เด็กสาวกระพริบตาปริบ ๆ “ท่านพ่อกำลังเป็นห่วงว่าข้าเรียนไม่เก่งใช่หรือไม่?”
เจ้าเด็กคนนี้ช่างไม่ย่อท้อจริง ๆ!
ไร้ยางอาย!
หน้าด้านหน้าทนราวกับโบกปูน!
ทำไมเหมือนตัวเองได้มากขนาดนี้กันนะ!
เซียวเฉวียนมองเด็กสาวผู้นี้ เหมือนกำลังส่องกระจกแล้วเห็นตัวเอง!
เด็กสาวยืนอยู่ท่ามกลางป่าเขาฤดูใบไม้ร่วงที่แสนจะหดหู่ ผิวสีขาวซีด ตาโตสุกใสราวกับกวางน้อยที่กำลังออกหาอาหารยามเช้าตรู่ ขนตายาวของนางพลิ้วไหว เค้าโครงและอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้ามีความคล้ายคลึงกับเซียวเฉวียนอยู่บ้าง รูปร่างลักษณะมีความผสมผสานของไอเทพและความองอาจ
เซียวเฉวียนเดาว่า ความองอาจของนางได้มาจากเขา และไอเทพได้มาจากชวีฝาน
เห้อ...
ในตอนนั้นชวีฝานตายอย่างน่าเวทนา ชวีจงเทียนทุกข์ทรมานมานาน เด็กสาวคนนี้ไม่ได้มีความหมายและความรู้สึกที่มากมายสำหรับเซียวเฉวียน ทว่าสำหรับชวีจงเทียนแล้ว การมีอยู่ของเด็กสาว อาจทำให้หัวใจของชวีจงเทียนได้รับการเยียวยาบ้าง
“ข้ารับเจ้าไว้ได้ แต่เจ้าไม่ต้องมาตามติดข้า เจ้าไปอยู่กับท่านตาชวีจงเทียน เขาคือท่านลุงของท่านแม่เจ้า เขาเป็นคนที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง และเขาจะรักเจ้าเป็นอย่างมาก”
เซียวเฉวียนวางแผนจะให้เงินกับชวีจงเทียนสักก้อน ถึงตอนนั้นจะได้ซื้อบ้านหลังใหม่ และรับประกันความเป็นอยู่ของพวกเขาทั้งสอง หมดกังวลเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์และอาหารการกิน
แม้เด็กสาวเป็นดาบวิญญาณ ทว่าในเมื่อนางเรียกเขาว่าท่านพ่อ เซียวเฉวียนก็ไม่อาจเมินเฉยต่อนางได้ อีกอย่างในตัวของนางก็มีสายเลือดของเซียวเฉวียนอยู่ครึ่งหนึ่งด้วย
คาดไม่ถึงว่าเด็กสาวจะต่อต้านอย่างหนัก และปฏิเสธอย่างราบคาบ “ข้าไม่อยู่กับคนอื่น ข้าจะอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่! ท่านแม่ตายแล้ว หากท่านพ่อไม่ต้องการข้า ข้าก็จะอยู่ในป่าเขาแห่งนี้!”
“เช่นนั้นเจ้าจะกินอะไร?”
เซียวเฉวียนพูดประโยคหนึ่งกับเด็กสาวด้วยความโมโห ในเมื่อตัวเองเป็นนักกินจอมตะกละ เช่นนั้นเด็กคนนี้ก็ต้องเป็นเหมือนเขาแน่นอน และต้องมีรสนิยมคล้ายกับเขาเป็นแน่
เซียวเฉวียนยังไม่เชื่อว่า เจ้าเด็กน้อยคนนี้จะอดทนกินเพียงผลไม้ป่าและน้ำเย็นได้
นางจะต้องเป็นเด็กสาวที่ชอบกินเนื้อและชาร้อน ๆ อย่างแน่นอน!
สุดท้าย เด็กสาวที่เมื่อครู่บอกว่าจะอยู่ในป่าเขาด้วยท่าทางองอาจผึ่งผาย ครุ่นคิดเรื่องนี้ที่สำคัญกว่าสิ่งใดอย่างเหม่อลอย และสิ่งที่ไม่ทำให้เซียวเฉวียนต้องผิดหวังก็คือ เด็กสาวผู้นี้ยอมแพ้รวดเร็วราวสายฟ้าแลบ “ท่านพ่อ เช่นนั้นข้าไม่อยู่ที่นี่แล้วดีกว่า”
“นี่ แบบนี้ค่อยว่าง่ายหน่อย!” เซียวเฉวียนยิ้มอย่างภูมิใจ ในที่สุดเขาก็เชี่ยวชาญวิธีสื่อสารกับเด็กสาวแล้ว นิสัยของเขาต้องคล้ายกันกับเด็กสาวด้วยสิ! ตราบใดที่รู้วิธีในการจัดการตัวเอง ก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ เลย ทว่าในตอนที่เซียวเฉวียนกำลังคิดว่าเขาจัดการเด็กสาวได้อยู่หมัดนั้น เด็กสาวกลับก้มหน้าลง “แต่ข้า... ไม่อยากอยู่กับท่านตา”
เซียวเฉวียนมีกลิ่นอายที่คุ้นเคย เด็กสาวอยู่ข้างกายเขาก็รู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างมาก ตอนนี้จะให้นางไปอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างชวีจงเทียน เท่ากับว่าให้นางเป็นเด็กถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังคนหนึ่ง จากนั้นก็ต้องห่างไกลจากพ่อแม่ เด็กสาวกังวลใจเช่นนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
เซียวเฉวียนพูดเสียงเบา “ลูก เขาไม่ใช่คนแปลกหน้า เขาเป็นท่านลุงของท่านแม่เจ้า”
“เขาเป็นคนที่รักท่านแม่ของเจ้ามากที่สุดในโลกใบนี้”
หลังจากชวีฝานตาย ชวีจงเทียนหงอยเหงาเศร้าสร้อยอย่างมาก เดิมทีเขาควรจะมีอนาคตที่สดใส กลับเลือกลาออกจากขุนนางและหมกตัวอยู่ในบ้าน ปล่อยให้จวนชวีเสื่อมโทรม
ตอนที่ชวีฝานยังอยู่บนโลกในบี้ ชวีจงเทียนไม่ต้องการให้หลานสาวต้องน้อยเนื้อต่ำใจ เขาไม่แม้แต่จะแต่งงานหรือมีทายาท
ชวีจงเทียนเลี้ยงดูชวีฝานราวกับลูกสาวแท้ ๆ จนเติบใหญ่ ตั้งใจอบรมเลี้ยงดูจนนางได้เป็นปรมาจารย์วรรณคดีหญิงที่เลื่องชื่อในเมืองหลวง สถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยอันตรายในความมืดมิด เห็นได้ว่าเขาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจแก่ชวีฝาน ซึ่งไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่คนอื่นเลย และอาจจะมากกว่า ลึกซึ้งกว่าผู้อื่นเสียด้วยซ้ำ
การที่ลูกตายตั้งแต่เยาว์วัย ถือเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมานที่สุดในโลก ซึ่งสำหรับชวีจงเทียนแล้ว มันทรมานเสียยิ่งกว่าการกรีดเลือดกรีดเนื้อ เซียวเฉวียนมองเด็กสาวอย่างนิ่ง ๆ “ท่านตาชวีทุกข์ทรมานมาเนิ่นนานแล้ว การปรากฏตัวของเจ้าจะช่วยเยียวยาเขาได้บ้าง วิญญาณท่านแม่เจ้าบนสวรรค์ก็คงรู้สึกขอบใจเจ้าไม่น้อย”
“ข้าก็จะขอบใจเจ้าเช่นกัน”
เซียวเฉวียนไม่แน่ใจว่าเด็กสาวที่เป็นดาบวิญญาณ ขะสามารถเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้หรือไม่ และไม่แน่ใจว่านางเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ แต่เขาต้องทำให้เด็กคนนี้รู้ว่า ในเมื่อนางยอมรับเซียวเฉวียนและชวีฝานเป็นพ่อแม่ เจ้าก็เกิดจากเลือดบริสุทธิ์ของพ่อแม่ เช่นนั้นเจ้าต้องตอบแทนในบุญคุณที่ได้เกิดมา
เซียวเฉวียนไม่ต้องการให้นางมาตอบแทนเขา แต่หวังให้เด็กคนนี้ปลอบโยนชวีจงเทียนแทนชวีฝาน พ่อผู้น่าสงสารที่สูญเสียลูกสาวคนหนึ่งไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...