บทที่ 678 รอดจากปากเหยี่ยวปากกา – ตอนที่ต้องอ่านของ ซูเปอร์ลูกเขย
ตอนนี้ของ ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 678 รอดจากปากเหยี่ยวปากกา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“อย่าได้สนว่าจะใช้พลังหรือมิใช่พลัง เจ้าจะไปช่วยนางจริงหรือ?
เจี้ยนเหล่าขมวดคิ้วเข้าหากัน “แม้ว่านางจะเป็นฉินซูโหรวจริง มิเคยทำเรื่องให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ แต่สำหรับเจ้า นางก็เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น”
ทำเพื่อคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ถึงกับต้องเสียสละกระบี่ฉุนจุน และยังต้องเอาชีวิตตนไปเสี่ยงอีก ช่างเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าเสียจริง
ถ้าหากเป็นตน ตนก็จะไม่ช่วย ตนก็รักตัวกลัวตาย ชีวิตของเขาคือการไล่ตามอุดมคติ ไม่สามารถเอาชีวิตตนไปทิ้งกับผู้หญิงคนหนึ่งได้ ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
เจี้ยนเหล่าได้ยินมานานแล้วว่า เซียวเฉวียนมีความทะเยอทะยานสูงเสียดฟ้า เขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานที่ไล่ตามสิ่งนี้และสิ่งนั้น หากเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉินซูโหรว ถือว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไร้สาระหรือไม่?
เดิมทีอี้กุยเป็นห่วงฉินซูโหรว พอพูดขึ้นมา เขาก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเซียวเฉวียน “อันตรายมากเลยหรือ? อันตรายเท่าไรเล่า? ท่านปู่น้อยจะรับมือไหวหรือไม่?”
“ก็เกือบเอาชีวิตรอดมิได้” เจี้ยนเหล่าชูนิ้วมาหนึ่งนิ้ว “เจ้ามีโอกาสแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
เจี้ยนเหล่าชี้ไปที่อาการบาดเจ็บที่แขนของเขา “ อย่ามองว่าตอนนี้บาดแผลสาหัสแค่ไหน ที่ต้องรักษาเช่นนี้ ปีนั้นกวีปีศาจเพื่อที่จะปลดปล่อยพลังกระบี่ให้ข้า ซี่โครงต้องหักไปแถวหนึ่ง”
อากาศเย็นจากบาดแผลสามารถส่งผลย้อนกลับไปยังผู้รักษาได้ ย้อนกลับไป กระดูกอกของกวีปีศาจหักกะทันหัน ทำให้เขานอนกลิ้งไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด และในที่สุด เขาก็หมดสติไป นี้จะเป็นวิธีที่จะหนีจากความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้ได้
ฉินซูโหรวได้รับบาดเจ็บหนัก ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด อยากรักษาหล่อนให้หายดี และก็อยากลบรอยแผลเป็นของหล่อนด้วย เซียวเฉวียนไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้เลยอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าจงตรองให้ดี ๆ เจ้ามีกระดูกกี่ท่อนก็สามารถหักได้” เจี้ยนเหล่าไม่อยากข่มขวัญเซียวเฉวียน เพื่อเห็นแก่เซียวเฉวียนซึ่งเป็นลูกศิษย์อันเป็นที่รักของกวีปีศาจ เจี้ยนเหล่าจึงต้องบอกผลลัพธ์ร้ายแรงที่สุดให้เซียวเฉวียนได้รับรู้ ก็เลยต้องพูดถึงกวีปีศาจขึ้นมา
หลังจากพูดจบ เซียวเฉวียนก็คงจะลังเลและมีความคิดที่จะกลับลำแล้วใช่หรือไม่?
“ท่านปู่น้อย!” อี้กุยขมวดคิ้วเป็นปม “สู้ช่างมันไม่ดีกว่าหรือ! มันอันตรายเกินไป!”
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ดี ด้วยมูลค่าและน้ำหนักสุทธิในปัจจุบันของเซียวเฉวียน และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯจากฝ่าบาท จะยอมเสี่ยงชีวิตตตายเพื่อคน ๆ หนึ่ง ช่างไม่คุ้มค่าเสียจริง !
ถ้าเซียวเฉวียนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วฉินซูโหรวเป็นคนอย่างไร ไม่เคยเจอหล่อน และก็ไม่รู้ว่าหล่อนทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง เซียวเฉวียนคงทำเป็นหูทวนลมได้อย่างง่ายดาย
แต่พอเขาได้เคยเจอฉินซูโหรวจริง ๆ แล้ว
เขาได้พูดกับแม่นางอ่อนโยนผู้นี้อย่างตรงไปตรงมา
เขายังรู้อีกว่า หล่อนแบกภาระอย่างไม่สมควรที่จะแบก
เธอยังยืนกรานที่จะทำลายกระบี่ชีวัน เพื่อตน
แท้จริงแล้ว แม้คนอื่นไม่พูด เซียวเฉวียนก็รู้ดีว่ากระบี่ชีวันนั้นดุร้ายมากเท่าไร
เพราะเซียวเฉวียนเองมีอาวุธที่คล้ายกับกระบี่ชีวันเช่นเดียวกัน นั่นคือพู่กันจินหลุนเฉียนคุน
เซียวเฉวียนเชื่อว่า ถ้าพู่กันจินหลุนเฉียนคุนอยากจะฆ่าใครสักคน คน ๆ นั้นไม่มีทางหนีรอดไปได้แน่ หลบก็หลบไม่พ้น ต้องตายอย่างน่าอนาถไปในที่สุด
ตอนแรก เมื่อตอนที่เซียวเฉวียนต่อสู้กับแม่ฉินและเหลียงไหโหรวที่ถนนจูเชวี่ย พู่กันจินหลุนเฉียนคุนปราศจากความยินยอม สามารถควักลูกตาของแม่ฉินได้อย่างโหดร้าย มันทำให้เธอมีเลือดออกไหลเป็นทาง นี่ก็เป็นบทพิสูจน์ได้ว่า อาวุธอันทรงพลังนี้ สังหารผู้คนด้วยมือที่โหดเหี้ยมได้
แต่สิ่งที่เซียวเฉวียนคาดไม่ถึงก็คือ กระบี่ชีวันเล่มนี้จะดุร้ายต่อลูกสาวแท้ ๆ ได้มากถึงเพียงนี้
นี่คือชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ก็ตาม
ขอแค่เต็มใจหรือไม่เต็มใจเท่านั้น
“ช่วย ข้าต้องไปช่วยนาง” เซียวเฉวียนมีสายตามุ่งมั่น “ฉินซูโหรวจะต้องมีชีวิตอยู่”
เจี้ยนเหล่าตกตะลึง “ นี่เจ้า เจ้าจะไม่เสียใจภายหลังใช่หรือไม่? นี่มันไม่น่าขันเสียเลยนะ!”
เซียวเฉวียนพยักหน้า “ข้าเคยให้สัญญากับแม่ทัพฉินไว้ ว่าข้าจะปกป้องคุ้มครองหลานสาวเขาอย่างปลอดภัย เพราะฉะนั้นข้าจึงมิสามารถผิดคำพูดได้ “
“สัญญาอย่างนั้นหรือ?”
สองคำนี้ ทำให้เจี้ยนเหล่าอึดอัดใจ “เจ้าเองก็คุ้มครองตระกูลฉินเป็นเวลานานแล้ว แต่ครานี้เจ้าจะเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยง ข้ามิเห็นด้วย”
ถ้าเจี้ยนเหล่าเห็นด้วยก็โง่แล้ว ให้ตายเถอะ เขาตั้งความหวังทั้งหมดของเขาในการทำลายผนึกจูเสินไว้ที่เซียวเฉวียน ถ้าเขาตาย คนแห่งเขาคุนหลุนจะทำอย่างไรเล่า?
ไม่ได้ แม้แต่เพื่อคนแห่งเขาคุนหลุน เจี้ยนเหล่าก็จะไม่ให้เซียวเฉวียนเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงเด็ดขาด
เสี้ยววินาทีก่อน เจี้ยนเหล่าโกรธจนอยากจะตีเซียวเฉวียนด้วยซ้ำ
แต่เพลานี้ได้ใจเย็นลง เจี้ยนเหล่าได้สติกลับคืนมา เซียวเฉวียนวียนเป็นแสงสว่างของคนแห่งเขาคุนหลุน ไม่สามารถได้รับความเสียหายได้แม้แต่นิดเดียว
หากภายหลังใครแตะต้องเซียวเฉวียน เขาจะเอาเรื่องผู้นั้นถึงที่สุด
คลื่นมือทรงพลังของเซียวเฉวียนได้ผลักเจ้าเก้าออกไป ยังจะถามอีกว่าทำไม ความสำคัญของราชองครักษ์บางรุ่นในเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าพวกไป่ฉี่เหมิงเอ้า และราชองครักษ์เหล่านี้อายุยังน้อยนัก
เซียวเฉวียนไม่สามารถทนส่งให้ไป๋ฉี่ไปตายได้ คิดว่าจะทนส่งให้เจ้าเก้าไปตายได้หรือย่างไร?
เจี้ยนเหล่าและอี้กุ้ยค่อย ๆ ง้างปากออกมา เซียวเฉวียนคิ้วราบตายืน “หากใครพูดพล่ามอีก ไสหัวออกไปตำหนักยางหวาซะ!”
“ขอรับ…”อี้กุยก้มหัว พูดอย่างน้อยใจ “ท่านปู่น้อย สู้ให้ข้าไปไม่ดีกว่าหรือ?”
เซียวเฉวียนอยากจะง้างมือตีเขาให้ตายเสียจริง ๆ “หุบปาก!”
แต่ทว่าอี้กุยเป็นทายาทคนเดียวของศาลาคุนหวู่ ถ้าประสบกับภัยพิบัติที่อันตรายถึงชีวิต ถ้าเซียวเฉวียนได้กลับไปยุคปัจจุบันไปเจออี้อู๋หลี่ คงจะพูดกับกับอี้อู๋หลี่ว่า “น้องชาย ข้าขออภัย ข้าจะเล่นหลานชายของเจ้าให้ตายคามือเลยทีเดียว”
อี้อู๋หลี่จะไม่สับเขาเป็นชิ้น ๆ เลยหรือไร?
“ข้าเอง!”
“ข้าเหมาะสมที่สุด!”
ในเพลานี้ ได้มีรูปร่างสูงโตที่คาดไม่ถึงปรากฎออกมา
เซียวเฉวียนหันตัวกลับ นั่นคือเว่ยอู๋จี้
ให้ตายเถอะ นี่มันศัตรูคู่อาฆาตของไป๋ฉี่นี่!
เซียวเฉวียนประเมินเขาสักพัก ขณะนี้เขาได้สวมชุดเป็นชุดสะอาด แต่บนตัวเขายังคงมีกลิ่นเลือดอยู่
เขาจ้องเขม็งไปที่เซียวเฉวียน เพื่อนายท่าน มันไม่สำคัญว่าเขาจะรอดพ้นจากความตายได้อย่างหวุดหวิดหรือไม่
“เว่ยอู๋จี้ เจ้ามีความมั่นใจ” เซียวเฉวียนกลับสายหัว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมมั่นใจ แถมยังน่าเกรงขามมากอีกด้วย “แต่กระบี่ฉุนจุน มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถ”
คนพวกนี้ไม่เข้าใจกระบี่ฉุนจุนเสียแล้ว
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำลายกระบี่ฉุนจุนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...