ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 649

สรุปบท บทที่ 649 เทพเจ้าแห่งเทพเจ้า: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 649 เทพเจ้าแห่งเทพเจ้า จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 649 เทพเจ้าแห่งเทพเจ้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เซียวเฉวียนเบิกตากว้างมองไปที่เหมิงเอ้า

“กวนอูไงขอรับ” ท่าทางมีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดได้เต็มปากเต็มคำของเหมิงเอ้า เต็มไปด้วยความภาคภูมิ

เมื่อตอบเสร็จ เขารู้สึกว่าน้ำเสียงเช่นนี้ไม่สมควรเป็นอย่างมาก จึงก้มหน้าลง “ชื่อกวนอูขอรับ…”

กวนอู?

“เขียนอย่างไร?” ความประหลาดใจของเซียวเฉวียนมีมากโข ในตอนนั้นไม่จำเป็นต้องได้ยินไป๋ฉี่ โจโฉ หยางอวี้หวน

แม้ว่าจะมาที่นี่ได้หลายวันแล้ว ทว่าเมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นหู ก็มากพอที่จะทำให้เซียวเฉวียนประหลาดใจได้

เหมิงเอ้าที่เรียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ความมั่นใจเต็มเปี่ยมเสมอ “กอ อวน กวน ออ อุ อุ!”

ไป๋ฉี่ก่ายหน้าผาก

“กวนอุงั้นหรือ?” เซียวเฉวียนสับสนเล็กน้อย กวนอุ...

“นายท่านขอรับ” ไป๋ฉี่ลุกขึ้นอย่างหมดหวัง พลางตอบว่า “ข้าน้อยได้ทำการตรวจสอบที่รัฐมนตรีการคลังแล้ว กวนอู ชื่อของเขาคือ กวนอู ขอรับ กอ อวน กวน ออ สระอู กวนอู”

“นี่ จริงหรือ? เป็นเช่นนั้นหรือ?” เหมิงเอ้าทำสีหน้าเข้าใจ พวกโย่วควนแทบขำกลิ้ง

เซียวเฉวียนเบิกตากว้าง!

กวนอู! กวนอู!

เทพเจ้าเฝ้าประตูเชียวนะ!

สำหรับกวนอูแล้ว ปฏิกิริยาแรกของเซียวเฉวียนคือกวนกงที่เอาไว้แปะประตูบ้านในทุกวันตรุษจีน!

เทพบุ๋นคือขงจื้อ เทพบู๊คือก็คือกวนกง กวนอู

ในเรื่องสามก๊ก กวนกงเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ความชอบธรรม’ ไม่ว่าโจโฉจะดีต่อท่านแค่ไหน ท่านก็ไม่ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับเล่าปี่ ความจงรักภักดียังอยู่ในใจเสมอ

กวนอูเคยตกลงกับจูกัดเหลียงว่า หากยอมปล่อยโจโฉไป จูกัดเหลียงสามารถเอาตำแหน่งหัวหน้าของเขาไปได้ตลอดเวลา และในเส้นทางฮัวหยง เพื่อตอบแทนบุญคุณโจโฉ กวนอูได้ปล่อยโจโฉไปโดยไม่คำนึงถึงความเป็นความตาย ความชอบธรรมของกวนอูคือความชอบธรรมที่ยิ่งใหญ่ เขาถือเป็นผู้เที่ยงธรรมตลอดเวลา

ในฮว๋าเซี่ย กวนอูเป็นศูนย์รวมของความจงรักภักดีและภาพลักษณ์ของความจงรักภักดีต่อกษัตริย์และความรักชาติ ซึ่งได้รับการยกย่องจากกษัตริย์ทุกยุคทุกสมัย ชนชั้นปกครองระบบศักดินาทุกยุคทุกสมัย ให้กวนอูเป็นศูนย์รวมของ ‘ความจงรักภักดี’ เพื่อรวมอำนาจการปกครองของตนเอง สถานะของกวนอูถูกยกขึ้นเรื่อย ๆ ‘จากขุนนางสู่ฮ่องเต้’ ‘หมุนเวียนสู่จักรพรรดิ’ และในที่สุดก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘เทพแห่งศิลปะการต่อสู้’

ฮว๋าเซี่ยใช้ศาลเจ้ากวนตี้เป็นวัดบู๊ และใช้ในการเซ่นไหว้ เหล่าขุนนางทั้งหลายรวมทั้งเหล่าประชาชนทุกภาคส่วนประกอบพิธีเซ่นไหว้แก่ยุคชุนชิว ด้วยเครื่องเซ่นไหว้สามอย่าง

กวนอูกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการสักการะบูชาระดับชาติ มีสถานะเทียบเท่ากับยอดปราชญ์อย่างขงจื๊อ

กวนอูเป็นนักรบเพียงผู้เดียวที่สามารถทำให้ชาวบ้านและคนในราชสำนักต่างเลื่อมใสศรัทธา

หลายพันปีที่ผ่านมา ได้รับการตั้งสมญานามโดยผู้ปกครองแต่ละยุคสมัย ตลอดจนถึงคำอธิบายในวีรคติของละครและวรรณกรรม กล่าวว่าเป็นบุคคลที่ ‘ภักดีต่อประเทศ ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา จัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยปัญญา ผูกมิตรด้วยความยุติธรรม และต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ’ ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของกวนกงเป็นตัวแทนคุณธรรมดั้งเดิมของฮว๋าเซี่ย ซึ่งปรากฏต่อหน้าชาวโลก

ท่านเริ่มขึ้นจาก ‘บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล’ สู่ ‘เทพเจ้าแห่งเทพเจ้า’ และกลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง เทพเจ้าแห่งวรรณกรรม และเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม เป็นเทพผู้ทรงอำนาจในทุกด้าน เป็นที่น่าเคารพของผู้ปกครองในแต่ละยุคและประชาชน รวมถึงฮว๋าเซี่ยดินแดนจีน ญี่ปุ่นนอกเขตทะเล ผู้คนทั้งในและนอกประเทศ ต่างร่วมกันกราบไหว้บูชา

ก่อนสิ้นชีวิตท่านยังเป็นคน หลังจากจากโลกนี้แล้วก็ได้รับการปลุกเสก ตามนโยบายปกครองของราชสำนักแต่ละยุค ได้รับการบูชากราบไหว้จากจักรพรรดิและประชาชนมากมาย จวบจนกลายเป็นเทพแห่งสวรรค์

รูปปั้นเทพกวนอูถือง้าวมังกรเขียว รวมทั้งศาลเจ้าบรรพชนของกวนอูกระจายอยู่ทั่วทุกที่ เป็นเทพเจ้าอีกท่านหนึ่งที่มีศาลเจ้าบรรพชนมากที่สุดในฮว๋าเซี่ย

วัดที่สักการะกวนอูไม่ได้มีเพียงในพื้นที่ฮว๋าเซี่ยเท่านั้น ยังแผ่ขยายไปยังต่างประเทศอีกด้วย

เนื่องด้วยกวนอูไม่เพียงได้รับการเคารพบูชาจากลัทธิขงจื๊อเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังได้รับการกราบไหว้บูชาจากลัทธิเต๋าและพุทธศาสนา ดังนั้นกวนอูจึงเป็นเทพเจ้าที่สอดแทรกอยู่ในลัทธิขงจื๊อ ลัทธิเต๋าและพุทธศาสนาสามนิกายของฮว๋าเซี่ย ซึ่งกวนอูของลัทธิขงจื๊อสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของกวนอูได้มากกว่า

แม่ทัพที่เลื่องชื่อในต้าเว่ยที่มีชื่อเหมือนกันเหล่านี้ และผู้ที่อยู่ในฮว๋าเซี่ยซึ่งมีแหล่งกำเนิดที่ไม่อาจบอกใครได้ พวกเขามีนิสัยคล้ายกัน ไม่ได้เป็นคนนิสัยแย่ ความชอบก็คล้ายกัน รูปร่างหน้าตาและการถูกกล่าวถึงในหนังสือประวัติศาสตร์ก็มีความคล้ายคลึงกัน

สาเหตุที่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้ายังไม่ถึงระดับเทพฮว๋าเซี่ย อาจเป็นเพราะพวกเขาอยู่ในช่วงการเติบโต

และที่กวนอูสามารถเอาชนะเหมิงเอ้าได้ อาจเป็นเหมือนกับโจโฉ พวกเขาผ่านช่วงการเติบโตมาแล้ว

“ฮ่า ๆ!” เหมิงเอ้ายิ้มร่าเห็นฟันซี่ใหญ่ พลางพยักหน้า ยอมรับโดยปริยายว่าตัวเองมีอนาคตมากจริง ๆ

ขณะนั้นไป๋ฉี่นึกครึ้มในใจ นายท่านไม่รู้จักกวนอูเสียหน่อย เหตุใดจึงให้การยอมรับกวนอูเช่นนี้?

“เรื่องที่ข้าให้เจ้าจัดการ เรียบร้อยแล้วหรือไม่?” เซียวเฉวียนนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย ตำหนักยางหวาใหญ่ก็จริง ทว่าคนน้อยเกินไป บรรยากาศวังเวงเหลือทน

“เรียบร้อยแล้วขอรับ!”

เหมิงเอ้าพยักหน้าอย่างดีใจ และตะโกนไปยังพวกโย่วควน “นายท่านเรียกนางระบำที่สวยที่สุดในพระราชวังมา! บอกว่าจะให้พวกเราได้เปิดโลกบ้าง!”

เซียวเฉวียนก่ายหน้าผาก พระเจ้า ถ้าข้าทำอะไรผิด โปรดปล่อยให้ข้าตายเสียเถอะ เหตุใดจึงปล่อยให้เด็กคนนี้ทรมานข้าเช่นนี้! อ้า...

“...”

ทกุคนต่างเห็นท่าทีจำทนของเซียวเฉวียน เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนและเหมิงเอ้าไม่ได้พูดเรื่องเดียวกัน

“ทำไมงั้นหรือ?” เหมิงเอ้าทำให้ผู้อื่นมีน้ำโหแต่ตนเองไม่ทันรู้ตัว ดวงตาเป็นประกายสดใสมาก

เซียวเฉวียนสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง และฝืนยิ้ม พยายามทำท่าทีที่อ่อนโยนอย่างที่เจ้านายพึงมี “เรื่องที่ข้าถามคือ เจ้ารับจิงเอ๋อร์ออกมาแล้วหรือยัง?”

เซียวเฉวียนหมายถึงผู้แอบแฝง เซียวจิงตัวปลอมผู้นั้น

เหมิงเอ้าตบเข้าทีสมองของเขา “โอ้ยตายแล้ว!”

“ยังไม่ได้รับงั้นหรือ?” ทุกคนต่างพูดขึ้นมาพร้อมกันอย่างตกใจ คราวนี้นายท่านได้ฉีกเนื้อเหมิงเอ้าเป็นแน่

“รับแล้ว!” เหมิงเอ้าชี้ “นั่น! นั่นไงเล่า!”

ทุกคนต่างหันไปมอง สาวน้อยหน้าตางดงามนางหนึ่งก็เดินมาเข้ามาช้า ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย