สรุปเนื้อหา บทที่ 627 มิหลงเหลือสิ่งใด – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 627 มิหลงเหลือสิ่งใด ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฮ่องเต้ทรงขึ้นครองราชย์มานานแล้ว บัดนี้การเมืองในราชสำนักครึ่งหนึ่งถูกฮ่องเต้กุมอำนาจเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การที่เว่ยเชียนชิวเอาคนไปอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นการประกาศการต่อสู้?
เว่ยเจียนกั๋วมีบัญชาสั่งการให้อัศวินดำของจวนเจียนกั๋วออกเดินทางทันที ผู้นำอัศวินดำพยักหน้าทว่าก็รู้สึกละล้าละลังในเวลาเดียวกัน "เจียนกั๋ว เจี้ยนเหล่าเองก็ปกป้องเซียวเฉวียนอยู่ในพระราชวังเหมือนกันมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ"
"ปีศาจกวีข้ายังไม่กลัว! คิดว่าข้าจะหวาดกลัวช่างทำกระบี่ผู้หนึ่งอย่างนั้นรึ?" ในสมองของเว่ยเชียนชิวล้วนเต็มไปด้วยยาอายุวัฒนะ ทั้งยังทีท่าทางหากมิได้มาก็จะบันดาลโทสะเป็นฟืนเป็นไฟอีกด้วย
เซียวเฉวียนตัดลูกน้องเขาไปมากมายขนาดนี้แล้ว หากมิใช่ว่าเซียวเฉวียนมียาอายุวัฒนะอยู่จะสามารถมีชีวิตมาจนถึงวันนี้ตอนนี้หรือ?
ทำเอาเซียวเฉวียนได้ใจมากเกินไปแล้วจริง ๆ!
เพราะเขาเว่ยเชียนชิวมิจัดการมัน ดังนั้นมันก็เลยนึกว่าจะวางอำนาจบาตรใหญ่ได้รึ!
"เจียนกั๋ว เจี้ยนเหล่ากับปีศาจกวีนั้นมิเหมือนกันนะพ่ะย่ะค่ะ" ผู้นำอัศวินดำกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม ปีศาจกวีอาศัยบทกวีเดินทางไปทั่วใต้หล้า ทว่าเจี้ยนเหล่านั้นกลับมิใช่ เขาไม่รู้จักตัวหนังสือเลยแม้แต่ตัวเดียว มิได้ต่างอะไรไปจากชาวยุทธ์แท้
เว่ยเจียนกั๋วมิได้เกรงกลัวปัญญาชนก้นเปรี้ยวเหล่านั้นและมิได้เกรงกลัวเซียวเฉวียน ผู้นำอัศวินดำนั้นสามารถเข้าใจได้ ทว่าพละกำลังของเจี้ยนเหล่านั้นแข็งแกร่งเหลือเกิน อ้างอิงจากพื้นฐานแล้ว เขานั้นเป็นมนุษย์จำพวกเดียวกันกับชาวยุทธ์ภพ ได้ยินมาว่ามือทั้งสองข้างของเจี้ยนเหล่าล้ำเลิศยิ่งกว่ากระบี่แหลมเสียอีก มิต้องใช้อาวุธก็สามารถเริ่มสังหารได้
เพื่อเซียวเฉวียนเพียงผู้เดียวกลับต้องล่วงเกินฮ่องเต้ ทั้งยังต้องไปลองเชิงกับเจี้ยนเหล่าอีก เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่านี่มิใช่เรื่องราวที่อยู่ในแผนการเลย
รอเซียวเฉวียนตื่นขึ้นมาแล้วออกจากพระราชวังไป หลังจากนั้นค่อยจับเขากลับมาอีกครั้งก็ยังไม่สายเช่นเดียวกัน
"รอรึ?"
เว่ยเชียนชิวราวกับว่าได้ยินเรื่องน่าขันอย่างไร้เทียบเทียมเลยก็มิปาน "เฮยหลัง เจ้าติดตามข้ามาหลายปี มีครั้งใดบ้างที่ข้าต้องรอใคร?"
"เจ้ามิรู้หรือว่าเพื่อพลังแห่งถ้อยคำแล้ว เซียวเฉวียนจึงหลับอยู่ในพระราชวันมาแล้วสามวัน? เจ้าบอกให้รอรึ?"
เฮยหลังก้มศีรษะลงต่ำ "เจียนกั๋ว เซียวเฉวียนจักต้องฝึกพลังแห่งถ้วยคำมิได้เป็นแน่ เหตุใดท่านจึงยังวิตก?"
"ตอนนี้เซียวเฉวียนยังไม่ฟื้นขึ้นมา แม้ท่านจะทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้แล้วก็ตาม แต่เขาเองก็มิอาจตอบท่านได้ว่ายาอายุวัฒนะอยู่ที่ใดแล้วเหมือนกันนะพ่ะย่ะค่ะ"
คำพูดของเฮยหลัง ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถทำให้โทสะบนศีรษะของเว่ยเชียนชิวสงบลงได้นิดหน่อยแล้ว
ถูกต้องแล้ว เซียวเฉวียนคนโง่พรรค์นี้จะมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปหรือไม่ก็มิอาจทราบได้ บังคับให้เขานำมาให้เองก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน
เฮยหลังเป็นผู้นำของชาวยุทธ์แท้ ในหมู่ชาวยุทธ์แท้นั้น เขาโดดเด่นเหนือผู้คนเป็นอย่างมาก
แม้เขาจะไม่รู้หนังสือก็จาม ทั้งก็มิเคยได้ร่ำเรียนตำราเลยแม้แต่วันเดียวด้วย ทว่ากลับเป็นผู้ที่ฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมากผู้หนึ่ง
อาศัยพรสวรรค์และความขยันขันแข็ง ทั้งก็ความกระตือรือร้นในการอยากร่ำเรียน ในกลุ่มชาวยุทธ์แท้เฮยหลังจึงเป็นที่รักใคร่ของเว่ยเชียนชิวเป็นอย่างมาก
เขาถนัดกลศึก ถนัดใช้คน ถนัดนำทหาร พละกำลังในการทำสงครามนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สามารถควบคุมชาวยุทธ์แท้ป่าเถื่อนให้รับฟังคำสั่งการจากเขาได้แต่เพียงผู้เดียว
ชาวยุทธ์แท้ของเว่ยเชียนชิว มีชื่อเรียกขานอย่างเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายอยู่ชื่อหนึ่ง ชื่อว่าอัศวินดำ
ชื่อเรียกนี้เดิมจะต้องเป็นทหารม้าของฮ่องเต้เท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ นับตั้งแต่ต้าเว่ยสถาปนาเป็นประเทศจนมาถึงตอนก่อนหน้าเว่ยเชียนชิวนั้น ชื่อนี้ถือเป็นชื่อเรียกสำหรับเชื้อพระวงศ์
ทว่าเว่ยเชียนชิวต้องการจะให้ชาวยุทธ์แท้ของตนเองใช้ชื่อเรียกนี้ นี่จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยไม่ปลื้มพระทัยเป็นอย่างมาก ทว่าเขานั้นกลับชมชอบที่จะได้เห็นฮ่องเต้ทรงมิพอพระทัย
การทำให้ผู้คนบันดาลโทสะในทุก ๆ ด้านนั้น ขอเพียงแค่ผู้อื่นมิพอใจ แต่เขาพอใจก็พอแล้ว
ขอเพียงแค่ผู้อื่นมิพอใจ แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยน่าเบื่อหน่ายอย่างการแย่งชื่อเพียงชื่อหนึ่งแค่นี้ เขาก็ยินดีที่จะกระทำมันอย่างกระตือรือร้นเช่นเดียวกัน
ทว่านี่กลับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
กล่าวตามความจริง ตอนนี้เขาแอบรู้สึกว่าตนเองถูกเซียวเฉวียนปั่นหัวเข้าให้เสียแล้ว
เขากำลังสงสัยว่าเซียวเฉวียนกำลังใช้ยาอายุวัฒนะมาถ่วงเวลาและหลอกเขามาโดยตลอด
เว่ยเชียนชิวที่แข็งแกร่งมากเกินไปเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็มีตื่นเต็มตาได้แล้วในช่วงเวลานี้
ก่อนหน้านี้เขามิเคยต้องคิดไปในทิศทางความเป็นไปได้นี้มาก่อน
ในเมื่อใต้หล้านี้ยิ่งใหญ่มากเช่นนี้ ทั้งก็มิมีผู้ใดกล้าที่จะมาหลอกลวงเขาเลยสักคน!
ผลสุดท้ายเซียวเฉวียนกลับกล้า?
เขากล้ารึ?
ไม่หรอกกระมัง
ในตอนนั้นเอง เว่ยเชียนชิวที่มีสีหน้าเคร่งขรึมทว่าภายในหัวใจกลับแข็งค้างทันที เฮยหลังมองเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเขาแล้ว ก่อนจะก้มศีรษะลงต่ำ "เจียนกั๋ว ยังจะไปพาตัวคนมาจากพระราชวังอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
พาคนมา?
พาคนมาบ้ากระไร!
แม้เซียวเฉวียนจะตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม หากเว่ยเชียนชิวทำเขาตายที่นี่ขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นจะมิใช่เป็นการขายขี้หน้ามากขึ้นไปอีกหรอกหรือ?
"เฮยหลัง เจ้า...เจ้ากล้าหลอกลวงข้าหรือไม่?"
เว่ยเชียนชิวสบตามองเขาอย่างเคร่งขรึม เขาทราบดีว่าเฮยหลังย่อมไม่กล้าอย่างแน่นอนอยู่แล้ว
นัยน์ตาของเฮยหลังเบิกกว้างทันที คุกเข่าลงไปดัง "พรึบ" กล่าวว่า "ผู้น้อยมิอาจกล้าที่จะหลอกลวงและปกปิดต่อเจียนกั๋วเลยแม้แต่ครึ่งคำ! ผู้น้อยมีใจจงรักภักดี หากทราบก็จะกล่าวทูลจนหมดเปลือก! จะมิบังอาจ..."
เฮยหลังชะงักนิ่งไปทันที ผู้ที่หลอกลวงเว่ยเจียนกั๋วคือเซียวเฉวียนหรือ? เป็นเซียวเฉวียนอีกแล้วหรือ?
"ยังมีโรงเหล้าของมันด้วย!"
"บ่อนพนันของมัน!"
"เผาของมันให้ข้าทั้งหมด!"
เว่ยเชียนชิวระเบิดโทสะออกมาแล้ว "ข้าจะทำให้มันมิหลงเหลือสิ่งใดเลย!"
"ข้าต้องการให้มันตกจากสวรรค์ลงสู่ดินโคลน!"
"หลอกข้า!"
"มันกล้าหลอกลวงข้า!"
เสียงคำรามสั่นด้วยโทสะของเว่ยเชียนชิวดังสะท้อนไปทั่วทั้งจวนเจียนกั๋ว
"ฮ่า ๆ ๆ!"
นอกจวนเจียนกั๋ว เว่ยอวี๋หัวเราะร่าอย่างปรีดา หัวเราะฮ่า ๆ จนกุมท้องกลิ้งไปมาในรถม้า
เขาเผอิญผ่านทางมาพอดี กำลังจะพาสายลับที่ "บังเอิญ" ไป "เยี่ยมเยียนเสาะหา" มาได้แล้วมาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกับเว่ยเชียนชิวเสียหน่อย ผลลัพธ์กลับได้ยินเว่ยเชียนชิวกำลังก่นด่าเหล่าเซียวเข้าเสียอย่างนั้น
ดูท่าแล้วในระยะนี้เว่ยเชียนชิวจะใช้ชีวิตในแต่ละวันผ่านไปไม่ค่อยจะดีนักสินะ
"ท่านอ๋อง" สายลับมองเห็นเว่ยอวี๋หัวเราะจนหุบริมฝีปากมิได้เช่นนี้แล้ว "เว่ยเชียนชิวกล่าวว่าต้องการจำเผาทรัพย์สมบัติของใต้เท้าเซียว ท่านจะมิยุ่งหรือ?"
"จะยุ่งได้เช่นไร?" เว่ยอวี๋โบกมือไปมา "เจ้าสามารถห้ามมิให้เขาจุดไฟได้หรือ สามารถห้ามิให้ฟังลุกโชนขึ้นมาได้หรือ?"
"เช่นนั้นกิจการของตระกูลใต้เท้าเซียว..."
"มองเรื่องราวต้องมองให้ไกล" เว่ยอวี๋ตบศีรษะของสายลับไปมาเบา ๆ "กิจการของตระกูลที่แท้จริงของเหล่าเซียวน่ะ คือรัฐไป๋ลู่นั่นต่างหากเล่า!"
"โรงเหล้าบ่อนพนันกระไร มีอะไรต้องตื่นตระหนกกัน? ไป กลับวังหลวง ข้าจะไปดูเสียหน่อยว่าเหล่าเซียวฝึกถ้อยคำแห่งพลังได้แล้วหรือยัง"
เว่ยอวี๋ปรายตามองจวนเจียนกั๋วอย่างเดียดฉันท์หนึ่งหน สถานที่พรรค์นี้ ช้าเร็วก็ต้องราบเป็นหน้ากลอง!
ตาแก่นี่วัน ๆ ทำเอาเขามิได้สงบสุขเลย!
หลังรถม้าของเว่ยอวี๋ไปไกลแล้ว สุรเสียงดังลั่นของเว่ยเชียนชิวกลับดังขึ้นมาอีกครั้ง คำที่กล่าวออกมาทำเอาผู้คนตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน "ยังมีอีก! ชิงหยวนเองก็ต้องเผาด้วยเช่นกัน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...