ร้านน้ำชาข้างทางอย่างนี้ แค่เงินสลึงเดียวก็สามารถดื่นน้ำชาร้อนๆได้หนึ่งชามใหญ่
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชาที่ดีมาก รสชาติของชาก็ฝาดมาก แต่ว่าราคาถูก คนส่วนใหญ่จึงเลือกร้านน้ำชาข้างทางดื่มเพื่อดับกระหาย
ดังนั้นนอกจากบ่อนพนัน โรงเหล้า บ้านพัก ก็มีแค่ร้านน้ำชาข้างทางเหล่านี้และที่มีเรื่องซุบซิบนินทามากที่สุดให้ได้ฟัง
ที่จริงแล้วไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าดื่มชาร้อนๆสองสามถ้วยก็จะต้องกลับไปที่พระราชวัง แต่ผลสุดท้ายได้ยินเรื่องซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับนายท่าน
ถ้าเป็นเรื่องซุบซิบนินทาธรรมดาปกติ ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าก็คงจะแค่ฟังไปผ่านๆ ที่จริงเรื่องซุบซิบนินทาของนายท่านก็มีมากมาย ชื่อเสียงก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก คนบริสุทธิ์ก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้เอง โดยที่ไม่ต้องพูดชี้แจ้งอะไร ฟังเยอะไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
แต่เรื่องซุบซิบนินทาในครั้งนี้ ดูผิดปกติ
ประชาชนในเมืองเล็กๆนี้พูดกับปากต่อปาก บอกว่าเซียวเฉวียนทำลายฆ่าปัญญาชนและผู้อารักข้าของชิงหยวน มีปัญญาชนและผู้อารักขาตายอย่างน่าอนาถ บนร่างกายของพวกเขามีบาดแผลจากดาบจิงหุน
คนเหล่านี้พูดถึงเซียวเฉวียน กลายเป็นยมบาลที่ยังคงอยู่
เมื่อพูดถึงเซียวเฉวียน พวกเขาต่างพากันส่ายหน้า พูดว่าปีศาจกวีรับลูกศิษย์ที่ชั่วร้ายไว้หนึ้งคน เซียวเฉวียนต้องการฆ่าลูกศิษย์ของชิงหยวนให้หมด
ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าหันมองหน้ากัน สีหน้าเคร่งขรึม
นายท่านกลายเป็นราชครู เข้าไปในพระราชวังได้เพียงไม่กี่วัน ชื่อเสียงแย่ถึงขนาดนี้?
และคำพูดไร้สาระพวกนี้ใครเป็นคนทำขึ้นมา?ดูท่าทางพวกเขาพูดดูเป็นจริงเป็นจังมาก จะต้องมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่แน่นอน
ตอนนี้นายท่านกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุด แต่การผนึกจูเสินก็เป็นสิ่งสำคัญ ไป๋ฉี่ไม่กล้าละเลยได้:“เหมิงเอ้า เจ้าเข้าวังไปก่อน ข้าจะไปตรวจสอบดูซักหน่อย”
“อื้ม!จะต้องหาคนๆเลวที่ปล่อยข่าวพูดไร้สาระให้ได้!ข้าจะต้องจัดการมันให้เด็ดขาด!” คนพวกนี้ทำความเสื่อมเสียให้กับนายท่านของเหมิงเอ้า เหมิงเอ้าโกรธไม่พอใจอย่างมาก ถ้าเขารู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาจะทุบทำให้คนๆนั้นให้แหลกสลายเลย!
ในตอนนี้ ตำหนักยางหวาที่เงียบสงบโดยไม่รู้ว่าแผนการเลวร้ายน่าตกใจกำลังจะมาถึงในไม่ช้า
เซียวเฉวียนปิดกั้นจากคนภายนอกเพื่อฝึกสมาธิ ภายในตำหนักยางหวาตรวจตราเข้มงวด ภายในตำหนักเงียบสงบ มีคนเดินไปมาเพียงไม่กี่คน
เซียวเฟิงกับสุนัขสีเหลืองตัวน้อยเดินอยู่ข้างนอกห้องของเซียวเฉวียน ค่อยคุ้มครองความปลอดภัยของนายท่าน
เซียวเฉวียนปิดกั้นจากคนภายนอกเพื่อต่อสู้กับพลังของกระบี่ชีวันและกระบี่ฉุนจุน ฮ่องเต้ไม่สบายพระทัย พระองค์อยู่ในห้องหนังสือ ไม่ได้บรรทมตลอดทั้งคืน พลิกเปิดหนังสือ รู้สึกเบื่อหน่าย กระสับกระส่าย
“ฝ่าบาท นี้เป็นเลือดของจ้าวอีโต้ว” ขันทีหม่ายื่นขวดเล็กๆขวดหนึ่ง และวางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
“เหอะ” ฮ่องเต้พูดออกมาอย่างเยือกเย็น จ้าวอีโต้ว เจ้ามันเลวจริงๆ
เรื่องของฉินซูโหรวยังไม่ทันได้ข้อสรุปว่าจริงหรือเท็จ ฮ่องเต้รู้สึกดีใจมาก ที่จ้าวอีโต้วถูกลงโทษประหารชีวิตแล้ว ก็เป็นการหาข้ออธิบายให้คนเหล่านั้นได้แล้ว คดีผู้แอบแฝงก็ถือว่าจบลงแล้ว
ผลสุดท้าย โหรวเอ๋อร์.........
“ฝ่าบาท สายลับมีข่าวมารายงาน ครั้งนี้ไท่เฮาต้องการจัดการราชครู” “จัดการอีกแล้ว?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ไท่เฮาไม่พอใจเซียวเฉวียน ทุกครั้งมองเซียวเฉวียนเป็นเหมือนศัตรู ฮ่องเต้จะทรงตรัสอย่างไรก็ไม่เป็นผล ทำได้เพียงแต่ปล่อยไปตามใจนาง
“ฝ่าบาท ครั้งนี้ไท่เฮาไม่ได้ลงมือด้วยพระองค์เอง พระนางวางแผนไว้นานแล้ว เตรียมแผนยืมมือคนอื่นฆ่าคน”
ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว :“ยืมมือคนอื่นฆ่าคน?”
“ปัญญาชนและผู้อารักขา”
ฮ่องเต้หายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง มองขันทีหม่า :“แน่ใจใช่ไหม?”
“ฝ่าบาท แน่นอนไม่ผิดแน่พระเจ้าค่ะ” ขันทีหม่าถอนหายใจ:“จะทำอย่างไรดีพระเจ้าค่ะ ฮ่องเต้ค่อยคุ้มครองปกป้องปัญญาชนและผู้อารักขามาโดยตลอด ทำลายผนึกจูเสินก็เพื่อพวกเขา ตอนนี้พวกเขากลับต้องการ......”
“ขัดขวางไม่ได้ใช่ไหม?เสด็จแม่เพิ่งจะเริ่มลงมือใช่ไหม?”
“ขวางไม่ได้พระเจ้าค่ะ มีคนมากมายเข้าร่วมด้วย” ขันทีหม่าส่ายหน้า “ตอนนี้ประชาชนมากมายกำลังพูดกันว่า ราชครูเป็นตัวประหลาด เป็นพวกแปลกประหลาด โอรสสวรรค์ไม่ยอม”
“ช่างน่าขำ!พวกเขาพูดอะไรกันมีหลักฐานไหม?”
“พวกเขาพูดว่า” เห็นกับตาว่าโอรสสวรรค์โกรธอย่างมาก ขันทีหม่าก้มหน้าลง:“เขา พวกเขามีหลักฐานคือ เซียวเฉวียนและไป๋ฉี่มีรอยตราสีแดงอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว”
“มีเพียงเท่านี้?” ฮ่องเต้ทรงพูด:“นั่นเป็นเพราะผนึกจูเสินสะท้อนพลังกลับทิ้งรอยตราไว้ มีปัญหาอะไร?”
“ฝ่าบาท แต่ประชาชนคนธรรมดาไม่รู้พระเจ้าค่ะ พวกเขาก็พูดต่อๆกันไป” ขันทีหม่าเช็ดเหงื่อบนหน้าผากที่ไหลออกมา
ฮ่องเต้เงยพระพักตร์ขึ้น: “ทำลายผนึกจูเสินเป็นสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น ทำไมไท่เฮาถึงทำอย่างนั้น?”
“เพื่อพระองค์!”
“ถึงแม้ว่าจะเป็นผนึกจูเสิน ก็ไม่สำคัญเท่าพระองค์!”
ในตอนนี้ ไท่เฮาตรัสน้ำเสียงเยือกเย็น ตรัสแทรกขึ้นระหว่างการสนทนาของฮ่องเต้กับขันทีหม่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...