ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 682

สรุปบท บทที่ 682 เงาของเหวลึก: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที่ 682 เงาของเหวลึก จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที่ 682 เงาของเหวลึก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“ฮู่ว”

ครั้นเซียวเฉวียนเดินเข้าไป สายลมอึมครึมสายหนึ่งก็โบกพัด พัดจนกระทั่งต้นไม้ในเรือนหลังนั้นสั่นไหวไปมา

กลิ่นอายเย็นยะเยือกของกระบี่ชีวัน น่ากลัวเป็นที่สุด

กระทั่งกลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกห้องก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันยะเยือกนี้

แค่คิดก็รู้แล้วว่า ฉินซูโหรวต้องรับโทษหนักหนาเพียงใด

“ฮู่มมม”

สายลมโบกพัดอีกครั้งหนึ่ง ลมสายนี้ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน กลิ่นอายพลังหยางเต็มเปี่ยม มันสะกดกลิ่นอายหยินอันเย็นเยียบเมื่อครู่ไปอย่างช้าๆ

ฮ่องเต้ประทับอยู่นอกเรือน ทรงมองเห็นแสงเทียนที่ถูกจุดขึ้นในห้อง

เงาร่างของเซียวเฉวียน เย่าเหล่าและเจี้ยนเหล่าทั้งสามคน ถูกฉายผ่านทางกระดาษหน้าต่าง

“ฝ่าบาท ไม่สู้ไปประทับรอในท้องพระโรงไหมพ่ะย่ะค่ะ พวกราชครูเกรงว่าคงใช้เวลาสักครู่” ขันทีหม่าเห็นสายลมพัดโบกหนัก ด้านหนึ่งช่วยฮ่องเต้ขวางทางลมไว้ อีกด้านหนึ่งเอ่ยอย่างเป็นห่วงเป็นใบ

“ไม่จำเป็น ข้าจะรออยู่ข้างในนี้”

อี้กุยส่งสัญญาณให้ขันทีหม่า ฝ่าบาทกำลังร้อนพระทัย ไฉนเลยจะนั่งติดที่ได้

ขันทีหม่าเข้าใจ เขาพลันรีบล่าถอยไม่เอ่ยอะไรมากมายอีก

“เป็นใครกัน?”

“เป็นใครสร้างเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้?” ฮ่องเต้เหยียดพระวรกายตรงตระหง่าน ดังไม้ใหญ่ต้านแรงลม หากเขามิใช่ฮ่องเต้ เขาจะต้องเป็นชายหนุ่มผู้มีพลังกระฉับกระเฉงรายหนึ่ง ทว่าตอนนี้ หว่างคิ้วของเขากลับเผยประกายอ่อนล้าและดูผ่านอะไรมามากมาย

“ตอนนี้โหรวเอ๋อร์ก็เป็นแบบี้เช่นกัน” ฮ่องเต้หันพระพักตร์ไปมองอี้กุย “เจ้ารู้หรือไม่ เว่ยอวี๋น้องชายแท้ๆ ของเจิ้นตายไปตั้งนานแล้ว?”

อี้กุยผงะไป จุดนี้เขากลับไม่ทราบ เขารู้แต่ว่าระยะหลังนี้เว่ยอวี๋ทำตัวแปลกๆ ยิ่งมายิ่งเหมือนท่านปู่น้อย คล้ายเปลี่ยนเป็นคนละคนก็ไม่ปาน

พอคิดถึงตรงนี้ อี้กุยก็ผงะไป “ฝ่าบาท ท่านหมายถึงว่า? ท่านอ๋อง...ท่านอ๋องก็เป็นคนจีนอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่ ก่อนหน้านี้พระอนุชาถูกวางยาพิษตายแล้ว”

หว่างคิ้วของฮ่องเต้หม่นทะมึน เว่ยอวี๋ตายในงานเลี้ยงวังหลวง เว่ยอวี๋ปัจจุบันแล้วเป็นคนที่ข้ามเวลามาจากช่วงนั้น

เว่ยอวี๋ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ธรรมดา เขาคือผู้สูงศักดิ์ทรงอำนาจในหมู่ผู้สูงศักดิ์

ฉินซูโหรวเองก็ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ธรรมดาเช่นกัน ฐานะของนางโดดเด่นและสำคัญ

แต่ว่าพอมองจากจุดนี้ ทั้งสองคนกลับไม่อาจหลุดพ้นความทรมานซึ่งกระทำโดยมือมืดหลังม่านเลย

“ฝ่าบาท ท่านรู้สึกว่า ในวังหลวงมีหนอนบ่อนไส้ตัวใหญ่อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้พยักหน้า เป็นการตอบรับคำพูดของอี้กุย

ก่อนหน้านี้ การตายของเว่ยอวี๋ เขาสงสัยว่าเป็นฝีมือเว่ยเชียนชิว ฮ่องเต้กับเว่ยอวี๋เป็นพี่น้องแท้ๆ สังหารเว่ยอวี๋ก่อนค่อยจัดการฮ่องเต้ อีกหน่อยแผ่นดินนี้ก็เป็นของเว่ยเชียนชิวแล้ว ทฤษฎีนี้ฟังแล้วถูกต้องนัก

ทว่าฮ่องเต้กลับทรงเอ่ยปากว่า ทฤษฎีนี้ผผิด

เว่ยเชียนชิวดันไม่อยากจะเป็นฮ่องเต้ เขาแค่อยากเป็นอ๋องคนหนึ่ง หลังจากนั้นก็เที่ยวเล่นในแดนมนุษย์ สังหารทุกคนไปเล่นๆ

ตำแหน่งฮ่องเต้นี้สำหรับเว่ยเชียนชิวแล้ว เขาไม่ได้มองเลยสักนิด

คำพูดนี้ของเซียวเฉวียนทำให้ฮ่องเต้ทรงไม่พอพระทัยมาก ทว่าเขากลับต้องยอมรับ นี่ก็ถือว่าเป็นความจริงเช่นกัน

หากว่าเว่ยเชียนชิวจับจ้องบัลลังก์หยกตาเป็นมัน ยามฮ่องเต้ยังเยาว์ขึ้นครองบัลลังก์ รากฐานยังไม่มั่นคง ปีกยังไม่สยายเต็มที่ สู้ชิงบัลลังก์เสียตอนนั้นมิใช่จะได้ประโยชน์กว่าตอนนี้มากหรอกหรือ?

ส่วนเรื่องที่เซียวเฉวียนสงสัยว่าไทเฮาอาจเป็นผู้ลงมือกับฉินซูโหรวนั้น

ฮ่องเต้ก็เหมือนฉินหนาน ปฏิเสธในทันที

คดีเรื่องฉินซูโหรวตัวปลอม และการตายของเว่ยอวี๋ วิธีการลงมือดูไปแล้วนานัก เป้าหมายยังเป็นผู้สูงศักดิ์ทั้งคู่ และผู้ลงมือทำร้ายก็ไร้ร่องรอยเช่นกัน

เช่นนั้นคงจะเป็นฝีมือของคนเพียงคนเดียว ไทเฮาไม่อาจจะวางยาพิษสังหารเว่ยอวี๋ได้ นางรักลูกชายคนเล็กที่ปากหวานรายนี้เป็นที่สุด เพื่อเขาแล้วกระทั่งชีวิตนางก็ยอมสละให้ได้

อีกทั้งเพื่อจะปกป้องฉินซูโหรว ไทเฮาไม่เสียดายที่จะทนรับการด่าทอจากคนทั่วหล้า นางหลอมกระบี่ชีวันขึ้นมา หากว่านางรู้ว่าฉินซูโหรวเป็นตัวปลอม จะต้องไม่ทำเช่นนี้แน่

ไทเฮาทรงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเป็นที่สุด ไม่เห็นจะต้องเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวงปานนี้เพื่อตัวปลอมเลย เรื่องกระบี่ชีวันนี้ หากว่าหลุดแพร่ออกไป ตำแหน่งไทเฮาก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว!

พอใช้วิธีการตัดตัวเลือกแล้ว ก็ตัดได้เลยว่าไม่ใช่ฝีมือของไทเฮา

ไม่ใช่เว่ยเชียนชิวและไม่ใช่ไทเฮาเช่นกัน เช่นนั้นยังมีใครอีก?

ผู้ที่รู้สึกว่าโดนหยอกเล่นอย่างรุนแรงไม่ได้มีแค่เซียวเฉวียนกับฉินซูโหรว แต่ยังมีฮ่องเต้

“อา!”

ภายในห้อง มีเสียงคำรามดังขึ้น

เป็นเสียงคำรามโกรธเคืองของเซียวเฉวียน

“ท่านปู่น้อย!” อี้กุยต้องการพุ่งเข้าไป ส่วนฮ่องเต้ขวางเขาเอาไว้ “เจี้ยนเหล่ากับเย่าเหล่าอยู่ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”

เขาเพียงเห็นเงาของกระบี่ฉุนจุนกับเซียวเฉวียนปรากฎตัวอยู่ตรงเงากระบี่ตรงขอบหน้าต่าง

กระบี่ฉุนจุนปักเข้ากลางหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน!

จิตสังหารพวยพุ่ง!

“หากต้องการสกัดกั้นปราณกระบี่ของกระบี่ฉุนจุน” ฮ่องเต้ทรงกำพระหัตย์แน่น “นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

ยากน่ะมันยากอยู่แล้ว อี้กุยเชื่อว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ท่านปู่น้อยทำไม่ได้

เพียงแต่อี้กุยยิ่งเป็นกังวลไปกว่าเก่า ครั้งนี้ที่เอากระบี่ฉุนจุนไป ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวกลับไม่อยู่

กระบี่ฉุนจุนนั้นเป็นมรดกชิ้นเดียวของแม่ทัพเซียวเทียน ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวให้ความสำคัญยิ่ง

หากว่าฮูหยินผูเฒ่าเซียวพบขึ้นมาวันใดว่ากระบี่ฉุนจุนกลายเป็นเศษทองแดงผุพง นางจะไม่โมโหคลั่งไปหรือ?

อีกทั้ง ยังกลายเป็นเศษทองแดงผุพังเพราะฉินซูโหรวด้วย

กระบี่ฉุนจุนมีความสำคัญต่อฮูหยินผู้เฒ่าเซียวยิ่งยวด ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวกลับไม่สนใจว่าฉินซูโหรวนี้เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม

ถึงเวลานั้นฮูหยินผู้เฒ่าเซียวจะต้องโมโหหนักมากแน่

อีกหน่อยฮูหยินผู้เฒ่าเซียวจะโมโหเพียงใดนั้นอี้กุยไม่ทราบ แต่ว่าตอนนี้กระบี่ฉุนจุนเดือดจัดกลับเป็นเรื่องจริง สายลมพิฆาตสายหนึ่งโบกพัดมา อี้กุยอดที่จะหรี่ตาลงไม่ได้

จิตสังหารอันหนาวเหน็บของกระบี่ฉุนจุนนั้น แทบจะทะลุหน้าต่างออกมาอยู่แล้ว! ใบไม้ที่อยู่นอกห้องพัดไหวร่วงโรยลง อี้กุยตะโกนเสียงดัง “เด็กๆ! คุ้มครอง!”

“ไม่จำเป็น” ฮ่องเต้ส่ายพระพักตร์ จิตสังหารเล็กน้อยแค่นี้ เขายังต้านทานไหว

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนจะสามารถต้านทานอยู่หรือไม่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย