เว่ยเป้ยเดินไปหาคนรับใช้ของจวนตัวเองด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ข้อสอบของสมัยก่อนหนึ่งฉบับ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสำหรับเว่ยเป้ยที่เป็นอาจารย์ในโลกสมัยใหม่
และที่เขามีความมั่นใจเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เพราะทำข้อสอบเสร็จล่วงหน้าแต่ผลลัพธ์เป็นเช่นที่เขาคาดการณ์ไว้ การทดสอบระดับชนบทของเมืองหลวงปีนี้ไม่มีเรื่องผู้เข้าสอบสูญหายหรือตายฉับพลัน
นี่ก็อธิบายได้อีกว่า พ่อไม่ได้ลงมือจริงๆ
ดังนั้นที่เว่ยเป้ยมั่นใจขนาดนี้เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเรื่องที่เขากำลังทำเหมือนกับเซียวเฉวียน นั่นก็คือปกป้องปัญญาชนและผู้ศึกษาเล่าเรียน
เว่ยเป้ยเป็นนักศึกษาวิทยาศาสตร์ เชื่อตรรกะ เชื่อผลลัพธ์ที่ปรากฏ ตลอดมานี้เขาก็เป็นอ๋องรองผู้สูงส่งของจวนเจียนกั๋ว ดังนั้นยังคงความคิดเชิงตรรกะสมัยใหม่ไว้อยู่
เซียวเฉวียนต่างจากเขา เซียวเฉวียนเชี่ยวชาญกฎเกณฑ์โบราณเป็นอย่างดี ตลอดมาก็แทบจะอยู่จุดเกือบต่ำสุด ไม่มีความคิดไร้เดียงสาใดๆ ตัวอย่างเช่นเชื่อว่าเว่ยเชียนชิวจะเป็นคนดีชั่วข้ามคืน เป็นต้น
เว่ยเป้ยย่อมคิดผิดไปแล้ว ที่ตอนนี้เว่ยเชียนชิวยังไม่ลงมือ นั่นก็เพื่อสร้างความเชื่อแก่ลูกชายตัวเอง รอจนเว่ยเป้ยผ่านการทดสอบระดับชนบทและการทดสอบระดับมณฑลแล้ว จะเป็นเวลาที่ปัญญาชนผู้มีความสามารถทั่วต้าเว่ยจะมาที่เมืองหลวง ก็จะเป็นช่วงเวลาที่เว่ยเชียนชิวลงมือ
ต้องลงมืออยู่แล้ว แค่ปีนี้เห็นแก่เว่ยเป้ย ช้าไปสักหน่อยหม้อก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยกวาดเรียบ
เว่ยเชียนชิวบ้าจนถึงขั้นคิดรายชื่อคดีสังหารหมู่นี้ไว้แล้ว เรียกมันว่าคดีสังหารหมู่ชิงหยวน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ถึงตอนนั้น ก่อนหน้าการสอบหน้าพระที่นั่ง ผู้มีความสามารถยอดเยี่ยมจากสนามสอบในระดับต่างๆจะมากราบไหว้ภาพวาดเหวินฮั่นและปีศาจกวีที่ชิงหยวน ถึงตอนนั้นก็จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการลงมือ!
เซียวเฉวียนเอาแต่พูดว่าจะปกป้องปัญญาชนและลูกศิษย์ผู้ศึกษาเล่าเรียน เว่ยเชียนชิวกะจะลงมือในถิ่นเซียวเฉวียนนี่แหละ เว่ยเชียนชิวอยากรอดูว่าเซียวเฉวียนจะมีความสามารถอะไรที่จะปกป้องปัญญาชนผู้มีความสามารถได้ กล้ามาท้าทายเขา
เว่ยเป้ยที่น่าสงสาร แทบไม่รู้จักพ่อของตัวเองเลยว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย เขาที่ออกมาจากสนามสอบด้วยท่าทางมีชีวิตชีวา สายตามุ่งมั่น
“วันนี้อ๋องรองผู้นี้ต่างจากอดีตไปเล็กน้อย” แม้แต่จ้าวหลานยังมองออก เขาจ้องมองเว่ยเป้ยที่เชิดหน้าชูคอ “ราชครู ท่านเห็นว่าอย่างไร?”
เรื่องผิดแปลกจากเดิมย่อมมีปีศาจ คือเมื่อมีอะไรผิดปกติจากเดิมก็ต้องมีเหตุร้าย
เซียวเฉวียนสีหน้าจริงจัง เว่ยเชียนชิวได้ทิ้งท้ายคำพูดไว้ตั้งนานแล้ว กล่าวไว้ว่าต้องทำให้ลูกชายของตนได้จอหงวนในท้ายที่สุด
หรือว่าเพราะเหตุนี้ เว่ยเป้ยจึงร่าเริงมั่นใจ?
ตามความร่าเริงและสายตาเปล่งประกาย ใครก็เทียบกับเซียวเฉวียนไม่ได้นั้น เซียวเฉวียนดันคิดว่าสายตาของเว่ยเป้ยแฝงแววท้าทายอยู่หลายส่วน จิ ส่งข้อสอบเป็นคนแรกแล้วเก่งเหรอ เด็กเวรนี่มีพ่อให้ท้ายคิดว่าเจ๋งเหรอ?
เหอะ เซียวเฉวียนตัดสินใจทันทีว่า หัวข้อสอบของการทดสอบระดับมณฑลเขาก็จะออกข้อสอบสักสองสามข้อด้วยเช่นกัน
ดูสิว่าเจ้าเด็กนี่จะยังอวดดีอีกหรือไม่!
“ราชครู ไยท่านต้องจ้องเขาเขม็งล่ะ ท่านสำเร็จวิชาถ้อยคำแล้ว แม้ว่ามีผู้ส่งข้อสอบคนแรกอีกสัก 10 คน ความสำเร็จภายภาคหน้าของพวกเขาก็ยังเทียบท่านไม่ได้เลย”
จ้าวหลานมาประจบสอพลอพี่เขยอย่างเซียวเฉวียนผู้นี้ก็เพื่อเซียวจิงที่มีคุณสมบัติดีเลิศ นี่ถือเป็นครั้งแรกของชีวิตจริงๆ
เสียดายประจบก็ยังผิดพลาด
เซียวเฉวียนยื่นนิ้วหนึ่งนิ้วออกมา “เก็บใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเจ้าไป! ข้าเซียวเฉวียนจะไปริษยาเด็กน้อยผู้หนึ่งรึ? ข้าขอบอกเจ้า เจ้าพูดจาดีมากมายอีกแค่ไหน เจ้าอยากได้เซียวจิงบ้านข้ากับเจ้า? หมดหวัง!”
“ไม่มีหวัง!”
กล่าวเสร็จเซียวเฉวียนก็เดินสะบัดแขน เขาจะไปดื่มชาร้อนจึงสลัดจ้าวหลานที่น่ารำคาญใจออกไป
“ราชครู ขอโอกาสสักครั้ง”
“ราชครู ข้ากับคุณหนูรองตระกูลเซียวก็นับว่ามีวาสนา ไยท่านต้องกีดกันข้าออกห่างไกลพันลี้เล่า?”
มวลชนผู้ชมรอบข้างต่างตะลึงทันที คนตั้งเท่าไหร่ที่อยากแต่งให้กับคุณชายใหญ่อย่างจ้าวหลานแต่ไม่ได้ ตอนนี้จ้าวหลานกลับมาขอร้องแต่งงาน
และเซียวเฉวียนยังไม่รับ?
ไม่รับก็ช่างเถอะ เหตุใดเซียวเฉวียนยังรังเกียจขนาดนี้ด้วย?
ชาวบ้านยังไม่รู้เรื่องที่เซียวเฉวียนคือราชครู แม้ว่าราชครูจะไม่ได้มีอำนาจแท้จริง แต่ฐานะสูงส่ง เดิมทีฮ่องเต้กราบไหว้อาจารย์เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง อ้างอิงจากเซียวเฉวียนที่กราบไหว้เหวินฮั่นในปีนั้น จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้โดยเดินตามขั้นตอนเดียวกัน
เซียวเฉวียนรีบห้ามฮ่องเต้ไว้ หยุดยั้งพิธีการกราบไหว้อาจารย์ไว้ พิธีนี้ทำเสียเกินจริงไม่ว่า และเหล่าที่ปรึกษาต้องฉวยโอกาสใส่ไฟเขา
เซียวเฉวียนอาศัยช่วงการสอบราชการเคอจวี้ จึงไม่อาจสอนวิชาฮ่องเต้ได้ จึงยืดพิธีกราบไหว้อาจารย์ออกไปชั่วคราว
รอจนหลังช่วงนี้ผ่านไปแล้ว เมื่อฝ่าบาทไม่มีไข้ขึ้นสมองแล้วอาจจะไม่ให้เซียวเฉวียนเป็นราชครูแล้วละมั้ง? ฮ่าฮ่า!
แต่ว่าก่อนหน้าที่จะไม่เป็นราชครู เซียวเฉวียนจะต้องเอากำไรทั้งหมดให้ได้ เช่นใช้เงินของฮ่องเต้ บัตรผ่านซินเจียง เงินเดือนสูง เป็นต้น
ชาวบ้านไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนเป็นราชครู แต่ชาวบ้านกลับรู้ว่าเซียวเฉวียนเป็นพระราชบุตรเขยแห่งซินเจียง มีสถานะเป็นคนในราชวงศ์ และยังมีความสามารถของรัฐไป๋ลู่ กำลังรุ่งโรจน์โชติช่วง ไม่เห็นหัวจ้าวหลานก็ปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...