บทที่ 644 ราวกับสุนัขปลิดชีพตัวเอง – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 644 ราวกับสุนัขปลิดชีพตัวเอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ในคืนนั้น บริเวณสกุลจ้าวมีบางสิ่งบางอย่างถูกสังหาร
เหมิงอ้าวและเจ้าหนึ่งร่วมกันปกป้องคนในสกุลจ้าว
เมื่อกวนอวี่ลอยเข้ามา เหมิงอ้าวและคนอื่น ๆ ก็ตกใจกันหมด
เหมิงอ้าวชี้ดาบมาทางเขา:“ถ้าคนในสกุลจ้าวเป็ฆาตกรจริง พวกเขาจะได้รับโทษตามกฎหมาย แต่เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงกล้าบุกรุกที่นี่”
ถ้าชื่อกวนอวี่ ผู้พิทักษ์กวนเหลียงแห่งเมืองหลวง
กวนวี่ประกาศชื่อตัวเองอย่างมั่นใจ เขารู้ว่าเหมิงอ้าวค่คือคนของเซียวฉวน
เมื่อพบเจอวันนี้ เขาจึงรู้ว่าเหมิงอ้าวไม่เหมือนกับคนอื่นทั่วไป
เหมิงอ้าวตกใจกับกวนอวี่ที่ยืนอยู่ตรวนั้น กวนอวี่เป็นคนตัวสูงประมาณ 9 ฟุตและมีหนวดเครายาว 2 ฟุต ไม่เพียงแค่นั้น เขายังมีคิ้วหล่อเหลาและดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาว จริงๆ แล้วเขาค่อนข้างดูดีสำหรับผู้ชายที่มีนิสัยแข็งทื่อ
ใบหน้าของเขาดูเหมือนพุทรา ริมฝีปากมันเยิ้ม ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนนกฟีนิกซ์ และคิ้วของเขาเหมือนไหม เรียกได้ว่า เขามีรูปลักษณ์ที่สง่างามกว่าคนทั่วไปมาก
ดวงตาความกล้าหาญที่เหมือนนกฟีนิกซ์นั้น ทำให้เขาดูเป็นวีรบุรุษที่เก่งกาจ
สามารถที่เฉียบแหลมนี้สามารถสังหารชีวิตคนได้
ร่างกายที่สูงกำยำนั้น ทำให้กวนอวี่เฟิงดูสูงกว่าคนทั่วไป
โชคดีที่เซียวฉวนเป็นคนที่เก่งกาจ รูปปร่างกำยำ ไม่งั้นเขาต้องเงยหน้าขึ้นมองกวนอวี่อย่างแน่
กวนอวี่และเหมิงอ้าวมีพละกำลังที่เท่ากัน พวกเขาจึงไม่ได้เกรงกลัวการต่อสู้ที่ศัตรูมีมาก
เมื่อกวนอวี่เอาชนะพวกเขาเสร็จ เขาและเหมิงอ้าวก็ได้ประชุมกัน
เหมิงอ้าวที่คนอย่างเซียวฉวนเป็นเจ้านาย มันแสดงถึงความแข็งแกร่งทั้งหมด อย่างไรก็ตามกวนอวี่ก็ต่างจากคนอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปสู้รบ เขาจะใช้สมองเสมอ
กวนอวี่และเหมิงอ้าวต่อสู้กันอยากดุเดือด พวกเขาสามารถฆ่าคนในสกุลจ้าวได้ตลอดเวลา เพียงแค่เหมิงอ้าวทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ตลคนในสกุลจ้าวก็จะเสียชีงิตกันหมด
แน่นอนว่าผู้พิทักษ์คนนี้เป็นคนฉลาด
เหมิงอ้าวก็เป็นคนที่ฉลาดเช่นกัน
ในการต่อสู้ระยะประชิดนี้ เหมิงอ้าวได้เปรียบ แต่ดาบของกวนอวี่นั้นยาว หากเหมิงอ้าว
ไม่ระวังเข้า ดาบนั้นจะถูกพุ่งตรงไปยังคนกสุลจ้าว
เหมิงอ้าวปกป้องสิ่งนี้ และกวนอวี่ก็สังหารสิ่งนั้น
เหมิงอ้าวกำลังปกป้องสิ่งนั้น แต่กวนอวี่ก็สังหารมันเข้า
อย่างเด็ดเดี่ยวโดยไม่มีความเลอะเทอะใด ๆ และการเคลื่อนไหวของเขาก็คล่องแคล่วมากจนผู้คนตกใจ
เหมิงอ้าวรู้สึกฉุนเฉียวมากในการต่อสู้ กวนอวี่ดูเป็นคนที่มีอายุเล็กน้อย
และเขามีความฉลาดหลักแหลมมากกว่าลิง!
“ลุงสิบหก! รีบมาเร็ว!”
เหมิงอ้าวทนไม่ไหวและเรียกขอความช่วยเหลือ:“เหมิงอ้าว…ขอโทษ…ข้าช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว”
ชิหลิวถูกดาบชิงหลงหยานเยว่แทงเข้า ทำให้เขาหมดสติไป
กวนอวี่คนนี้ดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายบนเกาะจูเสินอีก! ข้าไม่ให้อภัยแน่
และท้ายที่สุดจ้าวอีโต้วภรรยาของจ้าวซื่อก็ได้เสียชีวิตลง
ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอได้บอกกับเหมิงฮ้าวว่า:"เจ้านี่มันไร้ประโยชน์! ไหนบอกว่าเจ้าเก่งนักเก่งหนาไง! ทำไมเจ้าถึงยอมให้คนคนนี้ฆ่าคนในครอบครัวข้าจนหมด!"
เหมิงฮ้าวกลอกตามองด้านบน ในฐานะที่ข้าเป็นแฟนคลับตัวยงของเซียวฉวน ข้าขอพูดอะไรสักหน่อยก็แล้วกัน:"เจ้าให้แต่นายของข้ามีพละกำลังมาก แต่เจ้ากลับไม่ให้คนในบ้านมีพละกำลัง"
ปกป้องจนถึงชีวิต
ดูแล้วกวนเหลียงคงจะเป็นคนที่มีความสามารถแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาไม่สามารถเป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนักได้
"เจ้าแพ้แล้ว แต่เจ้ายังคุยกับข้าอย่างเหตุผล!"
นางจ้าวน่ารำคาญกว่าแม่ฉินซะอีก ราวกับสิ่งที่เหมิงฮ้าวควรจะปกป้องเธอ
ตอนที่เธอกำลังดุเหมิงอ้าวนั้น เธอรู้สึกดีใจกระโดดโลกเต้นไปมา จนหลุดออกจากการคุ้มกันของเหมิงฮ้าว กวนอวี่ที่กำลังหาโอกาสอยู่ ก็ได้ใช้ดาบชิงหลงเยียนเยว่แทงลงไป จ้าวซื่อ
จงกุ้ยตกใจอย่างมาก เขาถอนหายใจและพูดว่า:“คนทรยศ! พวกเจ้ารีบพาตัวออกไป! ฮ่องเต้มีรับสั่งถ้ายังมีชีวิตต้องให้เห็นร่างกาย ถ้าเสียชีวิตก็ต้องเห็นศพ!”
“ขอรับ!”
คืนนี้เป็นคืนที่ปั่นป่วนมากที่สุดในเมืองหลวง ทั้งจวนสกุลเซียวถูกเผา ภรรยาของสกุลกวนเสียชีวิต และคนในสกุลเจ้าถูกสังหารทั้งหมด
ขณะที่เหมิงอ้าวรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้แก่กวนอวี่ แต่สุดท้ายเซียวฉวนก็ได้ไปรายงานที่ศาลในตอนเช้า
เมื่อเหมิงอ้าวกลับมา เขาก็พบกับจวนของตระกูลเซียวที่ถูกไผเผาไหมจนราคาบ
ในเขาเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เหมือนเหลือที่กำลังไหลออกมาจากหัวใจ
สิ่งที่เขารู้สึกกังวลใจมากที่สุดคือ เขากลัวที่จะถูกนายตำหนิที่ไม่ส่มารถเอาชนะกวนอวี่ได้
เขาจึงั่งรออยู่หน้าจวนประตู รอเซียวฉวนกลับมา
“จวนสกุลเซียวถูกเผาแบบนี้ ของโบราณคงไม่ได้ถูกเผาไปด้วยใช่ไหม ครั้งคุณชายเซียวจะกลายเป็นชายยาจกคนหนึ่งแล้วล่ะสิ”
“ข้าเคยพูดแล้ว คนอย่างเซียวฉวน มีแต่จะทำให้ครอบครัวพังทลายลง”
เหมิงอ้าวที่นั่งรออยู่ตรงบันไดได้หลายวัน ก็ได้ยินเสียงของชาวบ้านนินทาเรื่อยมา
คนหนึ่งกลุ่มและสัตว์อีก 3 ตัว ซึ่งมันดูเหมือนราวกับสุนัขที่ปลิดชีพทั้งเป็น
โย่วควนนั่งลงตรงบันได้ เขารู้สึกโศกเศร้าอย่างมาก ร้านอาหารก็ถูกไฟเผา ไม่เหลืออะไรแล้ว แม้กระทั่งจะชมละคร ก็ไม่สามารถชมได้ จวนก็ไม่มีให้กลับแล้ว
โย่วควนนับรายชื่อคนเหล่านี้ คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนมั่งคั่งของสกุลเซียว
โชคดีที่ที่สมาชิกผู้หญิงไม่อยู่ที่นี่ นางเซียว เซียวจิ้ง ท่านแม่ของแม่นางไป๋ฉี่ และรวมไปถึงแม่นางหยางหยู้ฉี พวกเธอพากัยไปบ่อน้ำพุร้อน ไม่อย่างนั้นเมื่อคืนคงเป็นคืนที่ยุ่งมากอย่างแน่แท้ง
โย่วควนสงสัยว่าหลังจากนี้นายท่านจะพอกันไปพักอาศัยอยู่ที่ไหน
ในช่วงเวลาก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งขี่ม้ามาหยุดที่จวนสกุลเซียว และถามว่า“พวกเจ้นที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งหมด เป็นคนของสกุลเซียวหรอ”
“โฮ่ง ๆ ๆ”เจ้าสุนัขตัวสีเหลืองดีใจไปมา ใช่แล้ว! ใช่แล้ว! ข้าคือสุนัขของเซียวฉวน!
ไป๋ฉี่ปิดปากสุนัขอย่างระมัดระวังและถามว่า:"เกิดอะไรขึ้น?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...