ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 628

เร็วหน่อย

เร็วเข้า

เร็วขึ้นอีกหน่อย

พระขนงของฮ่องเต้ทรงเต้นกระตุกอย่างรุนแรง พระทัยตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทรงมักจะรู้สึกว่ามิสบายอยู่ที่ใดสักแห่งเสมอ ทั้งยังทรงรู้สึกอีกด้วยว่ามีที่ใดสักแห่งที่มิปกติดีนัก

หรือเป็นเพราะเฝ้าเซียวเฉวียนมานานหลายวันเช่นนี้จนมิได้พักผ่อนเป็นอย่างดี ดังนั้นกะจิตกะใจจึงมิอยู่กับตัว?

ฮ่องเต้ทรงเสวยซุปสงบจิตไปแล้วสองถ้วยใหญ่ ดังนั้นจึงผ่อนคลายลงมาเล็กน้อยหน่อยแล้ว

เขาทอดมองออกไปนอกพระตำหนักฉางหมิง ขันทีหม่าไปเชิญชวีจงเทียนมา เหตุใดยังมิกลับมาอีก?

จวนชวีที่แสนจะทรุดโทรม

ขันทีหม่ากำลังวิ่งเหยาะ ๆ มาตลอดเวลา ในสาทรฤดูที่หนาวเหน็บ ทั่วทั้งร่างของเขากลับมีเหงื่อร้อน ๆ ไหลออกมา "เร็ว ๆ ๆ! รีบตามหาใต้เท้าชวีเร็วเข้า! ไม่ว่ามุมไหนก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้!"

"ขอรับ!"

ประตูใหญ่คร่ำครึทรุดโทรมของจวนชวีเปิดแง้มเอาไว้อยู่ ในตอนที่ขันทีหม่าเข้ามาแล้วนั้น กลับค้นพบว่ามีคนเร่ร่อนผู้กลุ่มหนึ่งของเมืองหลวงกำลังนอนหลับกันอยู่ในจวน บนพื้นเต็มไปด้วยฉี่และอุจจาระ

เหล่าสหายร่วมชั้นที่ร่ำเรียนมาด้วยกันในปีนั้น บัดนี้กลับรวมกลุ่มกันกลายเป็นคนเร่ร่อน เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจวนชวีนั้นได้ตกต่ำพ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้วจริง ๆ ชวีจงเทียนเองก็ทอดทิ้งจวนชวีกับตนเองอย่างมิเหลียวแล

จวนชวีกลายเป็นสถานที่รวมตัวของสมาชิกคนเร่ร่อน ทว่ากลับไร้เงาของชวีจงเทียน

ขันทีหม่าสั่งการให้คนไปไล่คนเร่ร่อนให้ออกไปกันทั้งหมด ก่อนจะให้คนที่พามาด้วยกระจายตัวไปตามหาชวีจงเทียน

จวนชวีรูปร่างไม่เล็กไม่ใหญ่ ขันทีหม่าวิ่งอย่างกุลีกุจอมาตลอดเส้นทางพลางร้องตะโกนเสียงดังว่า "ใต้เท้าชวี! บ่าวรับพระราชโองการของฮ่องเต้มาเพื่อเชื้อเชิญท่านเข้าวังขอรับ!"

"ใต้เท้าชวี! ท่านอยู่ที่ใดรึขอรับ?"

"เซียวเฉวียนบุตรชายของท่านแม่ทัพเซียวเทียน ท่านจำได้หรือไม่? บัดนี้เขาต้องการความช่วยเหลือจากท่านนะขอรับ!"

ขันทีหม่าเดินไปพลางร้องตะโกนไป "บ่าวทราบว่าท่านต้องได้ยินแน่! ท่านออกมาเถิดขอรับ!"

"ท่านดูสิขอรับ คำพูดที่บ่าวกล่าวมิได้เป็นคำปดเลย! บ่าวยังนำหยก [1] ของท่านแม่ทัพเซียวเทียนมาด้วยนะขอรับ!"

ในปีนั้นเซียวเทียนได้มีบุญคุณต่อชวีจงเทียน สถานการณ์ในตระกูลของชวีจงเทียนยากจนข้นแค้น กระทั่งเงินที่จะใช้ซื้อเครื่องเขียนล้วนมิมี ยิ่งมิต้องไปกล่าวถึงการเข้าร่วมการสอบเข้ารับราชการเพื่อเข้าวังไปเป็นขุนนางเลย

เป็นเซียวเทียนที่ให้ความช่วยเหลือชวีจงเทียน ชวีจงเทียนถึงได้มีโอกาสหนหนึ่ง

เซียวเทียนนับถือชวีจงเทียนเสมือนพี่น้องในตระกูล ให้การช่วยเหลือชวีจงเทียนในการร่ำเรียนหนังสือ มิได้มีข้อเรียกร้องใดเลย ทั้งสองคนเป็นสหายกันอย่างแท้จริง

ชวีจงเทียนเองก็มีความมุมานะเช่นเดียวกัน ล้วนอยู่แนวหน้าตลอดเส้นทางการสอบเข้ารับราชการเสมอ สุดท้ายได้เข้าวังรับราชการอย่างราบรื่น

และอีกประการหนึ่งคือชวีจงเทียนยังมีพรสวรรค์ทางด้านการค้าอีกด้วย เขาเหมือนกับเซียวเฉวียนในตอนนี้ กล้าที่จะไม่สบอารมณ์และเหยียดหยามชนชั้นสูงคนอื่น ๆ ริเริ่มค้าขายใบชา เริ่มทำขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย สุดท้ายกลายเป็นพ่อค้าชาที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยในเมืองหลวง

สุดท้ายชวีจงเทียนก็มิได้เงินขาดมืออีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน ยามที่เขาเลี้ยงดูชวีฝานนั้น กิจการของตระกูลเองก็เหลือกินเหลือใช้แล้ว สามารถให้ชวีฝานได้มีชีวิตหรูหราร่ำรวยเหมือนดั่งคุณหนูของตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลอื่น ๆ ได้แล้วเช่นเดียวกัน

ทว่ามิตรภาพระหว่างเขากับเซียวเทียนเองก็เหมือนดั่งวันวานเช่นเดิม เพียงแต่ลึกซึ้งมากขึ้นไปอีกก็เท่านั้น

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดชวีฝานยินยอมที่จะตายแต่มิยินยอมที่จะกล่าวเซียวเทียนกับกองทัพตระกูลเซียวเป็นขยะไร้ค่า ท่านลุงเคยกล่าวกับนางมาตั้งแต่เล็กว่าน้ำหนึ่งหยดต้องตอบแทนพระคุณด้วยน้ำหนึ่งถัง

ทว่าตระกูลเซียวนั้นมีเมตตาและเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นเป็นอย่างมาก เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าตระกูลชวีมีกำลังที่จะตอบแทนบุญคุณได้แล้ว ทว่ากลับมิเคยเอ่ยถึงเลยแม้แต่คำเดียว

กองทัพตระกูลเซียวตายเพื่อปกป้องประเทศชาติ ชวีฝานจะสามารถดูหมิ่นคนในตระกูลเซียวแม้แต่ครึ่งเดียวได้อย่างไร?

ที่มุมหนึ่ง มีดวงตาฝ้าฟางคู่หนึ่งจับจ้องขันทีหม่าที่ตะโกนจนเสียงแหบมาโดยตลอด

เขามิได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งขันทีหม่านำหยกของเซียวเทียนออกมา

หยกของสหาย ชวีจงเทียนจำได้ในแว็บแรก เพราะหยกชิ้นนี้เป็นของที่ชวีจงเทียนมอบให้

ปีนั้นในระหว่างการขายชา ชวีจงเทียนเผอิญค้นพบหยกเนื้อดีก้อนหนึ่งเข้า ดังนั้นจึงนำมันกลับมาด้วย ก่อนจะสร้างเป็นหยกที่ห้อยเอวแล้วมอบให้กับเซียวเทียนไป

เซียวเทียนชมชอบเป็นอย่างมาก เขาที่เป็นแม่ทัพผู้หนึ่ง มิเคยประดับเครื่องประดับสุขุมเช่นนี้มาก่อน ทว่ากลับเป็นชวีจงเทียนที่มอบหยกชิ้นนี้ให้กับเขา เซียวเทียนจึงพกพามันอยู่ตลอดเวลา

หยกชิ้นนี้เคยแตกมาก่อน ในตอนแรกที่เซียวเทียนตายในสนามรบนั้น มีคนนำหยกที่แตกเป็นสองส่วนของเขาส่งกลับคืนมา

ยามนั้นเมื่อชวีจงเทียนมองเห็นหยกชิ้นนี้เข้า หัวใจได้แตกสลายไปเป็นหมดแล้ว เขาทราบดีว่าเพื่อนรักของตนเองมิมีทางที่จะได้กลับมาอีกแล้ว

หลังนั้นมาฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาช่างใช้เส้นเงินซ่อมแซมกลับมาเป็นเช่นเดิม จนกลายเป็นหยกที่สวมใส่ลายเส้นด้ายสีทองในวันนี้ ก่อนจะถวายคืนให้กับวังหลวงไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย