ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 668

สรุปบท บทที่ 668 ซูโหรวกลับมา: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 668 ซูโหรวกลับมา จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 668 ซูโหรวกลับมา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ต้นหนึ่ง...

ในยามนี้ สายตาของพวกเซียวเฉวียนที่มองหญ้าอสุราแตกต่างออกไปแล้ว มันคือทรัพย์สมบัติเลยนะ!

ในที่สุดเซียวเฉวียนก็เข้าใจว่าเหตุใดต่งจัวถึงเอามากระทั่งดินด้วย

ต้องเป็นแบบนี้ ต้นอสุราเพียงต้นเดียวนี้ถึงสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้

เพียงแต่เซียวเฉวียนไม่เข้าใจอย่างมาก ต้นอสุรานั้นเติบโตอยู่ในพื้นที่กันดารหนาวเหน็บ ว่ากันตามเหตุผล พลังชีวิตของมันเองก็แกร่งกล้าอย่างมาก ไม่ต้องพูดว่าขึ้นอยู่เต็มภูเขาไปหมด อันนั้นก็ควรมีจำนวนไม่น้อย เหตุใดจึงมีเพียงต้นเดียวกันล่ะ?

“ตามที่คนท้องถิ่นว่า หลายปีก่อนหน้านี้ หญ้าอสุรานั้นจำนวนมากเหี่ยวแห้งตายไป” ต่งจัวแปลคำพูดของคนพื้นที่ทุรกันดารหนาวเหน็บนี้ออกมา “เดิมทีจำนวนของพวกมันก็จัดว่ามาก มาตอนหลังกลับเป็นของหายาก”

“หญ้าอสุรานี้มีพิษ ที่ร่วงโรยมันก็ร่วงโรยไป คนท้องที่เองก็รู้สึกยังไงก็ได้ เพราะว่าพวกเขาไม่ขาดวัวหรือแพะ และพวกมันไม่ต้องตายเพราะพลาดกินหญ้าอสุรา

“ด้วยเพราะหญ้าอสุรามีพิษร้ายแรง พวกเขาก็เลยไม่กล้าใช้แรงคนกำจัดมัน ดังนั้นต่อมาพวกหญ้าอสุราแห้งเหี่ยวตายไป ดังนั้นสำหรับคนท้องที่แล้วมันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากเรื่องหนึ่ง”

ต่งจัวเล่าสถานการณ์ออกมาง่ายๆ ให้ฟัง ตอนนั้นเขายืนอยู่บนเนินเขาอันรกร้างแห่งนั้น หัวใจรู้สึกสะท้าน ครั้งนี้เกรงว่าจะต้องกลับมามือเปล่าแล้ว

มาตอนหลัง เขาใช้ทองจำนวนมาก จ้างคนท้องที่สิบกว่าคนเสาะหาทั้งกลางวันกลางคืนสิบวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงหาหญ้าอสุราได้ต้นหนึ่งในจุดมุมที่มืดทึบไม่สะดุดตา

ต่งจัวกับเถ๋าจี๋ดีใจจนแทบบ้า มาตอนหลังพวกเขาหาอีกห้าวัน คิดอยากจะหาต้นที่สอง ผลสุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลว

ดังนั้นแล้ว ต่งจัวจึงมั่นใจว่า หญ้าอสุราที่เล็กผอมและแสนธรรมดาต้นนี้คือต้นสุดท้ายแล้ว

เดิมทีหญ้าอสุราต้นนี้จะตายแล้ว ใบของมันอยู่ในสภาพโรยราเต็มแก่ มาตอนหลังด้วยความช่วยเหลือจากชิงหลง ถึงได้ทำให้ต้นหญ้านี้รอดชีวิตมาได้

จนสุดท้าย เซียวเฉวียนถึงได้ฟังจุดสำคัญเข้า “เจ้าบอกว่าชิงหลงอยู่ด้วยกันกับพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

“อืม เป็นเขาที่ส่งพวกเราไปซินเจียง และเป็นเขาที่ส่งพวกเรากลับมาขอรับ” ต่งจัวพยักหน้า เขาเอ่ยลำบากทุกข์ใจของชิงหลงที่จากไปโดยไม่ร่ำลาให้ฟัง

ชิงหลง เจ้าหมอนี่ เซียวเฉวียนตบๆ ท่อนขา เดิมทีชิงหลงยังช่วยเขาทำธุระมากมาย ต้องขอบคุณเขาให้ดีๆ จึงจะถูก

ในเวลานี้หากว่าชิงหลงได้ทราบว่า ต่งจัว ท่อนไม้ผู้นี้ถ่ายทอดคำพูดของเขาออกมาจนหมด เกรงว่าจะดีใจตายเป็นแน่ จะต้องพูดกับเซียวเฉวียนว่า ขอบใจทำซากอันใด! รีบๆ ทำลายผนึกจูเสินให้ข้าเสียก็พอแล้ว!

“เหมิงเอ้า เจ้ารับผิดชอบปลูกหญ้าอสุราให้ดีๆ ภารกิจสำคัญนี้ข้ามอบให้เจ้า”

“ขอรับ! นายท่าน!” เหมิงเอ้ารีบยืดทรวงอกเล็กๆ ขึ้นอย่างภาคภูมิใจ นายท่านออกคำสั่ง เขาย่อมพร้อมไปปฏิบัติ

สีหน้าของเซียวเฉวียนหนักอึ้งเล็กน้อย หญ้าอสุราจำนวนมากตายไปสิ้น หรือว่าเป็นฝีมือของเว่ยเชียนชิวกัน?

การมีอยู่ของหญ้าอสุรานั้นเป็นสิ่งที่ท่านพ่อบอกกับเขา หากว่าคนตระกูลเซียวรู้การมีอยู่ของมัน เว่ยเชียนชิวจะรู้ก็ไม่แปลก

เอาละ จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ไม่รู้นำหน้าเซียวเฉวียนไปกี่ก้าวแล้ว

ดูท่าเขาต้องรีบชิงอาวุธปืนกับเถาวัลย์มันฝรั่งมาให้ได้เร็วที่สุดแล้ว เรื่องหนึ่งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังรบ อีกเรื่องช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนเสบียง

การเดินทางไปซินเจียง คงจะต้องรีบออกเดินทางให้เร็วที่สุดแล้ว

แผ่นป้ายผ่านทางซินเจียง ก็ต้องรีบคว้ามาให้ได้เร็วที่สุด

หลังจากทำลายผนึกจูเสินแล้ว เซียวเฉวียนจะต้องขอร้องให้ฮ่องเต้มอบป้ายผ่านทางให้เขาชิ้นหนึ่ง

ใช่ เขาต้องการ

เขาจำเป็นต้องได้สิทธิในการเดินทางเข้าออกเป็นอิสระระหว่างแคว้น ไม่อย่างนั้นก็จะลำบากมากไปแล้ว

หากว่าฮ่องเต้ไม่ยอมรับปาก เช่นนั้น เขา...เขา...

เซียวเฉวียนยังไม่ทันได้คิดว่าจะทำอย่างไรดีก็พลันคิดขึ้นมาได้ว่า ฮ่องเต้ยังจะไม่ยอมรับปากได้อีกหรือ? เขาทำลายผนึกจูเสินแล้วก็ยิ่งสร้างผลงานใหญ่ เขายังเป็นราชครูฮ่องเต้ อาจารย์ก็เทียบเท่าพ่อเลยนะ

พ่อเจ้าขอของจากเจ้า เจ้าไม่ให้ หรือว่าเจ้าไม่กตัญญู?

คนโบราณสนใจเรื่องความกตัญญูที่สุด โดยเฉพาะฮ่องเต้ ยิ่งต้องแสดงตนให้เป็นแบบอย่าง

เซียวเฉวียนปรบมือ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าสถานะราชครูนี้ใช้ประโยชน์ได้ดีหน่อยจริง!

“ไปพักผ่อนเถอะ เตรียมตัวกินข้าว ไม่จำเป็นต้องรอข้า”

เซียวเฉวียนโบกมือ เขายังมีเรื่องราวมากมายต้องไปท ไม่อยกจะอยู่กินข้าวเป็นเพื่อนผู้ชายฝูงใหญ่แล้ว

“นายท่าน?”

ตอนที่เซียวเฉวียนจากนั้น เหมิงเอ้าก็พลันขมวดคิ้วอย่างสงสัย “นายท่านเหตุใดจึงไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่เลย?”

เซียวเฉวียนวิ่งวนไปมาวุ่นวาย ไม่ได้สนใจพวกเขายิ่งต่างเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ที่ควรกินก็กินที่ควรดื่มก็ดื่ม มีอะไรให้ใส่ใจกัน

ในฐานะประมุขของสำนักศึกษาชิงหยวน เซียวเฉวียนต้องดูแลการสอบเค่อจวี่ของปีนี้ให้ดี

ในฐานะขุนนาง เขาจะต้องทำลายผนึกจูเสินที่ฮ่องเต้คิดจะทำลายให้ได้

ในฐานะลูกศิษย์และศิษย์ร่วมสำนักของเหวินฮั่นกับปีศาจกวี เขาจะต้องรักษาสัญญาที่มีไว้ให้กับผู้อาวุโสทั้งสอง เช่นให้ถือเอาชาวประชาเป็นที่ตั้ง

ในฐานะลูกชาย เขาจะต้องแก้แค้นให้กับกองทัพตระกูลเซียว

เขายังมีเรื่องมากมายต้องไปทำ เขาไม่มีเวลาว่างไปดูแลผู้อาวุโสฝูงใหญ่ เขาจะต้องเร่งตัวเอง

พอตัวเขายุ่ง เขาจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องฉินซูโหรวขึ้นมา

หมายถึงฉินซูโหรวตัวจริงคนนั้น

เขาไม่ได้ไปดูแม่นางรายนี้ ฮ่องเต้ถึงกับให้คนมาเชิญเขาไปรอบหนึ่ง เขาเองก็ไม่ได้ไ

“ท่านราชครู ท่านรดน้ำกระถางนี้มาห้ารอบแล้ว หากว่ายังรดอีก มันจะตายเอานะเจ้าคะ”

น้ำเสียงอ่อนแรงทว่ากระจ่างใจ ทำเอาเซียวเฉวียนดึงสติกลับมา

เขาหันกายไป

สตรีอ่อนเยาว์ผู้หนึ่งที่คลุมหน้ายืนตัวตรงตระหง่านจับจ้องเขา ต่อให้นางจะผอมบางเป็นอย่างมาก แต่ว่าท่วงท่าอันสง่างามของนาง ดวงตาอันแน่วนิ่ง เผยให้เห็นว่านางได้รับการอบรมสั่งสอมาเป็นอย่างดี

เซียวเฉวียนไม่รู้จักนาง

แต่ก็คล้ายจะรู้สึกคุ้นเคย

สาวน้อยรายนั้นเดินชดช้อยเข้ามา นางหลุบสายตาลง ก่อนจะมองกระถางที่เขารดน้ำไปเมื่อครู่ “เบญจมาศนี้เป็นเบญจมาศของต้าเว่ย นามว่าไซว่ฉี ดอกไม้ที่ราชครูปลูกล้วนพิเศษปานนี้ ท่านดูรูปทรงดอกไม้ที่มีพลังและสีอันสดสวยของมันสิ”

เซียวเฉวียนผงะไป มือของสตรีผอมบางผู้นี้คล้ายกับจะลูบผ่านกลีบดอกเบญจมาศสีม่วงแดง ทันใดนั้นจิตสังหารของนางกลับปรากฏกลางหว่างคิ้วเย็นชา “ท่านดูกลีบดอกของมันแล้วคล้ายกับสีแดงโลหิตของเว่ยเชียนชิวหรือไม่?”

กล่าวแล้ว นางก็จับจ้องมองเซียวเฉวียน ตรงหว่างคิ้วเห็นชัดถึงความเศร้าโศกหลายส่วนแต่ยังมีรอยยิ้มให้เห็น “เซียวเฉวียน เป็นข้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย