ตอน บทที่ 669 ไม่มีหนทางย้อนกลับ จาก ซูเปอร์ลูกเขย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 669 ไม่มีหนทางย้อนกลับ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่เขียนโดย ชิงเฉิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ข้าหรือ?
เซียวเฉวียนมองนางเงียบๆ ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อมีสาวงามมาหาถึงเรือนด้วยตนเองเช่นนี้เขาควรจะดีใจจึงจะถูก เซียวเฉวียนคิดว่าบางทีอาจจะเป็นหญิงสาวสักนางที่แอบชอบตนอยู่แล้ว ตอนนี้อาจจะพร้อมรวบรวมความกล้าออกมาสารภาพรักกับเขาหรือเปล่า?
แต่ว่าใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้ช่างดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน เขาเก็บความคิดเมื่อครู่ลงไป “แม่นาง เจ้าเป็นใครกัน?”
“ข้าชื่ออาหมาน” ดวงตาที่สดใสคู่นั้นมองไปรอบๆ สายตามองไปเซียวเฉวียนแล้วค่อยๆไล่ขึ้นไปจนถึงใบหน้าที่แสนจะเย็นชา “และก็มีชื่อว่าฉินซูโหรวด้วย”
เซียวเฉวียนมือสั่นในทันที
โอ้แม่เจ้า เป็นฉินซูโหรวตัวจริง
สุดท้ายแล้วอยากจะหลบซ่อนเท่าไรก็หลบไม่พ้นสินะ
จากคดีการแอบแฝงเป็นฉินซูโหรว นอกจากเซียวเฉวียนแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดก็คือฉินซูโหรวตัวจริงนี่แหละ แต่ในมุมมองของเซียวเฉวียนหรือว่าคนภายนอกที่มองเข้ามาฉินซูโหรวคือผู้ที่กระทำผิดมาโดยตลอด
แต่ในตอนนี้ฉินซูโหรวกลับเปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้เคราะห์ร้าย ในการรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้สำหรับเซียวเฉวียนมันคงต้องใช้เวลาสักพัก
ที่สำคัญที่สุดคือสำหรับเซียวเฉวียนแม่นางฉินซูโหรวตัวจริงผู้นี้นับได้ว่าเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง เซียวเฉวียนไม่รู้ถึงอารมณ์และนิสัยใจคอของนาง ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้ว่าในสถานการณ์ที่นางกำลังเผชิญอยู่หญิงสาวผู้อ่อนแอผู้นี้จะคิดกับเขาเช่นไร
ตั้งแต่ที่เซียวเฉวียนเข้ามาที่จวนฉิน ก็เคยพบแต่ฉินซูโหรวตัวปลอม ตอนนี้อยู่ๆกลับมีตัวจริงปรากฏออกมาเขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
“ท่านราชครูไม่ต้องกังวลถึงเพียงนี้ก็ได้” ในหน้าของฉินซูโหรวที่อยู่ใต้ผ้าคลุมนั้นดูอ่อนโยนและนุ่มนวล “ไม่ว่าจะเป็นฉินซูโหรวตัวปลอมหรือตัวจริง บัดนี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดใดกับท่านแล้ว ที่มาในวันนี้ก็เพราะว่าซูโหรวมีเรื่องอยากจะมาปรึกษากับท่านราชครูสักหน่อยเจ้าค่ะ”
หืม?
ฉินซูโหรวพูดจาไพเราะขนาดนี้เชียวหรือ?
“ท่านราชครู” น้ำเสียงของฉินซูโหรวตัวจริงช่างสดใสและนุ่มนวล “ท่านวางใจเถิด ข้าจะไม่เข้าไปวุ่นวายในงานสมรสของท่านกับองค์หญิงต้าถงอีกแล้ว”
“ข้าได้พูดกับฝ่าบาทอย่างชัดเจนแล้ว เรื่องที่ฉินซูโหรวผู้ที่แอบแฝงเข้ามาได้กระทำลงไป ข้ายอมรับมันทั้งหมด”
การตัดสินใจของฉินซูโหรวในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นอกเหนือความคาดหมายของฮ่องเต้แต่รวมไปถึงเซียวเฉวียนด้วย
เขาตะลึงงัน ในชั่วพริบตาเขาได้เปลี่ยนมุมมองใหม่เกี่ยวกับหญิงสาวผู้นี้
แน่นอนว่าเซียวเฉวียนนั้นเข้าใจดี การกระทำนี้สำหรับฉินซูโหรวนั้นเป็นสิ่งที่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วแต่นางก็ยังเลือกแบบนี้
เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “ท่านหญิง อันที่จริงแล้ว...ท่านสามารถล้างมลทินให้ตนเองได้นะ เรื่องที่เราได้หมั้นหมายกันเมื่อถึงเวลาค่อยชี้แจงยกเลิกต่อหน้าสาธารณะชนก็ย่อมได้ สถานการณ์ที่จำเป็นแบบนี้ก็ต้องจัดการด้วยวิธีที่จำเป็น ข้าคิดว่าผู้คนเหล่านั้นคงมิได้จะต่อว่าพวกเรามากมายขนาดนั้นหรอก”
ที่เซียวเฉวียนแนะนำเช่นนี้ก็เพราะหวังดีต่อฉินซูโหรว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้แอบแฝงผู้นั้นได้ทำลงไปก็ทำลายชื่อเสียงของนางจนป่นปี้ไปหมดแล้ว นางเป็นบุตรสาวของตระกูลอีกทั้งยังเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ หากฉินซูโหรวยอมรับเรื่องราวทั้งหมดแล้วหลังจากนี้จะมีชีวิตต่อไปอย่างไร?
“ขอบคุณท่านราชครูที่คิดเผื่อข้า” นัยน์ตาของฉินซูโหรวเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่รู้ว่าเป็นความน้อยใจหรืออะไร ดวงตาของนางแดงก่ำ “ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วการที่ปล่อยให้มันเป็นไป มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว”
ถ้าหากฉินซูโหรวปล่อยให้เรื่องมันเป็นไปเช่นนี้และยอมรับเรื่องราวทั้งหมด เช่นนั้นคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือตัวเขาเซียวเฉวียน แม้ว่านางไม่ได้พูดออกมาตรงๆแต่ทำไมเซียวเฉวียนจะไม่เข้าใจเล่า?
เขาไม่เข้าใจเด็กสาวผู้นี้ ทำไมถึงคิดแทนเขาได้แบบนี้?
ความเด็ดเดี่ยวของนางเกินความคาดหมายของเซียวเฉวียนเป็นอย่างมาก นางผอมเกินไปมาก เบ้าตาของนางเป็นวงลึกแสดงให้เห็นว่าหลายปีที่ผ่านมานี้นางได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
แต่ว่าความชอบธรรมในตัวของนางนั้นยังคงเข้มแข็งน่าเกรงขามไม่มีอะไรสามารถมายั้งเอาไว้ได้
“ที่ข้ามาในวันนี้ไม่ใช่เพราะอยากจะคุยเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาแล้ว” สายตาของฉินซูโหรวจริงจัง “ท่านราชครู ข้ามีเรื่องอยากมาปรึกษากับท่าน”
“ท่านหญิงเชิญกล่าว” เซียวเฉวียนเลิกคิ้ว ฉินซูโหรวเป็นหญิงสาวคนแรกที่มาคุยเรื่องราวต่างๆแบบนี้กับเขานับว่านางกล้าหาญมากทีเดียว
เช่นอย่างในตอนนี้ เซียวเฉวียนเหมือนเดินไต่อยู่บนเชือกทุกวันโดยที่มีสายตามากมายจับจ้องมาที่เขา หากไม่ใช่เพราะยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นเว่ยเชียนชิวคงจะฟันเขาไปแล้ว
หญิงสาวจากตระกูลอย่างฉินซูโหรวจะมาที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้ทำไม?
“ท่านปู่ของข้าถูกสังหารด้วยการวางยาพิษ ยานั้นคือผงเชียนจี”
ฉินซูโหรวเงยหน้าขึ้นมามองจ้องไปที่เซียวเฉวียน “นี่คือเหตุผลของข้า”
ใช่แล้ว นางต้องการความยุติธรรมให้กับการตายที่น่าสงสารของท่านปู่
แม้ว่านางถูกจะขังอยู่ในตำหนักเย็นถึงห้าปีแต่นางก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไร นางไม่ได้สนใจเรื่องที่มีผู้แอบแฝงเป็นนางที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังเป็นใคร นางอยากได้แค่เพียงความยุติธรรมให้ท่านปู่
เมื่อนางได้ยินว่าท่านปู่ของนางถูกวางยาพิษดวงตาของนางก็แดงก่ำเต็มไปด้วยเลือด
“ซ่งจือและฉินฮุ่ยร่วมมือกันวางยา ข้าได้จัดการกับจวนซ่งแล้วและก็วางยาพิษฆ่าฉินฮุ่ยเรียบร้อย” ที่เซียวเฉวียนพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะต้องการให้ฉินซูโหรวลดความโกรธลงแต่เพียงแค่อยากให้ฉินซูโหรวได้รู้ไว้ว่าเขาเองได้ทำการแก้แค้นแล้วนางไม่จำเป็นต้องมาเข้าร่วมทัพกับเขา
“แต่ท่านก็รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดมันคือเว่ยเชียนชิว!”
ในตอนนี้ฉินซูโหรวเริ่มหวั่นไหวขึ้นมา ดวงตาของนางยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำมากขึ้น ความรู้สึกของนางกับท่านปู่ฉินปาฟางนั้นลึกซึ้งเป็นอย่างมาก เทื่อกลับมาแล้วได้ยินว่าท่านได้เสียชีวิตลงอย่างน่าสงสารเช่นนั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะรับไม่ได้
“ข้ารู้ว่าเป็นเขา” เซียวเฉวียนใช้น้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านหญิง ท่านไม่เห็นหรือว่าข้าเองก็พยายามจะฆ่าเขาอยู่? การที่จะโค่นคนผู้นี้ลงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ข้ากับฝ่าบาทกำลังค่อยๆทำตามแผนให้ทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอด”
“ท่านลองคิดดู ฝ่าบาทเองยังคงกังวลเกี่ยวกับเขาการแก้แค้นในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เรานึกจะทำก็สามารถลงมือได้ พวกเราต้องการกำลังพล ต้องการเวลา และต้องการโอกาสที่เหมาะสม”
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว ให้ข้าไปกับพวกเจ้าเถิด” ฉินซูโหรวเงยหน้าขึ้นแล้วขอร้องขออีกครั้ง “ข้าทำได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...