโปงเรื่องนี้ ท่านยังต้องการศาลาคุนหวู่อยู่หรือไม่?” ฉินซูโหรวมองเขา “ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องตายมิใช่หรือ? ถึงเวลานั้นพรรคพวกของท่านที่ศาลาคุนหวู่ ทุกคนมีครอบครัวและหน้าที่การงาน และพวกเขาก็ต้องตายไปพร้อมกับท่านด้วย”
“สิ่งนี้ไม่คุ้มค่าหรอกนะ”
อี้กุยขมวดคิ้ว คำพูดของฉินซูโหรวใช่ว่าจะไร้เหตุผล
ทว่า...
“ข้ามีเงื่อนไข หากท่านรับปากข้า ข้าจะนำกระบี่ชีวันไปซ่อนและไม่ใช้มันไปตลอดชีวิต”
ฉินซูโหรวมองเห็นท่าทางตื่นเต้นของเขา จึงคิดแผนขึ้นมา
เซียวเฉวียนไม่สนใจนางแล้ว ไม่ว่านางจะเป็นหรือตาย ดีหรือชั่ว เซียวเฉวียนก็ไม่ชายตามองนางเลย
หากต้องการดึงดูดความสนใจของเซียวเฉวียน ก็ต้องหาคนที่เซียวเฉวียนสนใจก่อน และอี้กุยก็เหมาะสมอย่างมาก
“หากท่านตกลงในเงื่อนไขของข้า ไม่แน่ว่าวันใดที่ข้าอารมณ์ดี ข้าอาจมอบกระบี่ชีวันให้ท่านจัดการ เป็นอย่างไรเล่า?”
ฉินซูโหรวเดินเข้าไปใกล้ และกระซิบที่ข้างหูของอี้กุย นางพูดด้วยเสียงที่ต่ำที่สุดพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
อี้กุยฟังจบ ก็ร้องเสียงดัง “ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!”
“ทำไมหรือ? ท่านรังเกียจข้างั้นหรือ?”
ฉินซูโหรวทำเสียงฮึดฮัด “แม้ว่าข้าจะแต่งงานมาแล้วสองครั้ง แต่ฐานะของข้าสูงส่ง มีคนมากมายที่อยากแต่งงานกับท่านหญิงอย่างข้า แต่ก็ไม่อาจแต่งได้”
“หากท่านรับปาก ท่านก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างเงียบ ๆ และไม่ทำให้ผู้ใดต้องตื่นตกใจ ดีเช่นนี้ก็ควรทำมิใช่หรือ?”
“ไม่ ไม่ได้”
มือของฉินซูโหรวเคาะลงที่โต๊ะ “คุณชายอี้ ท่านกลัวอะไรเล่า ข้าไม่ได้ให้ท่านมาสู่ขอข้าเสียหน่อย”
อี้กุยหน้าแดงก่ำ เขาส่ายหัว “คือ... เช่นนั้นก็ไม่ได้!”
สิ่งที่ฉินซูโหรวพูดเมื่อครู่ก็คือ ต้องการเป็นเพื่อนกับเขา จากนี้ไม่ว่ามีเทศกาลหรืองานใด ๆ จักต้องให้นางเข้าร่วมด้วย
ในแวดวงของอี้กุย โดยปกติแล้วเขาไปมาหาสู่กับแค่เซียวเฉวียน ความหมาของฉินซูโหรวชัดเจนเป็นอย่างมาก เป้าหมายของนางคือเพื่อเข้าใกล้เซียวเฉวียน เมื่อครู่นางยังเยาะเย้ยอี้กุยที่คอยเดินตามก้นเซียวเฉวียน ตอนนี้ฉินซูโหรวกลับหาทางเข้าใกล้เซียวเฉวียน อี้กุยไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงจริง ๆ
ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
อี้กุยจะเป็นเพื่อนกับฉินซูโหรวได้อย่างไร?
ผู้คนในเมืองหลวงต่างรู้ดี เขาและเซียวเฉวียนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันราวกับพี่น้องแท้ ๆ และฉินซูโหรวก็เป็นอดีตภรรยาของเซียวเฉวียน
ผู้ชายคนหนึ่ง จะเป็นเพื่อนกับอดีตภรรยาของสหายรักงั้นหรือ?
นั่นไร้สาระมิใช่หรือ?
ถึงเวลานั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนจะน่าอึดอัดเพียงใด?
โอ้ย?
คนเหล่านั้นที่ยังไม่รู้จะพูดอย่างไรถึงอี้กุย ไม่แน่ว่า อาจพูดว่าเขาจ้องเมียเก่าของสหายรักตาเป็นมันมานานแล้ว
ให้ตายเถอะ เช่นนั้นท่านปู่และท่านพ่อของเขาคงไม่ต้องเลาะฝาโลง ลุกพรวดออกมาตีเขางั้นหรือ?
ไม่ได้ ท่านปู่น้อยรังเกียจฉินซูโหรวที่สุดแล้ว แม้ว่าเขาและฉินซูโหรวเป็นเพียงเพื่อนปลอม ๆ ท่านปู่น้อยก็โกรธได้เช่นกัน
อี้กุยเจ้าเด็กคนนี้ ดูเย็นชาสำหรับบุคคลภายนอก แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นคนที่น่าเอ็นดูและหัวโบราณ
หากเซียวเฉวียนอยู่ด้วย คงอดไม่ได้ที่จะตบสมองเจ้าเด็กบื้อคนนี้ “เจ้าโง่ไปแล้วหรือไง! เจ้าโง่ไปแล้วหรือไง!”
“นางก็บอกแล้วว่า หากเป็นเพื่อนกับท่านก็จะจัดการกับกระบี่ชีวัน! ท่านแสร้งรับปากจะเป็นอะไรไปเล่า!”
“จะเป็นอะไรไปเล่า?”
“จะเป็นอะไรไปเล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...