อ่านสรุป บทที่ 675 สู้จนตัวตาย จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 675 สู้จนตัวตาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เซียวเฉวียนเป็นราชครู ไม่ว่าจะอย่างไรก็ถือเป็นผู้ใหญ่ เซียวเฉวียนกลับไม่สนใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง อย่างไรเสียภาพลักษณ์ของเขาก็ดูไม่ดีมาตลอด ทว่าเขาไม่ควรทำให้ฮ่องเต้น้อยต้องพบเจอความลำบาก
เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้คนมากมาย เซียวเฉวียนหัวเราะแห้ง ๆ และคลายคอเสื้อจ้าวหลานที่ดึงไว้ลง พร้อมกับแสดงสีหน้าที่รักและเอาใจใส่ของผู้ใหญ่คนหนึ่ง “นี่ไม่ใช่จ้าวหลาน ไม่ ใต้เท้าจ้าวที่สุภาพเรียบร้อยบอกว่าเขาไม่รู้จักความโกรธ ข้าจะแสดงให้เขาดู”
เหตุผลเพ้อเจ้อเช่นนี้ มีแค่คนโง่ที่ยอมเชื่อ
คนที่ตาสว่างต่างมองออก ราชครูกำลังหาทางลงให้พวกเราไม่ต้องอึดอัด เหตุใดพวกเราไม่รีบไปตามน้ำเล่า?
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ๆ” เฉาสิงจือและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ทําหน้าเหมือนว่าคราวนี้พวกเรายอมเชื่อก่อน คราวหน้าต้องหาเหตุผลให้ดีกว่าหน่อย
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง...” จ้าวหลานที่มีความงุนงงเล็กน้อยก็พยักหน้าตาม เขากระพริบตาปริบ ๆ “ขอบคุณราชครู แต่ข้าพูดตอนไหนว่าข้าไม่รู้จักความโกรธ?”
เจ้าสมองสุนัขที่ไร้เดียงสาอย่างจ้าวหลาน เหตุใดเซียวเฉวียนจึงอยากต่อยให้ตายในหมัดเดียว?
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางตบหน้าจ้าวหลานเบา ๆ “เจ้าไม่ได้พูด แต่ทั้งตัวของเจ้านั้นเต็มไปด้วยความกวนบาทา... ไม่สิ มันเต็มไปด้วยคำว่าโง่เขลา”
แง...
จ้าวหลานอยากร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง ราชครูอยากตีเขาจริง ๆ เพราะเหตุใดกัน? เขาไม่ได้ทำสิ่งใดผิดต่อราชครูเสียหน่อย
ฮ่องเต้กระแอมเสียงแห้ง เซียวเฉวียนรีบปล่อยคอเสื้อจ้าวหลานออก จ้าวหลานจึงแสดงความเคารพ “กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท”
“ไม่ต้องมากพิธี”
ฮ่องเต้เหลือบมองจ้าวหลาน จากนั้นก็เมินเฉยต่อเขา พลางรุดเดินไปด้านหน้าสองก้าว “ราชครู ลำบากเจ้าต้องมาคุมการสอบแล้ว”
ทุกคนแอบเกลือกตามองบนให้แก่เซียวเฉวียน หน้าที่ของเซียวเฉวียนถือว่าสบายที่สุดแล้ว เมื่อตรวจเสร็จก็นั่งรออยู่เฉย ๆ เขาลำบากที่ไหนกัน?
ฮ่องเต้ลำเอียงกับเซียวเฉวียนในทุกเรื่องเสียจริง
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงห่วงใย ทุกอย่างในสนามสอบเรียบร้อยดีพะยะค่ะ ถือว่ากระหม่อมทำตามที่ฝ่าบาททรงฝากฝังไว้เรียบร้อยแล้ว”
เซียวเฉวียนยกสองมือประสานกันแล้วโค้งคำนับเล็กน้อย เป็นสัญญาณลับของเขาและฮ่องเต้
นับแต่เว่ยเป้ยส่งข้อสอบก่อนเวลา หลังจากที่ออกจากสนามสอบเป็นคนแรก ฮ่องเต้ก็ไม่เป็นสุข
หากเป็นเว่ยเชียนชิวมาก่อเรื่อง เซียวเฉวียนก็จะพูดว่าข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่มาแสดงความห่วงใย
หากเว่ยเชียนชิวประพฤติตัวเรียบร้อยไม่ออกนอกลู่นอกทาง เซียวเฉวียนก็พูดว่าทำตามที่ฝ่าบาททรงฝากฝังไว้เรียบร้อยแล้ว
เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้โล่งใจมาก ทว่าพระองค์ไม่ได้มาเพื่อเรื่องสนามสอบ แต่ใช้เหตุผลในการมาตรวจสนามสอบเป็นข้ออ้าง เพื่อส่งข่าวให้เซียวเฉวียน
ฮ่องเต้ขยับเข้าใกล้เซียวเฉวียน และพูดเสียงต่ำว่า “ราชครู ข้าพบโหรวเอ๋อร์แล้ว”
เซียวเฉวียนเลิกคิ้วและพยักหน้า ท่ามกลางใบหน้ามีความยินดีเล็กน้อย
“ทว่า อาการนางไม่สู้ดีนัก” ฮ่องเต้ลังเลเล็กน้อยแต่ก็พูดออกมา รอให้เซียวเฉวียนเข้าวังก็จะได้รู้
“พะยะค่ะ”
เซียวเฉวียนทำได้เพียงตอบรับและไม่ได้พูดอะไรมาก เกรงว่าคนอื่นจะพบพิรุธ เพราะยังเก็บเรื่องของฉินซูโหรวไว้เป็นความลับอยู่
ฮ่องเต้ที่ส่งข่าวเสร็จก็เดินนำขุนนางเข้าสนามสอบ ในขณะที่เวลาสอบใกล้สิ้นสุดลง พระองค์จึงอยากเห็นเหล่าผู้เข้าสอบในปีนี้แบบคร่าว ๆ
ด้านหลังฮ่องเต้ล้วนเป็นขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง สวีซูผิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
เขาและเซียวเฉวียนทักทายกันผ่านสายตา ในสายตาของสวีซูผิงเต็มไปด้วยความดีใจ หลังจากที่เซียวเฉวียนได้เป็นราชครูแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม เห็นได้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ไม่แย่เลยทีเดียว ดีมาก ๆ!
เซียวเฉวียนคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาราชครูแล้ว! ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ!
สวีซูผิงเป็นผู้ที่ปกปิดอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เซียวเฉวียนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าสวีซูผิงชื่นชอบเขามากเพียงใด เหตุใดรัฐมนตรีการคลังสวีผู้นี้เห็นเขาแล้วต้องยิ้มกว้างเช่นนี้?
เซียวเฉวียนลูบหน้าของตัวเอง หรือว่าใบหน้าของเขาเขียนไว้ว่าน่าขำ?
ช่างเถอะ ฉินซูโหรวกลับมาแล้ว เขาต้องไปดูเสียหน่อย
เสียงกลองบอกว่าเวลาสอบสิ้นสุดลงก็ดังขึ้น ฮ่องเต้ทรงพูดคุยกับผู้เข้าสอบที่ทดสอบระดับชนบทอยู่ เซียวเฉวียนสั่งงานที่เหลือต่อเรียบร้อย เขาก็หายไปในทันควัน
ณ พระราชวัง
ห้องหนังสือของฮ่องเต้
อ่างน้ำเลือดถูกยกออกมาจากด้านในทีละใบ เหล่าแพทย์หลวงยุ่งวุ่นวายตลอดทั้งบ่าย ถือว่าใกล้เสร็จแล้ว
“ขอรับนายท่าน แม่นางบาดเจ็บสาหัสมากขอรับ” ไป๋ฉี่ขมวดคิ้วขึ้นมา
เอ็นและกระดูกของนางหักสะบั้นทุกนิ้ว
ข้อมือและข้อเท้าทั้งสี่ทะลุเป็นรูลึกและใหญ่
ทั่วทั้งตัวล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลของกระบี่
เห็นได้ชัดว่า นางและกระบี่ชีวันสู้กันจนตัวตาย อีกทั้งนางยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วย
ความโหดร้ายของกระบี่ชีวันแหลมคมอย่างมาก ทั่วทั้งร่างกายของนางเต็มไปด้วยบาดแผลถี่ยิบ ตอนที่พบตัวนั้น ร่างของนางโชกไปด้วยเลือด แทบทนดูไม่ได้
เซียวเฉวียนตกใจเป็นอย่างมาก แค่ได้ฟังก็รู้สึกถึงความเจ็บปวด “ใครเป็นคนพบนาง?”
“เว่ยอู๋จี้มาขอให้หลี่มู่ช่วยขอรับ” อี้กุยพูดเสียงต่ำ หลี่มู่เป็นหัวหน้าของจวนองครักษ์ เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับผู้อารักขาทั่วใต้หล้า
ผู้ใดบุกเข้าเมืองหลวง หลี่มู่ก็รับรู้ได้
ผู้ใดตกอยู่ในอันตรายอย่างที่สุด หลี่มู่ก็รับรู้ได้เช่นกัน
สถานที่ที่ฉินซูโหรวทำลายกระบี่ชีวัน คือเหวอันยวนที่ทาสคุนหลุนเคยรวมตัวกัน นางอยู่ท่ามกลางทะเลทรายสีเหลืองนอกเหวอันยวน และทำการต่อสู้กับกระบี่ชีวัน
ที่นั่นแทบไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่เลย จึงไม่อาจทำลายผู้บริสุทธิ์ได้
กระบี่ชีวันมีความโหดร้ายเพียงใด ในตอนแรกเว่ยอู๋จี้ยังสนับสนุนนายหญิงทุกทาง
เมื่อถึงตอนสุดท้าย ฉินซูโหรวบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ เขาจึงรู้ว่าเพราะเหตุใดเซียวเฉวียนต้องขวางนายหญิงไว้
ไม่ใช่ว่าเว่ยอู๋จี้ไม่คุ้มครองนาง ทว่ากระบี่ชีวันไม่ได้มีเขาอยู่ในสายตาเลย ทุกครั้งต่างอ้อมผ่านเขาไปและเอาชีวิตของฉินซูโหรวโดยตรง
มันจับจ้องฉินซูโหรวอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่เหลือความปราณีแม้แต่น้อย
เว่ยอู๋จี้เห็นท่าไม่ดีจึงรีบขอความช่วยเหลือจากหลี่มู่ หลี่มู่แจ้งให้ฝ่าบาททรงทราบ ฝ่าบาทจึงส่งคนไปยังเหวอันยวน เพื่อช่วยฉินซูโหรวกลับมา
“กระบี่ชีวันถูกสร้างขึ้นโดยเลือดเนื้อและเลือดบริสุทธิ์ของแม่ฉินมิใช่หรือ?”
เซียวเฉวียนขมวดคิ้วแน่น “เหตุใดจึงได้โหดร้ายต่อฉินซูโหรวถึงเพียงนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...