เซียวเฉวียน!
เป็นเซียวเฉวียน!
เขามาแล้ว!
เขามาแล้ว!
ก้นของข่งซานนั่งแช่อยู่ในสายฝน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองลนลานเช่นนี้เพราะอะไร เขาเพียงแต่รู้ว่า จังหวะการเต้นของหัวใจนั้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว!
ไม่ ไม่ใช่เพราะหลี่มู่ที่เขาฆ่า! ไม่ใช่เขา!
หัวใจของข่งซานกำลังกรีดร้องเสียงดัง แต่ว่าคอหอยนั้นกลับเกร็งจนไม่อาจเอ่ยคำมาได้เลยสักนิด!
“ตึก”
“ตึก”
“ตึก”
ฝีเท้าของเซียวเฉวียนนิ่งเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาซีดขาว คล้ายกับคนป่วยที่เพิ่งจะหายดี ทว่านัยน์ตาทั้งสองข้างนั้นมีชีวิตชีวาอย่างมาก
เสียงฝนหนักขนาดนั้น ซ่าๆๆ เสียงฝีเท้าของเซียวเฉวียนคล้ายกับขยายใหญ่ขึ้นข้างหูของข่งซาน ข่งซานได้ยินชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไร ภายในใจเต้นประหวั่นลนลาน
เขาเห็นเซียวเฉวียนค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว ยิ่งเซียวเฉวียนเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ สีแดงชาดกลางหว่างคิ้วของเซียวเฉวียนนั้นกลับยิ่งแดงมากขึ้น และยิ่งเห็นชัดส่องแสงเรืองรองดวงตามากขึ้นไปอีก
แล้วนั่นเป็นสีแดงแบบใดกัน?
ข่งซานมองอย่างตกตะลึง นั่นคือสีแดงของดอกเหมยกลางฤดูหนาว คล้ายกับหยาดเลือดที่อันสดใหม่ที่หยดลงมา สีสดเต็มไปด้วยประกายวาว
ผนึกนั้นตรากดลึกอยู่กลางหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน รูปร่างอขงมันนั้นเรียบง่าย เป็นแนวตั้งอันเฉียบคมเส้นหนึ่ง คล้ายกับมีใครนำพู่กันไปป้ายหมึกแดงเอาไว้ จากนั้นก็ใช้แรงและความเร็วแต้มมันลงไปกลางหว่างคิ้วของเขา
ผนึกนี้ แม้ว่าจะดูไม่แตกต่างจากของไป๋ฉี่ แต่ครั้นมองอย่างละเอียดดูแล้ว ก็ยังมีข้อแตกต่างอยู่
ตราประทับตรงหว่างคิ้วของเซียวเฉวียนนี้ ดูปลายแหลมและเฉียบคมกว่า คล้ายกับประกายตาของเซียวเฉวียน เยือกเย็นเสียดกระดูก และดูคมปลาบผิดปรกติ
“ตึก”
“ตึก”
“ตึก”
เสียงฝีเท้านั้นชัดเจนประหนึ่งเสียงตกกระทบของน้ำ แต่ละเสียงเคาะเข้าสู่ศีรษะของข่งซาน ชาวยุทธ์แท้ที่ไม่หวาดกลัวการเผชิญหน้ากับหลี่มู่ ทันใดนั้นกลับรู้สึกหวาดผวาและขนลุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
ความหวาดกลัวนี้มาจากสัญชาตญาณดั้งเดิมของตนเอง คล้ายกับสุนัขป่าตนหนึ่ง ตอนที่กำลังเจอกับนักล่าที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองหลายเท่านั้น ขนของเขาก็พลันตั้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
และนี่คือสัญชาตญาณดั้งเดิมของสัตว์ชนิดหนึ่ง
เป็นสัญชาตญาณที่ยอมสยบให้ผู้แข็งแกร่งกว่า
“ตึก”
เซียวเฉวียนที่ถือร่มเอาไว้นั้นหยุดฝีเท้าลง ก่อนจะหยุดอยู่ข้างข่งซาน
ข่งซานที่นั่งอยู่ในสายฝนนั้น พลันตื่นตัวขึ้น เขามองสายตาของเซียวเฉวียน ปากก็พึมพำพูด “ไม่ ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ฆ่า”
“ข้าไม่ได้สังหารหลี่มู่”
เขาเอ่ยวาจาตะกุกตะกัก สั่นเทา ทว่าเซียวเฉวียนไม่เอ่ยคำพูดใดๆ สักนิด นัยน์ตาอันเย็นชานั้นจับจ้องเขาอย่างลึกซึ้ง มองสำรวจเขา ร่มน้ำมันในมือของเขาคันนั้นกันสายฝนเอาไว้ น้ำฝนทั้งหมดเทราดบนหัวของข่งซาน ทำให้ใบหน้าของเขายับย่นเหมือนคางคกตัวหนึ่งก็ไม่ปาน
พระเจ้า นี่เซียวเฉวียนตั้งใจทำสิ่งใด? ถือร่มไม่นิ่งหรือยังไง?
แต่ว่าข่งซานหรือจะกล้าถือสาเซียวเฉวียนในเรื่องเล็กแค่นี้ เขาใช้มือปาดน้ำฝนบนใบหน้า พลางเอ่ยตะกุกตะกัก ลิ้นพันกันว่า “ไม่ใช่ข้า! ไม่ใช่ข้าจริงๆ นะ!”
นัยน์ตาของเซียวเฉวียนดำมืดเกินไป เป็นนัยน์ตาเฉพาะของคนต้าเว่ย ถือว่าเมื่อเทียบกับคนต้าเว่ยจำนวนมากแล้วก็ยังถือว่าดำกว่าและสว่างกว่า เมื่อถูกนัยน์ตาคู่นี้จับจ้องเข้า สามจิตเจ็ดวิญญาณก็แทบจะหายไปครึ่งหนึ่ง
ข่งซานก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับเขา ท่วงท่านี้ยิ่งคล้ายดูวิงวอนกว่าเก่า เขามองรองเท้าของเซียวเฉวียนแล้วพลันอธิบายไม่หยุด แถมยังพูดเรื่องการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านไปกับหลี่มู่ให้ฟังอีกรอบ เขามั่นใจว่าตอนที่เขาจากไป หลี่มู่ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ!
ตั้งแต่ต้นจนจบ เซียวเฉวียนไม่ได้เอ่ยสักประโยค
เขาเงียบงันและเย็นชา
เขาเหลือบนัยน์ตาขึ้นก่อนจะเดินไปยังจวนเจี้ยนกั๋ว
“ตึก”
“ตึก”
“ตึก”
ก็เป็นเช่นนี้ หลังจากที่เซียวเฉวียนจับจ้องข่งซานอย่างลึกซึ้งแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก แต่กลับจากไปง่ายๆ
จากไปเช่นนี้น่ะหรือ?
ข่งซานลนลานจนเช็ดน้ำฝนบนหน้าผาก เหงื่อเย็นๆ ของเขากับน้ำฝนนั้นผสมอยู่ด้วยกัน เขาเหม่อมองเซียวเฉวียนเดินผ่านตัวเอง จากนั้นไป๋ฉี่ก็เดินผ่านตัวเขา อีกทั้งอ้อมศพของหลี่มู่เดินผ่านตัวเขาไป เขาเบิกตามองเซียวเฉวียนจากไปอย่างเย็นชาเช่นนนี้
ทั้งชีวิตนี้ของข่งซาน ไม่เคยลืมภาพฉากนี้ได้เลย
ในชีวิตนี้ ภพนี้ เขาไม่มีทางลืมได้แน่นอน
เขาไม่มีทางลืมได้ว่าตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในครั้งนี้!
อีกฝ่ายไม่ได้ลงมืออะไรกับเขาสักนิด และไม่ได้ขยับแม้กระทั่งนิ้วมือ กระทั่งเอ่ยวาจาสักประโยคก็ไม่มี ตัวเขาข่งซานก็พ่ายแพ้แล้ว!
ในเวลานี้ข่งซานหอบหายใจหยาบ เขาถูกบรรยากาศอันยิ่งใหญ่ของเซียวเฉวียนกดทับจนหายใจแทบไม่ออกแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...