สรุปตอน บทที่ 670 ของกลางฝ่ามือ – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 670 ของกลางฝ่ามือ ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ฉินซูโหรวทำได้แต่เซียวเฉวียนทำไม่ได้!
ตอนแรกก่อนหน้าฉินปาฟางจะเสียชีวิต เขาเอาแต่คิดถึงหลานสาวของตัวเองทุกขณะจิต ให้เซียวเฉวียนคอยดูแลนางให้ดีๆ
ตอนนี้ฉินซูโหรวตัวจริงกลับมา เซียวเฉวียนจะยอมให้สตรีชั้นสูงไปเข้าร่วมต่อสู้ได้เช่นไร? นี่ใช่เรื่องที่ชายหนุ่มผู้หนึ่งพึงกระทำหรือ?
“จวิ้นจู่ แม้ว่าท่านจะเป็นทายาทตระกูลขุนศึกแต่ก็เป็นขุนนางสูงศักดิ์ ท่านรักษาตัวเอาไว้ให้ดีก่อนค่อยว่ากัน ดีหรือไม่?”
หลังระบายโทสะไปแล้วอารมณ์ของเซียวเฉวียนก็นับว่าดี เขาปฏิบัติกับผู้ถูกปลอมตัวรายนี้ด้วยท่าทีแตกต่างเนคนละคน
เขาไม่อาจหักใจโหดเหี้ยมกับฉินซูโหรวตัวจริงได้เลย นางผู้เป็นตัวจริงนี้ เห็นได้ชัดว่าอ่อนโยนรู้ความ อดทนต่อความอับอายได้แถมยังทรงคุณธรรมเป็นที่ยิ่ง
เขาปฏิเสธคำขอของนางอย่างอ้อมค้อมยิ่ง
ฉินซูโหรวกลับไม่ได้โมโห คล้ายกับว่านางคาดหมายเอาไว้อยู่แล้ว
“ท่านรู้สึกว่า ข้าเป็นตัวถ่วงของท่านหรือ?” นัยน์ตาเฉลียวฉลาดของฉินซูโหรวกระพริบ
“ไม่ๆๆ เซียวโหม่วไม่ได้หมายความแบบนั้น จวิ้นจู่คิดมากเกินไปแล้ว”
“ท่านราชครู” ฉินซูโหรวก้มหน้าลงพลางคิด “หากข้าทำลายกระบี่ชีวันของตัวปลอมผู้นั้นแล้ว ท่านให้ข้าเข้าร่วมกับพวกท่าน เป็นอย่างไร?”
กระบี่ชีวันหรือ?
เซียวเฉวียนได้ฟังความคิดของแม่นางแล้วก็พลันตะลึงงัน สตรีตระกูลขุนศึกดุดันเพียงนี้หรือ?
เขาได้ยินอี้กุยพูดว่า กระบี่ชีวันในมือตัวปลอมผู้นั้น คือกระบี่ชีวันเล่มที่สองของต้าเว่ย
ในปีนั้นต้าเว่ยทำลายกระบี่ชีวันเล่มแรกไป ต้องใช้อี้อู๋หลี่ เจี้ยนเหล่าและปีศาจกวีสามคนร่วมมือกันทำจึงจะสำเร็จ แล้วฉินซูโหรวคนเดียวคิดจะทำลายมันอย่างนั้นหรือ?
“จวิ้นจู่!” เซียวเฉวียนโมโหอยู่เล็กน้อย “เจ้าไม่จำต้องเป็นเช่นนี้ อันตรายเกินไปแล้ว!”
“กระบี่ชีวันเล่มนี้ มุ่งเล่นงานท่านโดยตรง ใช้เลือดเนื้อและวิญญาณของมารดาข้าหลอมสร้างขึ้นมา ข้ารู้ว่าท่านราชครูเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ได้มองมันในสายตา”
“การคงอยู่ของมันก็เพื่อใช้สังหารท่าน ข้าไม่อาจให้มันดำรงอยู่บนโลกนี้ได้”
ฉินซูโหรวจับจ้องเขาแน่วนิ่ง “หากท่านปู่ของข้ายังคงอยู่ เขาก็คงต้องทำแบบเดียวกันเจ้าค่ะ”
“นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลฉินของข้าติดค้างท่าน” ฉินซูโหรวใช้ดวงตาแน่วแน่จับจ้องเขา “และเป็นสิ่งที่ข้าติดค้างท่าน เดิมก็ควรจะกำจัดมันอยู่แล้ว เพียงแค่ข้าละโมบเท่านั้น คิดอยากจะใช้มันมาเข้าพรรคพวกกับท่านราชครูเจ้าค่ะ”
เซียวเฉวียนตะลึงไป
ฉินซูโหรวแย้มยิ้มเล็กน้อย มีความปวดใจหลายส่วน “ขออภัยอย่างยิ่ง การแต่งงานของข้ากับท่าน เรื่องที่ท่านปกป้องตัวข้าหลายอย่าง ข้ากลับไร้ความสามารถ ไม่อาจตอบแทนได้”
“เรื่องที่ตัวปลอมรายนั้นกระทำ ข้าจะรับผิดชอบทั้งหมด บาดแผลที่ตระกูลฉินมอบให้ท่าน ข้าเองก็จะรับผิดชอบ กระบี่ชีวัน ข้าจะต้องทำลายมันแน่นอน”
“แล้วยิ่ง...” ฉินซูโหรวมองเขาครั้งหนึ่ง ในดวงตามีน้ำตาอยู่ “ไม่มีข้า ท่านเองก็ไม่จำต้องเข้าจวนฉิน แล้วต้องรับการทรมานถูกหมิ่นหยามเช่นนี้หรอก...”
“หากว่า...” ฉินซูโหรวพูดถึงตรงนี้ แล้วพลันชะงัก หากว่า หากว่านางกับเซียวเฉวียนได้อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ตัวปลอม บางทีจุดจบอาจจะไม่เหมือนกัน
ทว่านางกลับไม่ได้เอ่ยออกมา เซียวเฉวียนแต่งงานไปแล้ว นางไม่มีโอกาสอะไรกับเขาอีก นางได้แต่ฉีกยิ้มร้าวราวใจ “ไม่มีอะไร ท่านราชครู ท่านรักษาตัวด้วย รอข่าวจากข้าเจ้าค่ะ”
กล่าวแล้ว ฉินซูโหรวก็หันหน้ากลับไป
เซียวเฉวียนตะลึงไป เขาไร้วาจาจะตอบโต้ เขาพลันเข้าใจถึงความรู้สึกจนใจสุดประมาณยิ่งของกวนเหลียง ความรู้สึกฝืดเฝื่อนปนแสบร้อนอยู่เล็กน้อยเช่นนี้
สายลมของฤดูใบไม้ร่วง เหลือความรู้สึกหอมเย็นทิ้งเอาไว้ นั่นคือกลิ่นหอมประจำตัวของฉินซูโหรว
สิ่งที่เซียวเฉวียนกังวลที่สุดก็ยังเกิดขึ้นแล้ว
พูดกันตามตรง ฉินซูโหรวตัวจริงกลับมา หากว่านางนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ โหดเหี้ยมอำมหิต บีบคั้นผู้คน เซียวเฉวียนคงจะไม่ถือสาอะไรกับการกลับมาของตัวจริงหรอก
เพราะหากว่าตัวจริงมีนิสัยและคุณธรรมเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็จะสามารถเอาความเกลียดแค้น ชิงชัง เคียดเคืองทั้งหมดโอนถ่ายมาใส่ตัวฉินซูโหรวตัวจริงได้อย่างง่ายดายเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเขากับฉินซูโหรวก็จะไม่ต้องมีสายสัมพันธ์กันอีก
ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะมองในด้านจิตใจหรือว่าจริยธรรม หรือจะมองด้านคุณธรรม เซียวเฉวียนก็สามารถหลีกสายสัมพันธ์กับฉินซูโหรวได้อย่างง่ายดาย
เซียวเฉวียนกลัวว่าฉินซูโหรวจะเป็นแม่นางแสนดีผู้หนึ่งนี่ละ
แต่ว่าจนใจที่ฟ้าชอบกลั่นแกล้ง นางกลับเป็นแม่นางที่ดีผู้หนึ่ง
เซียวเฉวียนถึงค่อยคิดได้ “อ้อ เจ้ายังไม่รู้เรื่องสินะ”
ดังนั้น เซียวเฉวียนจึงเล่าเรื่องฉินซูโหรวตัวปลอมตัวจริงออกมา พอไป๋ฉี่ฟังจบ เขาก็เส้นเลือดปูด “สุดท้ายแล้วเป็นผู้ใดกัน! ทำลายงานแต่งงานของนายท่านอย่างโง่งมเช่นนี้!”
“ไม่รู้! ข้าไม่รู้ว่าเป็นไอ้ขยะตัวไหน!” เซียวเฉวียนเองก็โมโหสุดๆ “จนใจแต่ว่าฉินซูโหรวตัวจริงรายนี้ ก็เหมือนฉินปาฟางไม่ผิด นางเป็นคนตรงไปตรงมาทรงคุณธรรม พระเจ้า!”
เซียวเฉวียนโมโหจนเคี้ยวน่องไก่ไปคำหนึ่ง “ข้ารับปากท่านแม่ทัพผู้เฒ่าฉินว่าจะปกป้องหลานสาวของเขา ยามนี้เรื่องนี้ เจ้าเห็นว่าควรแก้อย่างไร?”
“ต้องสู่ขอขอรับ” ไป๋ฉี่แม้จะเป็นเทพสงคราม แต่สมองของเขาคิดง่ายดายนัก
เซียวเฉวียนรีบโบกมือ “นี่เจ้าอยากให้นายท่านของเจ้าตายหรืออย่างไร? ให้จวิ้นจู่เป็นอนุ เหล่าที่ปรึกษาในต้าเว่ยพวกนั้นได้มาสับข้าตายเลย!”
เซียวเฉวียนไร้วาจาจะไต่ถามสวรรค์ เขาส่ายหน้า “ใครละจะคาดคิดได้ ว่าฉินซูโหรวตัวจริงจะเป็นผู้หญิงแบบนี้”
เซียวเฉวียนรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากรับมือนัก ฉินซูโหรวกลับมา แม้ว่าจะไม่ได้ทำลายแผนการของเขาแต่กลับทำให้อารมณ์ของเขาวุ่นวายใจ
ความรู้สึกที่มีต่อสตรีผู้นี้ ซับซ้อนเล็กน้อย
“ไป๋ฉี่”
“ขอรับ”
“จำเป็นต้องปกป้องนางให้ปลอดภัย ขวางนางเอาไว้ อย่าให้นางทำลายกระบี่ชีวันได้” นัยน์ตาเซียวเฉวียนทะมึน “นางทำลายไม่สำเร็จหรอก”
“ขอรับ”
“แล้วยังมี เอานี่ให้นางด้วย” เซียวเฉวียนมองซ้ายมองขวา จากนั้นก็หยิบเอาของที่อยู่ติดตัวตัวเองชิ้นนั้นตลอดมาออกมา มันคือเทียนหอมขนาดประมาณฝ่ามือ “ให้นางเก็บเอาไว้ อีกหน่อย เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของนาง”
“ข้าไม่อยากจะจำนางผิดอีก” เซียวเฉวียนเอ่ยเสียงทุ้มประโยคหนึ่ง ไป๋ฉี่เข้าใจ พลางรับเทียนหอมมา “ขอรับ”
สิ่งที่ทำให้เซียวเฉวียนคาดไม่ถึงที่สุดนั้นก็คือ ฉินซูโหรวขอโทษเขา
นางเอ่ยปาก “ขออภัยมากจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...