ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 677

สรุปบท บทที่ 677 วิธีช่วยชีวิต: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 677 วิธีช่วยชีวิต – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 677 วิธีช่วยชีวิต ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ชื่อเสียงของฮว๋าเซี่ย ไม่เพียงแต่ฮ่องเต้ และเว่ยเชียนชิวที่เคยได้ยิน แต่ในครานั้น ผู้ที่คอยสุมหัวอยู่กับอี้อู๋หลี่อย่างเจี้ยนเหล่าก็คุ้นหูเป็นอย่างดี

ทว่ารายละเอียดในการติดตามฮว๋าเซี่ยของฮ่องเต้ต่างจากเขา เจี้ยนเหล่าติดตามฮว๋าเซี่ยในเรื่องการใช้อาวุธ

อี้อู๋หลี่บอกว่า อาวุธของฮว๋าเซี่ยล้วนไม่ใช่มีดหรือดาบ แต่เป็นปืน ระเบิดปืนใหญ่ และขีปนาวุธ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน

เจี้ยนเหล่าเคยถามว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นมีความแกร่งมากเพียงใด อี้อู๋หลี่ตอบขึ้นมาอย่างสบาย ๆ ว่า นำดาบทั้งหมดในต้าเว่ยมารวมกัน ยังไม่อาจเอาชนะระเบิดลูกเดียวของฮว๋าเซี่ยได้

พระเจ้า!

นี่มันคืออะไรกัน?

สิ่งนี้ทำให้ทัศนคติสามด้านของเจี้ยนเหล่าตะลึงเป็นอย่างมาก ทว่าอี้อู๋หลี่เป็นคนที่ซื่อตรง ไม่มีท่าทีเหมือนคนที่โกหก

อี้อู๋หลี่เป็นนักศึกษาวิทยาศาสตร์ เขาพร่ำบอกกับคนโบราณทุกวันว่าฮว๋าเซี่ยแข็งแกร่งเพียงใด และขัดเกลาทัศนคติสามด้านของฮ่องเต้องค์ก่อน ปีศาจกวี เจี้ยนเหล่าอยู่ทุกวัน ทำให้พวกเขาต้องอยู่กับความสงสัยที่แสนทรมาน อดไม่ได้ที่จะไปเห็นฮว๋าเซี่ยด้วยตาของตัวเอง

อี้อู๋หลี่ตอบอย่างทำอะไรไม่ได้ ไม่มีทางไปได้

เขาไร้หนทางที่จะอธิบายให้เจี้ยนเหล่าเข้าใจว่าการทะลุมิติคืออะไร เขาบอกเพียงว่า บ้านเกิดของเขาอยู่ไกลแสนไกล แม้จะขี่ม้าทั้งชีวิตก็ไม่สามารถไปถึง

เจี้ยนเหล่ามองว่าอี้อู๋หลี่ก็แค่ใจแคบ ไม่ยอมพาเขาไปที่ฮว๋าเซี่ย

เขารู้สึกว่าอี้อู๋หลี่เพียงแค่คุยโว หากฮว๋าเซี่ยเก่งกาจขนาดนั้นจริง ๆ เช่นนั้นคุนหลุน ต้าเว่ย และซินเจียงในตอนนี้จะยังเหลืออะไรอีก?

ฮว๋าเซี่ยคงไม่จัดการพวกเขาไปนานแล้วหรือ?

มีเพียงคำอธิบายเดียว นั่นก็คือแท้จริงแล้วบนโลกนี้ไม่มีสถานที่อย่างฮว๋าเซี่ย! เหตุผลที่อี้อู๋หลี่เก่งกาจเพียงนี้ เป็นเพราะว่าเขาก็เป็นเซียนผู้หนึ่ง เพื่อปิดบังตัวตนจริง ๆ ของตัวเอง จึงได้สร้างเรื่องระเบิดขีปนาวุธขึ้นมาเพื่อหลอกเขา!

จู่ ๆ ตอนนี้ก็มีเซียวเฉวียนโผล่ขึ้นมาอีกคน และบอกว่าเขาก็มาจากฮว๋าเซี่ยงั้นหรือ?

ห๋า

ปฏิกิริยาแรกของเจี้ยนเหล่าไม่ใช่อาการตกใจ แต่เขาแทบทรุดตัวลง

หากเซียวเฉวียนก็มาจากฮว๋าเซี่ย เช่นนั้นสิ่งที่อี้อู๋หลี่เคยกล่าวไว้ก็เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?

เช่นนั้นการที่เขาใฝ่ฝันจะตีดาบที่แกร่งที่สุด จะยังมีประโยชน์อันใด?

ไม่เพียงแต่เซียวเฉวียน เว่ยอวี๋และเว่ยเป้ยก็มาจากฮว๋าเซี่ย เพียงแต่ตอนนี้เจี้ยนเหล่ายังไม่รู้ก็เท่านั้น หากเขาได้รู้ เกรงว่าจะล้มทั้งยืนไปตรงนั้น

อย่างไรเสียการที่อี้อู๋หลี่พูดเพียงคนเดียว เจี้ยนเหล่าไม่เชื่อ หากมีอีกสักสองคนมาพูด เขาไม่เชื่อก็คงต้องแล้วแต่เขา

เจี้ยนเหล่าเข่าทรุดจนไม่รู้จะด่าเซียวเฉวียนอย่างไรดี เขาจ้องเซียวเฉวียน “อี้อู๋หลี่บอกว่า ฮว๋าเซี่ยมีอยู่สถานที่หนึ่งที่มีสาวงามชื่อสี่พยางค์ มันเรียกว่าอะไร?”

หืม?

ทดสอบเขางั้นหรือ?

นึกไม่ถึงว่าอี้อู๋หลี่เคยคุยเรื่องสาวงามฮว๋าเซี่ยกับคนโบราณ

“ซินเจียง” เซียวเฉวียนไม่ลังเลแม้แต่น้อย อี้อู๋หลี่คงไม่ได้เล่าเรื่องดาราอย่างตี๋ลี่เร่อปากับคนโบราณหรอกนะ

ขนคิ้วของเจี้ยนเหล่ากระตุกอย่างเห็นได้ชัด ดูท่าว่าเซียวเฉวียนจะตอบถูก

อี้กุยตื่นเต้นสุด ๆ และปัดมือของเจี้ยนเหล่าออก “เห็นหรือไม่ เจี้ยนเหล่า ข้าไม่ได้หลอกท่าน คนกันเอง ๆ อย่าตีกันเลย อย่าตีกันเลยนะ”

คำว่าฮว๋าเซี่ย มีประโยชน์มากกว่าทุกสิ่งที่เซียวเฉวียนพูดเสียอีก

สีหน้าที่ไม่ยับยั้งชั่งใจของเจี้ยนเหล่าก็มลายหายไป เขานั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่พูดไม่จา หันหลังให้เซียวเฉวียนและอี้กุย ด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างสุดซึ้ง

“เจี้ยนเหล่า ช่วยอาหมานไม่ได้จริง ๆ งั้นหรือ?”

น้ำเสียงของเซียวเฉวียนอ่อนโยนลง การขอร้องให้ผู้อื่นช่วยจักต้องแสดงท่าทางที่ถูกกาลเทศะ เจี้ยนเหล่าตอบเสียงเบา “กระบี่ชีวันทำให้เสียพลังงานหยางไปมาก จึงยากที่จะช่วยเหลือ”

พูดจบ เจี้ยนเหล่าก็พับแขนเสื้อขึ้น บนไหล่ซ้ายของเขามีรอยแผลเป็นของคมดาบที่น่าสะพรึงกลัว แม้รอยแผลจะหายเป็นปกติแล้ว ทว่าบาดแผลยังคงแดงสดราวกับเพิ่งบาดเจ็บมาหมาด ๆ

“มนุษย์มีแก่นแท้ พลัง และจิตวิญญาณ หล่อหลอมเป็นเลือดบริสุทธิ์ ดาบมีพลังพลังจิตวิญญาณ หล่อหลอมเป็นพลังดาบ”

“มนุษย์ถูกดึงเลือดบริสุทธิ์จึงไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ ดาบถูกดึงพลังดาบก็จะเป็นเพียงแท่งเหล็กหนึ่งชิ้น เจ้าต้องคิดให้ดี”

เจี้ยนเหล่าพูดด้วยความหวังดี กระบี่ฉุนจุนเป็นกระบี่เทพซึ่งไร้ที่เปรียบในโลก มีเพียงเล่มเดียวในโลกมนุษย์ หากนำพลังของกระบี่ไป กระบี่ฉุนจุนก็ไม่อาจใช้การได้อีก

เพื่อช่วยชีวิตฉินซูโหรว ต้องสละกระบี่ชั้นเลิศไร้ที่เปรียบไปหนึ่งเล่ม ดูว่าเซียวเฉวียนจะยอมหรือไม่

แม้ว่าเซียวเฉวียนจะยอม ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวอาจไม่ยอมก็ได้

นึกไม่ถึงว่าเซียวเฉวียนออกคำสั่งอย่างง่ายดาย เขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย “ไป๋ฉี่! เจ้าไปที่กระท่อมน้ำพุ เล่าเรื่องนี้ให้ท่านแม่ฟัง และนำกระบี่ฉุนจุนมา!”

“ขอรับ!” ไป๋ฉี่พยักหน้า และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

เจี้ยนเหล่างุนงง อี้อู๋หลี่เคยบอกว่า คนฮว๋าเซี่ยไม่สนใจดาบ เพราะอาวุธของคนฮว๋าเซี่ยล้ำหน้าและพัฒนากว่านี้มาก

การแสดงออกของเซียวเฉวียน ตรงกับที่อี้อู๋หลี่ว่าไว้ทุกอย่าง

ยอมสละกระบี่เลื่องชื่อเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว ในสายตาของเจี้ยนเหล่ามองว่าไม่คุ้มค่า เพราะว่ากระบี่นั้นหาได้ยากยิ่ง ผู้ต่างต่างเฝ้าฝันหา

ความจริงแล้ว หากกระบี่ฉุนจุนไม่ใช่มรดกตกทอดจากท่านพ่อ สำหรับเซียวเฉวียนแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากกระบี่เล่มอื่น ๆ

นับแต่มีดาบจิงหุน เขาก็ลืมมันไปอยู่หลายครั้งหลายครา

ตอนนี้มันสามารถช่วยชีวิตคนได้ เช่นนั้นก็จะถือว่ามันมีคุณค่า

“เจ้าอย่าเพิ่งรับปากเร็วเกินไป ไม่ใช่เรื่องยากที่พลังกระบี่จะเข้าสู่ร่างกายของนาง” เจี้ยนเหล่าเตือนด้วยความหวังดี “ร่างกายของฉินซูโหรวมีหยินที่หนาวเย็นอยู่มาก พลังกระบี่ไม่ได้มีเรี่ยวแรง เจ้าจึงต้องใช้แรงของเจ้าจึงจะช่วยชีวิตนางได้”

ใช้แรง? อี้กุยได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา

คำนี้ทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่าย เซียวเฉวียนก่ายหน้าผาก “เจี้ยนเหล่า ท่านลองพูดให้ชัดเจนหน่อยได้หรือไม่? ใช้แรงด้วยวิธีการใด?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย