สรุปตอน บทที่ 694 สติปัญญาที่สูงส่ง – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 694 สติปัญญาที่สูงส่ง ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ชวีจงเทียนที่กำลังสะลึมสะลือจากการงีบช่วงบ่าย เขาขยี้ตา ในอกของเขายังคงหนีบขวดที่เคยใส่เลือดบริสุทธิ์ของชวีฝานไว้แน่น ด้านในขวดเหลือเพียงความว่างเปล่า สะอาดและโปร่งแสง
หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปมาหาเขา เขาไม่เคยสนใจเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเหล่าขุนนางในราชสำนัก ชวีจงเทียนยิ่งไม่อยากพบ
แต่เซียวเฉวียนกลับไม่เป็นเช่นนั้น เลือดบริสุทธิ์ของชวีฝานอยู่กลางระหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน เมื่อได้พบเซียวเฉวียน ชวีจงเทียนทำราวกับว่าได้พบชวีฝาน ซึ่งยังคงมีความคิดถึงอยู่บ้าง
เขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าเซียวเฉวียนไม่เพียงแค่คิดถึงเขา แต่ยังนำเด็กสาวมาให้เขาอีกด้วย!
เขาจำเสียงของเซียวเฉวียนได้ในทันที และรีบออกมาจากบ้านหลังน้อยที่แสนทรุดโทรม “เจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอันใด?”
เขาที่เดินออกมา ก็พบกับเซียนชิวในทันที
เขาเริ่มจากความตกใจ จากนั้นก็อึ้ง ตามด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ
เซียนชิวไม่เพียงมีบุคลิกที่คล้ายคลึงกับเซียวเฉวียน แต่ยังมีเงาสะท้อนที่คล้ายกับชวีฝาน
ชวีจงเทียนมองเพียงแวบเดียวก็เห็นสิ่งที่คล้ายกันของเด็กสาวและชวีฝาน เช่นเดียวกับไป๋ฉี่ที่สามารถรู้สึกได้เหมือนกันว่า เด็กสาวคนนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับนายท่านอยู่มาก
“เจ้า... เจ้าคือ...”
ชวีจงเทียนน้ำตาไหลอาบแก้มสองข้าง เซียวเฉวียนรีบเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ เมื่อชวีจงเทียนฟังจบก็สั่นเทิ้มไปทั้งตัว “นางเกิดจากเลือดบริสุทธิ์ของฝานเอ๋อร์จริงหรือ?”
“หากพูดให้ถูก เพียงแค่ครึ่งเดียว” เซียนชิวแยกอย่างชัดเจน ความสามารถของท่านพ่อก็ควรถูกกล่าวถึงด้วย
หน้าตาละม้ายกันมาก
เสียงก็เหมือนกัน
น้ำเสียงและท่าทางการพูดคล้ายกันมากจริง ๆ
ชวีจงเทียนตื่นเต้นอย่างที่เซียวเฉวียนคาดไว้ “จะ เจ้า หนู ขะ ขะ ข้าเป็นท่านตาของเจ้า”
“ให้ตายเถอะ สภาพเช่นนี้ของข้า จักทำให้เด็กตกใจแย่เป็นแน่”
ชวีจงเทียนเนื้อตัวเลอะเทอะ เสื้อผ้าหลุดรุ่ย ผมและหนวดเคราทั้งยาวและพันกันยุ่งเหยิง เขายุ่งวุ่นวายกับการจัดการรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเอง เกรงว่าจะสร้างความประทับใจแรกที่ไม่ดีให้แก่เด็กสาว
“ท่านชวี อย่าได้รีบร้อนเลย” เซียวเฉวียนเชื่อว่า เซียนชิวไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก อย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็จะเชื่อฟังเขา “จากนี้ต้องรบกวนท่านดูแลเด็กคนนี้ด้วย นี่คือค่าเลี้ยงดู เพียงพอที่จะให้ท่านซื้อบ้านหลังใหม่และเสื้อผ้าอาหาร ผ่านไปสักระยะหนึ่ง ข้าจะส่ังให้คนนำเงินมาให้ท่านอีก”
บ้านงั้นหรือ?
ชวีจงเทียนมองเซียวเฉวียน “อยู่ที่จวนชวีไม่ได้งั้นรึ?”
ที่แห่งนี้คือสถานที่ที่ชวีฝานเติบโตขึ้นมา ก่อนที่มันจะทรุดโทรมเช่นนี้ บ้านถูกตกแต่งตามที่ชวีฝานชอบ สวนทุกสวนล้วนเป็นดอกแอปเปิลปูที่ชวีฝานชอบ
ดอกแอปเปิลปูเป็นไม้ยืนต้นในตระกูลดอกไห่ถัง สูงตระหง่านราวกับเด็กสาวที่สะโอดสะอง ดอกสีแดง ใบสีเขียว ผลงาม ไม่ว่าจะเป็นปลูกเดี่ยว ๆ ปลูกเป็นแถว หรือปลูกเป็นไม้พุ่ม ล้วนมีความสวยงามมาก
ดอกของมันมีสีสดใส ดอกสีแดงอมชมพู ใบไม้สีเขียวสวยงาม ผลไม้น่าอร่อยและน่ารับประทาน ไม่ว่าจะปลูกเดี่ยว ๆ ปลูกเป็นแถว หรือเป็นพุ่มต่างก็ดูงามตา เหมาะที่สุดสำหรับปลูกริมน้ำหรือตามมุมสวนเล็กๆ
บทกวีชื่นชมดอกไห่ถังของกัวเจินในยุคฮว๋าเซี่ย กล่าวไว้ว่า : ริมรั้วแดงมีบุปผาสะท้อนน้ำ ดอกไม้งามส่งกลิ่นหอมรอบผนัง
นี่คือการเขียนพรรณนาดอกแอปเปิลปูได้สมจริงที่สุด เมื่อดอกไห่ถังบานสวยงามสะดุดตาผู้คน แต่ดอกไห่ถังทั่วไปจะไม่มีกลิ่นหอม มีเพียงดอกแอปเปิลปูที่ทั้งหอมและสวยรัญจวนใจ เป็นตระกูลของดอกไห่ถังที่ล้ำค่า เมื่อดอกไม้ยังไม่บาน ดอกตูมจะมีสีแดงสดเหมือนจุดสีแดง และหลังจากบานแล้ว จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูเหมือนรุ่งสาง
ชวีฝานชื่นชอบดอกแอปเปิลปูเป็นที่สุด ชวีจงเทียนจึงปลูกไว้เต็มจวน เหตุผลที่เขาไม่เคยจากจวนชวีไปไหน ก็เป็นเพราะดอกไห่ถังเหล่านี้ต้องการคนดูแล
หลังจากชวีฝานจากโลกนี้ใบแล้ว แต่ดอกไห่ถังยังคงมีชีวิตอยู่ ชวีจงเทียนก็ยังพอหายคิดถึงอยู่บ้าง
“ลูกของข้าคนนี้ต้องใช้เงินไม่น้อย ค่าใช้จ่ายไม่ควรให้ท่านตาต้องรับผิดชอบเพียงผู้เดียว แค่ท่านออกแรงช่วย ข้าก็ซาบซึ้งมากแล้ว เหตุใดยังต้องให้ท่านเสียเงินด้วยเล่า?”
น้ำเสียงและท่าทางของเซียวเฉวียน เปี่ยมล้นในด้วยการกระทำของผู้เป็นพ่อ เซียนชิวยืนยิ้มตาหยีอยู่ข้าง ๆ โอ้โห ท่านพ่อของข้าร่ำรวยเสียจริง! หากไม่ใช้เงินให้เยอะ เกรงว่าจะดูถูกความสามารถของท่านพ่อเสียแล้ว!
ชวีจงเทียนถือตั๋วเงินใบนั้นไว้ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ที่มีความซื่อตรง เงินก้อนนี้มีค่ามากนัก เขาไม่สบายใจที่จะรับไว้
“ท่านตา! ท่านพ่อให้ไว้ ท่านรับไว้เสียเถอะนะ! ข้ายังต้องใช้เงินอีกมาก!”
เซียนชิวพูดขึ้นเสียงใส ชวีจงเทียนยังคงลังเลอยู่ เด็กน้อยไม่รู้ประสา แต่ผู้ใหญ่จะทำตัวไม่รู้ประสาได้อย่างไรกัน “เจ้าหนู แต่นี่...”
เซียนชิวเป็นเด็กน้อยที่รู้จักออดอ้อน นางจับมือชวีจงเทียนอย่างเป็นกันเอง พร้อมเขย่าแขนของเขา “ท่านตา ท่านพ่อของข้าไม่หวงเงินเลยสักนิด ท่านตาจะคิดมากไปไยกัน? ตอนนี้เลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ก็ต้องใช้เงินไม่น้อย! ท่านรับเงินไว้ซื้อเสื้อผ้าและของอร่อย ๆ ให้ข้า ดีหรือไม่? ท่านรับไว้เถอะ!”
เซียวเฉวียนพยักหน้า หากต้องซ่อมแซมจวนชวีก็ต้องใช้เงินอีกมาก การฟื้นฟูจวนชวีให้อยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อก่อน ถือเป็นคำขอบคุณของเซียวเฉวียนที่ชวีจงเทียนได้ช่วยชีวิตไว้
เซียนชิวทั้งออดอ้อน ทั้งร้องขอ และแสดงท่าทางง้องอน เล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวของนาง ทำให้ชวีจงเทียนไม่อาจต้านทานได้ไหว “ได้ ๆ ๆ ท่านตาจะรับไว้ รับไว้แล้วนะ”
“อื้ม! ดีเพคะ!” เซียนชิวพยักหน้า และหันไปกระพริบตาปริบ ๆ ให้เซียวเฉวียน “ท่านพ่อ หากข้าใช้หมดแล้ว ข้าจะขอท่านเพิ่มอีก!”
“ได้สิ!” เซียวเฉวียนพยักหน้าด้วยความใจกว้าง เรื่องเงินเป็นเรื่องเล็ก ขอเพียงเจ้าเด็กนี่ไม่ตามเขาต้อย ๆ ก็พอแล้ว
เมื่อฝากฝังเซียนชิวแก่ชวีจงเทียนแล้ว เซียวเฉวียนจึงขอตัวลา
เซียนชิวไปยืนส่งเขาที่หน้าประตูจวนชวีอย่างอาลัยอาวรณ์ และพูดในสิ่งที่ทำให้เซียวเฉวียนต้องตกตะลึง “ท่านพ่อ ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดี ข้าจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านตา ข้ารู้ว่าท่านพ่อไม่ได้รังเกียจเซียนชิว ท่านพ่อเพียงรู้สึกว่ารอบกายท่านมีแต่ความอันตราย จึงไม่อยากให้ข้าคอยตามไปด้วย...”
ดาบวิญญาณมีสติปัญญาที่สูงส่ง สูงส่งเกินกว่าที่เซียวเฉวียนคาดไว้
นางไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...