ต่งจัวและเถ๋าจี๋ชายแข็งแกร่งทั้งสองมองหน้ากันอย่างงงวย
ไม่ใช่ว่านายท่านต้องการหญ้าอสุราหรอกหรือ?
นี่ไม่ใช่หญ้าอสุราอย่างนั้นหรือ?
ปัญหาคืออะไรกัน?
ณ ตำหนักยางหวา
เซียวเฉวียนออกมาจากจวนฉิน กำจัดฉินซูโหรวตัวปลอมที่ไล่ตามเขา และเดินทางกลับพระราชวัง
สำหรับผู้หญิงอย่างนั้น ค่อยกลับมาจัดการในภายหลังก็ได้
เขามีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าต่งจัวและเถ๋าจี๋กลับมาแล้ว เขาจัดเตรียมชา เหล้า เนื้อสัตว์ การแสดงเพื่อต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดี
เขามีความสุขและตื่นเต้นมาก
จนกระทั่งเขาเห็นหญ้าในมือของต่งจัว
เขามองไปยังต้นหญ้าหนึ่งต้น
ใบหน้าของเซียวเฉวียนราวกับคนที่หัวใจแหลกสลาย ความสุขและความตื่นเต้นที่มีก่อนหน้าหายวับไปกับตา
ไป๋ฉี่และคนอื่นๆ ก้มศีรษะลงรอให้เซียวเฉวียนพูด
เซียวเฉวียนกลับยังคงนิ่งเงียบ
เซียวเฉวียนจ้องไปที่หญ้าต้นหนึ่งในมือต่งจัวอย่างว่างเปล่า หญ้านั้นชื้นและมีกลิ่นหอมอยู่ หญ้ายังมีชีวิต เซียวเฉวียนสลัดควาผิดหวังภายในใจของเขาออกไป อันนี้จริงตงโจวก็ช่างคิด เขานำหญ้ากลับมาพร้อมกับดิน
เห้อ อย่างน้อยก็ทำได้ดี
ทำได้ดีอยู่…
เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเฉวียน ต่งจัวกระพริบตาปริบๆ นึกว่านายท่านมีความสุขจนพูดไม่ออก
จากนั้นไม่นานเซียวเฉวียนก็หายใจเข้าลึกๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกระตุกยิ้มมุมปาก: "ต่งจัว เถ๋าจี๋เจ้าสองคนเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติงั้นรึ?"
นักอนุรักษ์?
ทั้งสองคนตกตะลึง
เซียวเฉวียนมองดูใบหน้าที่ไร้เดียงสาของพวกเขา และตระหนักได้ทันทีว่าในที่สุดก็มีคนที่น่ารำคาญกว่าเหมิงเอ้าโผล่มา!
เวรกรรมอะไรของลูกช้าง!
เซียวเฉวียนทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ? มีแต่คนแปลกๆทั้งนั้น! ต่งจัวเป็นมังกรพ่นพิษไม่ใช่อย่างนั้นหรือ? แล้วนี้มันคืออะไรกัน?
แม้กระทั่งเถ๋าจี๋ที่เป็นบุคคลที่สามารถจารึกชื่อของตนในประวัติศาสตร์ได้ แต่ทำไมเป็นเช่นนี้? ไม่มีสมองแล้วอย่างนั้นหรือ?
เซียวเฉวียนหายใจเข้าลึกๆ และหวังว่าพวกเขาจะคุกเข่าลงร้องขอความเมตตา:"พี่ใหญ่ทั้งสอง แค่ต้นเดียวเองหรือ? ต้นเดียวเท่านั้นหรือ?"
“นี้มันอะไรกัน? แดนตะวันตกห้ามให้เด็ดหญ้าหรืออย่างไร หรือเจ้าเป็นห่วงธรรมชาติ หากเด็ดมาเพิ่มอีกสองสามต้นจะทำให้ออกซิเจนในโลกน้อยลงไปงั้นรึ!"
เจ้าเก้าเบิกตากว้าง นายท่านโกรธแล้ว!!
ก็ดูผลงานดีๆของเจ้าสองคนนี่สิ!
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เซียวเฉวียนพูด และคำตอบของต่งจัวทำให้เซียวเฉวีบนโกรธมากจนยากจะเอาหัวโขกกำแพง และท่าทีของต่งจัวจริงจังมากราวกับว่าการกระทำครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด:"นายท่าน ท่านไม่ได้บอกว่าท่านต้องการมากแค่ไหน"
“ใช่ขอรับ” เถ๋าจี๋พยักหน้า
เซียวเฉวียน ไป๋ฉี่และคนอื่นๆยกมือขึ้นจับที่หน้าผากโดยพร้อมเพรียงกัน
อ๊ากกก!
ถ้าองค์ชายชิงหลงอยู่ที่นี่ เซียวเฉวียนและองค์ชายชิงหลงคงกอดคอกันร้องไห้อย่างแน่นอน! นักรบนี้เป็นมนุษย์แบบไหนกัน ทำไมวงจรสมองของพวกเขาถึงแตกต่างจากคนปกติ!
เซียวเฉวียนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ หากตัวเขาไม่ได้เป็นนายของเหล่าคนที่มีความสามารถ เขาก็คงเป็นพ่อของเด็กดื้อรั้นในสังคมยุคใหม่ หรือเป็นพ่อที่ต้องเสียน้ำตาทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "หืม อยากให้ข้าพูดจริงหรือ เจ้าทำเช่นนี้ ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ เจ้าถามข้ามาได้อย่างไรกัน?"
ในที่สุดเซียวเฉวียนก็รู้แจ้งแล้วว่านักรบนั้นไม่มีความรู้ และยังเเย่ยิ่งกว่าเว่ยหยู้เสียอีก
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถามท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ หากข้าทำอะไรชั่วช้าให้ข้าโดนฟ้าผ่าให้ตายยังดีกว่า ทำไม…ทำไมต้องส่งชายร่างใหญ่สองคนมาทรมานข้าด้วย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...