ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 654

“โอ้ให้ตายสิ เป็นแบบนี้ไม่เรียกว่าบ้าไปแล้วหรือ? นางข้าหลวงในวังผู้ต่ำต้อยที่กระทำความผิดเช่นนี้กลับคิดว่าตนเองเป็นบุตรของท่านแม่ทัพ? ฮ่าฮ่า! ”

“คำพูดพวกนี้เจ้าไม่เบื่อที่จะพูดแต่ข้าเบื่อเหลือทนที่จะฟังแล้ว!”

ขณะนี้ ข้าหลวงหญิงชราทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป นางคว้าหญิงสาวร่างบางผลักลงไปแนบพื้นและเริ่มทำร้ายทั้งต่อยและเตะ

“ดีมาก! ตีได้ดี!”

“ตีได้ยอดเยี่ยม!”

เหล่าผู้ถูกขังที่ในแต่ละวันไม่มีเรื่องอะไรให้คุย ในชีวิตประจำวันหากมีคนที่สามารถรังแกได้สักคน แน่นอนว่าพวกเธอมีความสุขกันมากทีเดียว

อีกด้านหญิงสาวที่ร้องไห้เคาะประตูมาตลอดเมื่อครู่ถูกตีจนหยุดร้องไห้แล้ว เธอขดกายงอหลังปล่อยให้ตัวเองโดนทำร้ายอยู่เช่นนั้นหากแต่ดวงตายังแข็งกร้าวไม่ยอมพ่ายแพ้

“อย่าตีนะ! อย่าตีนางอีกเลย!”

หญิงสาวที่ผอมบางกว่ารีบพุ่งออกมา “หากยังไม่หยุดตี เดี๋ยวนางก็ตายหรอก!”

พูดจบเธอก็ผลักข้าหลวงหญิงชราออกไปและคว้าหญิงสาวผู้นั้นมาปกป้องไว้ข้างหลัง “อาหมาน! เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”

อาหมาน คือนามแฝงเวลาอยู่ที่นี่ของฉินซูโหรว

เธอรังเกียจชื่อนี้มาโดยตลอด ที่จริงแล้วเธอไม่ได้อนุญาตให้ทุกคนเรียกเธอแบบนี้แต่ทุกคนก็ยังเรียกเธอว่าอาหมาน

ฉินซูโหรวไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่นี่มานานเพียงใด แต่คงจะนาน นานมากๆแล้ว

เธอไม่รู้คืนรู้วันเธอรู้แต่เพียงว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ห้าฤดูหนาวแล้ว

เธอถูกขังอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาห้าปีแล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอและท่านหญิงของเธอเข้าไปในพระราชวังเพื่อเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระราชินี แต่พวกเธอก็หลงทางอยู่พักหนึ่งและหลงทางอยู่ในพระราชวัง

เธอถูกฟาดจนหมดสติไปและหลังจากที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าถูกทิ้งให้เข้ามายังตำหนักเย็นนี้แล้ว เสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่แต่เดิมก็ได้หายไปแล้วแทนที่ด้วยชุดของนางข้าหลวงอีกทั้งยังถูกคนจงใจทำให้ใบหน้าของเธอเปือนฝุ่นสกปรกอีก

คนที่ถูกขังไว้กับเธอก็ล้วนเป็นข้าหลวงหญิงที่ได้กระทำความผิดในตำหนักของพระนางทั้งสิ้น

ไม่ว่าเธอจะพยายามหนีออกไปสักกี่ครั้งก็ไม่เคยสำเร็จเลย

เธอได้บอกทุกคนแล้วว่าเธอไม่ใช่นางข้าหลวง ท่านปู่ของเธอคือฉินปาฟางผู้มีชื่อเสียง ท่านพ่อของเธอคือแม่ทัพทหารม้าฉินเซิง ท่านหญิงของเธอคือองค์หญิงใหญ่ และเธอยังมีสามีที่ถูกหมั้นหมายแต่งงานด้วยตั้งแต่ยังเด็กเป็นลูกชายของท่านอดีตแม่ทัพเซียว

เธอคือฉินซูโหรว เธอแซ่ฉิน ฉินที่มาจากตระกูลแม่ทัพตระกูลฉินที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง

ตลอดเวลาห้าปีมานี้ ไม่มีเวลาไหนเลยที่เธอไม่คิดจะหนีออกไป เธอไม่เข้าใจการที่เธอหายมาแบบนี้คนในตระกูลไม่คิดจะตามเธอเลยหรือ?

หากคนในตระกูลพบว่าเธอหายไป เสด็จลุงฮ่องเต้ต้องร้อนรนเป็นแน่ ท่านจะต้องตรวจทุกซอกทุกมุมของพระราชวังแม้แต่ตำหนักเย็นแห่งนี้ก็ต้องไม่มีพลาด

แต่ว่าไม่มีคนจากตระกูลมาตามหาเธอเลยแม้แต่ผู้เดียว

ฉินซูโหรวไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก เธอติดอยู่ที่นี่เฝ้ารอคนในตระกูลมาช่วยเธอออกไปมาโดยตลอด แต่วันเดือนปีไหลผ่านไปนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังไม่มีใครมาหาเธอเลย

เธอถูกลืมทิ้งไว้ที่นี่แล้ว

จนถึงวันนี้ เธอที่นั่งอยู่ที่หน้าประตูมาโดยตลอดได้ยินเสียงนางข้าหลวงที่เดินผ่านมากำลังพูดคุยกันเรื่องราชครูคนใหม่นามว่าเซียวเฉวียน ตาขอเธอมีประกายขึ้นมา

เซียวเฉวียน?

ใช่คนที่สัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอในสมัยเด็กคนนั้นไหม?

ฉินซูโหรวเกิดความสงสัยขึ้นในใจ เซียวเฉวียนกับเธออายุก็ไล่เลี่ยกัน จะกลายมาเป็นราชครูได้อย่างไรกัน?

แต่เหล่านางข้าหลวงก็พูดคุยกันว่าราชครูคนนี้อายุยังน้อยมาก

คนที่ทั้งชื่อและแซ่เดียวกันนั้นมีมากนัก ฉินซูโหรวจึงเลือกที่จะไม่สนใจ นี่เป็นหนทางรอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่มเคาะประตูและตะโกนอย่างสุดเสียง

เหล่าข้าหลวงหญิงที่ผ่านมารู้ดีว่าคนที่อยู่ข้างในส่วนใหญ่เป็นพวกบ้าบอไร้สมอง ดังนั้นพวกเธอแน่นอนว่าก็ไม่ได้สนใจคำพูดบ้าๆบอๆของเธออยู่แล้ว พวกเธอแค่รีบเดินออกไปแล้วแยกไปทำงานของตนเอง

“โฮ่งโฮ่งโฮ่ง”

“โฮรว!”

ขณะนั้นเองมีเสียงของสุนัขตัวหนึ่งเห่าขึ้นพร้อมกันมีเสียงของเซียวเฟิงตามไล่หลัง

เป็นเสียงของเจ้าสุนัขสีเหลืองกับเซี่ยวเฟิงกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทำเสียงดังไปทั่วทั้งพระราชวังวิ่งเล่นวุ่นวายมาถึงที่นี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย