ขันทีหม่ากงกงฝืนยิ้มแห้งๆ คนโง่สิถึงจะบอก บอกแล้วชวีจงเทียนไม่มาทำไง
เซียวเฉวียนหน้าตาคล้ายกับเซียวเทียน แต่หลังจากการตายของกองทัพตระกูลเซียว ชวีฝานก็จากโลกไปเช่นกัน และชวีจงเทียนที่อารมณ์หดหู่เหี่ยวเฉาก็ไม่เคยเจอครอบครัวเซียวอีกเลย
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี เซียวเฉวียนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ชวีจงเทียนที่อยู่ไปวันๆ ก็ตระหนักได้ว่าที่แท้เวลาผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว
เขาจำเซียวเฉวียนไม่ได้ แต่เขายังคงจำจ้าวอีโต้วที่นั่งน่วมอยู่ตรงมุมห้องได้
จ้าวอีโต้ว!
ถึงใบหน้านี้จะกลายเป็นขี้เถ้า ชวีจงเทียนก็ยังจำมันได้!
”เขา! ทำไมเขาถึงมาอยู่นี่? ”
ร่างกายของชวีจงเทียนสั่นเทา ความนิ่งสงบก่อนหน้านี้ของเขาก็หายไปในทันที เขาจำจ้าวอีโต้วได้ มีคนบอกว่า จ้าวอีโต้วก็เป็นหนึ่งในคนที่เหยียบย่ำชวีฝาน!
องค์จักรพรรดิรีบอธิบายคร่าวๆ เรื่องไปยังไงมายังไง หลังจากฟังแล้ว ชวีจงเทียนแทบอยากจะทำร้ายจ้าวอีโต้วให้ตายอย่างไม่เหลือซาก "ก่อนจะตายอยู่แล้ว เขายังมีหน้ามาคิดถึงฝานเอ๋อของข้าอีกหรือ?"
“ฆ่ามันให้ตาย!”
พูดจบ ชวีจงเทียนก็ก้าวอย่างรวดเร็วไปข้างหน้าและบีบคอของอีโต้ว ดวงตาเขาแดงก่ำและมือของเขาก็รัดแน่นเหมือนกับจะฆ่าไก่ตัวหนึ่ง ฆ่ามันซะ ฆ่ามันซะ!
สหายชวี! สหายชวี!" ขันทีหม่ากงกงตกใจและรีบรั้งตัวเขา "ทำอย่างนั้นไม่ได้!"
แต่ความเคียดแค้นของชวีจงเทียนนั้นหนักหนาเกินจะทน ความขุ่นเคืองที่สั่งสมมาเป็นเวลากว่าสิบปีแปลงเป็นพลัง ขันทีหม่ากงกงจะหยุดเขาได้อย่างไร?
ผู้ชายคนหนึ่ง เหน็ดเหนื่อยทำงานเพื่อเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งจนเติบโต เธอเชื่อฟัง ฉลาด และรู้เรื่องราว
เธอช่วยซักเสื้อผ้าให้เขาด้วยมือเธอเองในฤดูหนาวและทำซุปขิงให้เขาเพื่อไล่ความหนาวเย็น ตอนนั้นชวีฝานตัวสูงยังไม่เท่าหน้าเตาอิฐ ยามเหนื่อยจากการตรวจเอกสารราชการ มือเล็กๆ ที่อบอุ่นของเธอ มักจะถือชามซุปหรือชามโจ๊กร้อนๆ พูดหวานๆ ว่า "ลุงดื่มเร็วๆ เดี๋ยวมันจะเย็น"
เด็กน่ารักดีอย่างนี้ ต้องมาตายจากไป
ตายจากไปภายใต้ร่างที่โสโครกโสมมของลูกหลานตระกูลผู้มีอำนาจฝูงนี้!
ร่างกายที่เยือกแข็งของชวีฝานถูกปกปิดด้วยเกล็ดหิมะ เทพเจ้าได้คุ้มครองศักดิ์ศรีอันสุดท้ายของเธอและไม่ทิ้งให้ร่างกายของเธอเปลือยอยู่ด้านนอก
เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ซีดเซียวตัวน้อยในกองหิมะ หัวใจของชวีจงเทียนก็แตกสลาย เจ็บช้ำในใจ เจ็บช้ำมานานกว่าสิบปี
จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน เอาเหอะ นานนมมาก
ชวีจงเทียนเริ่มตระหนักตั้งแต่วันนั้นว่าลูกหลานตระกูลยากจนก็คือลูกหลานตระกูลยากจนวันยังค่ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ไม่สามารถร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวได้ เขาก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นและตระหนักว่าความเป็นจริงคืออะไร
ถึงแม้ลูกหลานจากตระกูลยากจนจะได้เป็นข้าราชการ เขาก็ยังด้อยระดับกว่าคนอื่นในราชสำนัก!
ยังไงก็มีช่องว่างที่มิอาจก้าวข้ามของผู้มีอำนาจ!
ยังไงก็อยู่ในสภาพเสมอหนึ่งกับสุนัข!
ยังไงก็มิอาจปกป้องครอบครัวของตัวเองได้!
พยายามแค่ไหนก็ไม่สำเร็จ!
พยายามแค่ไหนก็แล้วแต่ ฝานเอ๋อของเขาก็ยังต้องตายในกองหิมะ!
พยายามแค่ไหนก็เทียบไม่ได้แม้แต่นิ้วมือเดียวของผู้มีอำนาจ! พวกเขาแค่เคลื่อนไหวนิดเดียว ก็สามารถปกปิดความเป็นจริงทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย!
ถึงหัวของชวีจงเทียนจะเคาะคำนับให้แตก ประตูจวนว่าการชั้นในก็ไม่เปิดต้อนรับเขา!
ใช่แล้ว ตอนนั้น เพื่อชวีฝาน ชวีจงเทียนในฐานเข้าราชสำนักระดับสาม คุกเข่าเป็นเวลาสามวันสามคืนในจวนว่าการชั้นใน
จวนว่าการชั้นในมีตำแหน่งต่ำกว่าเขา แต่เขายังต้องคุกเข่า!
เรื่องตลกเช่นนี้ ก็เกิดขึ้นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...