เซียวเฉวียนเป็นราชครู ไม่ว่าจะอย่างไรก็ถือเป็นผู้ใหญ่ เซียวเฉวียนกลับไม่สนใจในภาพลักษณ์ของตัวเอง อย่างไรเสียภาพลักษณ์ของเขาก็ดูไม่ดีมาตลอด ทว่าเขาไม่ควรทำให้ฮ่องเต้น้อยต้องพบเจอความลำบาก
เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้คนมากมาย เซียวเฉวียนหัวเราะแห้ง ๆ และคลายคอเสื้อจ้าวหลานที่ดึงไว้ลง พร้อมกับแสดงสีหน้าที่รักและเอาใจใส่ของผู้ใหญ่คนหนึ่ง “นี่ไม่ใช่จ้าวหลาน ไม่ ใต้เท้าจ้าวที่สุภาพเรียบร้อยบอกว่าเขาไม่รู้จักความโกรธ ข้าจะแสดงให้เขาดู”
เหตุผลเพ้อเจ้อเช่นนี้ มีแค่คนโง่ที่ยอมเชื่อ
คนที่ตาสว่างต่างมองออก ราชครูกำลังหาทางลงให้พวกเราไม่ต้องอึดอัด เหตุใดพวกเราไม่รีบไปตามน้ำเล่า?
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ๆ” เฉาสิงจือและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ทําหน้าเหมือนว่าคราวนี้พวกเรายอมเชื่อก่อน คราวหน้าต้องหาเหตุผลให้ดีกว่าหน่อย
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง...” จ้าวหลานที่มีความงุนงงเล็กน้อยก็พยักหน้าตาม เขากระพริบตาปริบ ๆ “ขอบคุณราชครู แต่ข้าพูดตอนไหนว่าข้าไม่รู้จักความโกรธ?”
เจ้าสมองสุนัขที่ไร้เดียงสาอย่างจ้าวหลาน เหตุใดเซียวเฉวียนจึงอยากต่อยให้ตายในหมัดเดียว?
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางตบหน้าจ้าวหลานเบา ๆ “เจ้าไม่ได้พูด แต่ทั้งตัวของเจ้านั้นเต็มไปด้วยความกวนบาทา... ไม่สิ มันเต็มไปด้วยคำว่าโง่เขลา”
แง...
จ้าวหลานอยากร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง ราชครูอยากตีเขาจริง ๆ เพราะเหตุใดกัน? เขาไม่ได้ทำสิ่งใดผิดต่อราชครูเสียหน่อย
ฮ่องเต้กระแอมเสียงแห้ง เซียวเฉวียนรีบปล่อยคอเสื้อจ้าวหลานออก จ้าวหลานจึงแสดงความเคารพ “กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท”
“ไม่ต้องมากพิธี”
ฮ่องเต้เหลือบมองจ้าวหลาน จากนั้นก็เมินเฉยต่อเขา พลางรุดเดินไปด้านหน้าสองก้าว “ราชครู ลำบากเจ้าต้องมาคุมการสอบแล้ว”
ทุกคนแอบเกลือกตามองบนให้แก่เซียวเฉวียน หน้าที่ของเซียวเฉวียนถือว่าสบายที่สุดแล้ว เมื่อตรวจเสร็จก็นั่งรออยู่เฉย ๆ เขาลำบากที่ไหนกัน?
ฮ่องเต้ลำเอียงกับเซียวเฉวียนในทุกเรื่องเสียจริง
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงห่วงใย ทุกอย่างในสนามสอบเรียบร้อยดีพะยะค่ะ ถือว่ากระหม่อมทำตามที่ฝ่าบาททรงฝากฝังไว้เรียบร้อยแล้ว”
เซียวเฉวียนยกสองมือประสานกันแล้วโค้งคำนับเล็กน้อย เป็นสัญญาณลับของเขาและฮ่องเต้
นับแต่เว่ยเป้ยส่งข้อสอบก่อนเวลา หลังจากที่ออกจากสนามสอบเป็นคนแรก ฮ่องเต้ก็ไม่เป็นสุข
หากเป็นเว่ยเชียนชิวมาก่อเรื่อง เซียวเฉวียนก็จะพูดว่าข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่มาแสดงความห่วงใย
หากเว่ยเชียนชิวประพฤติตัวเรียบร้อยไม่ออกนอกลู่นอกทาง เซียวเฉวียนก็พูดว่าทำตามที่ฝ่าบาททรงฝากฝังไว้เรียบร้อยแล้ว
เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้โล่งใจมาก ทว่าพระองค์ไม่ได้มาเพื่อเรื่องสนามสอบ แต่ใช้เหตุผลในการมาตรวจสนามสอบเป็นข้ออ้าง เพื่อส่งข่าวให้เซียวเฉวียน
ฮ่องเต้ขยับเข้าใกล้เซียวเฉวียน และพูดเสียงต่ำว่า “ราชครู ข้าพบโหรวเอ๋อร์แล้ว”
เซียวเฉวียนเลิกคิ้วและพยักหน้า ท่ามกลางใบหน้ามีความยินดีเล็กน้อย
“ทว่า อาการนางไม่สู้ดีนัก” ฮ่องเต้ลังเลเล็กน้อยแต่ก็พูดออกมา รอให้เซียวเฉวียนเข้าวังก็จะได้รู้
“พะยะค่ะ”
เซียวเฉวียนทำได้เพียงตอบรับและไม่ได้พูดอะไรมาก เกรงว่าคนอื่นจะพบพิรุธ เพราะยังเก็บเรื่องของฉินซูโหรวไว้เป็นความลับอยู่
ฮ่องเต้ที่ส่งข่าวเสร็จก็เดินนำขุนนางเข้าสนามสอบ ในขณะที่เวลาสอบใกล้สิ้นสุดลง พระองค์จึงอยากเห็นเหล่าผู้เข้าสอบในปีนี้แบบคร่าว ๆ
ด้านหลังฮ่องเต้ล้วนเป็นขุนนางผู้ใหญ่เก้าตำแหน่ง สวีซูผิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
เขาและเซียวเฉวียนทักทายกันผ่านสายตา ในสายตาของสวีซูผิงเต็มไปด้วยความดีใจ หลังจากที่เซียวเฉวียนได้เป็นราชครูแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม เห็นได้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ไม่แย่เลยทีเดียว ดีมาก ๆ!
เซียวเฉวียนคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาราชครูแล้ว! ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ!
สวีซูผิงเป็นผู้ที่ปกปิดอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เซียวเฉวียนขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าสวีซูผิงชื่นชอบเขามากเพียงใด เหตุใดรัฐมนตรีการคลังสวีผู้นี้เห็นเขาแล้วต้องยิ้มกว้างเช่นนี้?
เซียวเฉวียนลูบหน้าของตัวเอง หรือว่าใบหน้าของเขาเขียนไว้ว่าน่าขำ?
ช่างเถอะ ฉินซูโหรวกลับมาแล้ว เขาต้องไปดูเสียหน่อย
เสียงกลองบอกว่าเวลาสอบสิ้นสุดลงก็ดังขึ้น ฮ่องเต้ทรงพูดคุยกับผู้เข้าสอบที่ทดสอบระดับชนบทอยู่ เซียวเฉวียนสั่งงานที่เหลือต่อเรียบร้อย เขาก็หายไปในทันควัน
ณ พระราชวัง
ห้องหนังสือของฮ่องเต้
อ่างน้ำเลือดถูกยกออกมาจากด้านในทีละใบ เหล่าแพทย์หลวงยุ่งวุ่นวายตลอดทั้งบ่าย ถือว่าใกล้เสร็จแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...