ฟังปุ๊บ คิดว่าเซียวเฉวียนกำลังดุด่าใคร เพราะด่าอย่างคล่องแคล่วและไม่เหมือนใคร
ไป่ฉีหันกลับมา กลับเห็นว่าเป็นอี้กุย
ดูๆ แล้ว อี้กุยติดตามเซียวเฉวียนมาเป็นเวลานาน ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง
”เจ้านายพวกเจ้าคืนดีกันแล้ว! พวกเจ้ายังจะทะเลาะอะไรกันอีก!” อี้กุยตะโกนดุว่า “ยังไม่ไปห้ามเธออีก!”
ที่จริงเซียวเฉวียนสั่งให้ไป่ฉีไปหาอี้กุยก่อนเพื่อไปห้ามฉินซูโหรวพร้อมกัน แต่พอไป่ฉีไปถึงหอคุนหวูเมื่อกี้ เจ้าของร้านบอกว่าอี้กุยเข้าวังไปนานแล้ว
ไป่ฉีรอไม่ไหว จึงมาที่จวนฉินเพียงลำพัง
ไป่ฉีเพิ่งจากไป อี้กุยก็มาเยี่ยมเยียนวังยางหัวเพื่อเฉลิมฉลองเซียวเฉวียนได้เลื่อนเป็นมหาราชครู
จะทำไงดี เมื่อเซียวเฉวียนเห็นทั้งสองคนไม่ได้พบกัน เขาจึงรีบเล่าเรื่องเกี่ยวกับฉินซูโหรวตัวปลอมอย่างไว อี้กุยร้อนใจอย่างมากจึงรีบจากไป
อี้กุยไม่มีเวลาจะมาคร่ำครวญว่าโชคชะตาเล่นตลกกับผู้คน ดาบชีวันเรื่องใหญ่ ฉินซูโหรวผู้หญิงคนหนึ่งจะจัดการกับมันได้อย่างไร?
อี้กุยมาถึงจวนฉินอย่างเร่งด่วนและเห็นไป่ฉีกับเว่ยอู๋จี้สองคนกำลังจะรบกัน เขาร้อนใจจึงตะโกนดุว่าเสียงดัง เห็นชัดว่าไอ้หมอสองคนนี้ไม่เข้าใจสถานการณ์เลย!
”ตามข้ามาเร็วเข้า! ข้ารู้ว่าฉินซูโหรวไปทางไหน!”
อี้กุยกำลังจะนำทาง ไป่ฉีและเว่ยอู๋จี้ผงะ และเว่ยอู๋จี้ถึงกับก้าวขึ้นหน้าไปหยุดเขา "คุณชายอี้ เจ้านายของข้าว่า...... "
อี้กุยทนไม่ไหว "ไป่ฉี! ไม่ต้องเกรงใจแล้ว!"
เขาเพิ่งพูดจบ ไป่ฉีที่อยากจะทุบเว่ยอู๋จี้มานานก็ถือทีเผลอ แอบต่อยหนึ่งหมัดเข้าไปที่ต้นคอของเว่ยอู๋จี้!
"โอ้ย!"
ต้นคอของเว่ยอู๋จี้รู้สึกชา จู่ๆ คอของเขาก็ตึงขึ้น อากาศเหมือนเข้ามาไม่ได้!
ผู้อารักขาทั่วไปถ้าถูกหมัดดังกล่าวจากไป่ฉี ถึงจะไม่ตาย แต่คงจะหมดสติในทันทีแน่นอน แต่เว่ยอู๋จี้แค่เอามือปิดต้นคอ แล้วคำราม "เจ้าลอบตีข้าหรือ?"
ตอนนี้ ไป่ฉีจึงตระหนักได้ว่า ที่เจ้านายบอกให้เขาระวังตัวเว่ยฮู๋จี้นั้นไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล เว่ยอู๋จี้คนนี้แข็งแกร่งกว่าผู้อารักขาคนอื่น ๆ จริง
"เฟี้ยว!"
”พี่น้อง โทษที!” จังหวะที่เว่ยอู๋จี้กำลังโมโห อี้กุยมือไม้คล่องแคล่ว ถือโอกาสเขาเผลอ ใช้กำลังเจ็ดส่วน แทงเข็มเงินตรงเข้าที่จุดเทียนหลิง (กระหม่อม) ของเว่ยอู๋จี้!
"โอ้ย!"
เว่ยอู๋จี้แข็งทื่อไปทั่วร่าง ดวงตาของเขากลอกไปรอบ ๆ นิ่งเฝ้าดูอี้กุยและไป่ฉีไปตามหาเจ้านายของเขาเอง
ทำไม! อี้กุยค้อนตาเว่ยอู๋จี้ ผู้อารักขาที่เซียวเฉวียนและฉินซูโหรวเลี้ยงดูนั้น ช่างน่าโมโหเชียว!
มีแต่ไป่ฉีค่อยยังชั่วหน่อย !
อี้กุยส่ายหัว ลุงปู่และคุณหนูใหญ่จวนฉินดวงจู๋กันจริงๆ ทำไมทั้งสองถึงเลือกผู้อารักขามาล้วนซื่อบื้อๆ ?
ในจวนฉิน ไป่ฉีและอี้กุยเดินหาอย่างเร่งด่วน จวนฉินกว้างใหญ่ อี้กุยซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจในเมื่อกี้ มองไม่เห็นแม้แต่เงาของฉินซูโหรว
เธอคงเจตนาหลบซ่อนตัวอยู่
หญิงสาวผู้นี้ ตั้งใจที่จะทำลายดาบชีวันให้ได้! เธอคนเดียวจะทำได้ยังไง?
ไป่ฉีและอี้กุยค้นหาในจวนฉินซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่พวกเขาไม่รู้สึกถึงลมหายใจของฉินซูโหรวเลย
ทั้งสองคนรีบร้อนจนเหงื่อออกเต็มหัว ไป่ฉีกำหมัดแน่น "ปล่อยเว่ยอู๋จี้ไป เขากับฉินซูโหรวมีแรงเหนี่ยวนำถึงกัน น่าจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน"
“พอเถอะ” อี้กุยส่ายหัว อย่าทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เขาเหลือบมองไป่ฉี “ถ้าเซียวเฉวียนใช้ให้เจ้าปิดกั้นใครสักคน เจ้าจะทรยศเจ้านายและบอกเขาว่าเจ้านายอยู่ที่ไหนไหม ?”
”ไม่” ไป่ฉีส่ายหัว
”งั้นไม่เสร็จเขาหรือ?”
อี้กุยร้อนใจสุดๆ เว่ยอู๋จี้ก็เป็นผู้อารักขาที่ปกป้องเจ้านายและหัวโบราณ ถึงฆ่าเขาตาย เขาก็ไม่เปิดเผยที่อยู่ของ ฉินซูโหรว
ภายในชั่วโมง ทั้งสองคนค้นหาหลายครั้ง แต่ไม่พบฉินซูโหรว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...